Keyword
ลงทุนก้าวแรก

อ่านงบการเงินให้ขาด ช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุน

6 Jun 25 10:36 AM
วิธีอ่านงบการเงินเบื้องต้น ลดความเสี่ยงก่อนเริ่มลงทุน
สรุปสาระสำคัญ

ในการลงทุนหุ้น นอกจากการติดตามข่าวสารหรือศึกษาภาพรวมเศรษฐกิจแล้ว การอ่านงบการเงินของบริษัทที่เราอยากเข้าไปลงทุน เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้นักลงทุนเข้าใจสุขภาพทางการเงินของบริษัทได้อย่างแท้จริง เพราะงบการเงินไม่เพียงแต่สะท้อนผลการดำเนินงานในอดีต แต่ยังบอกถึงแนวโน้มของการดำเนินงานในอนาคต ทั้งยังช่วยประเมินความแข็งแกร่งทางธุรกิจ ความสามารถในการทำกำไร และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างรอบด้าน ดังนั้น นักลงทุนที่อ่านงบการเงินขาด จะสามารถลดความเสี่ยงในการลงทุน และตัดสินใจเลือกหุ้นที่มีพื้นฐานดีได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

นักลงทุนควรอ่านงบการเงินก่อนตัดสินใจลงทุน

  

งบการเงินคืออะไร มีความสำคัญอย่างไร ?

งบการเงิน คือ เอกสารที่แสดงข้อมูลเกี่ยวกับสถานะทางการเงิน และผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วงเวลาหนึ่ง โดยบริษัทที่เข้าตลาดหลักทรัพย์จะต้องจัดทำงบการเงินตามมาตรฐานบัญชีที่กำหนด เพื่อให้นักลงทุนสามารถใช้เป็นข้อมูลในการวิเคราะห์ ก่อนตัดสินใจลงทุน

  

การอ่านงบการเงินมีความสำคัญมากต่อการลงทุน เพราะช่วยให้นักลงทุนสามารถประเมินได้ว่าบริษัทมีรายได้กำไรสม่ำเสมอหรือไม่ มีฐานะการเงินมั่นคงเพียงใด มีภาระหนี้สินมากน้อยแค่ไหน และมีความสามารถในการดำเนินธุรกิจในระยะยาวหรือไม่

พูดง่าย ๆ ก็คือ เป็นข้อมูลทางการเงินที่ช่วยให้นักลงทุนดูสุขภาพทางการเงินของธุรกิจอย่างรอบด้านนั่นเอง

  

องค์ประกอบของงบการเงินมีอะไรบ้าง ต้องดูจุดไหนเป็นพิเศษ

โดยทั่วไปงบการเงินมีองค์ประกอบที่สำคัญ 3 อย่าง ซึ่งทั้ง 3 องค์ประกอบก็สามารถบ่งชี้ถึงสุขภาพการเงินในด้านที่แตกต่างกัน ดังต่อไปนี้

  

งบแสดงฐานะการเงิน (Statement of Financial Position) มีอะไรบ้างที่ต้องพิจารณา

งบแสดงฐานะการเงินหรือที่หลายคนเรียกว่า "งบดุล" แสดงรายการที่สำคัญดังต่อไปนี้

  

  • สินทรัพย์ เช่น เงินสด ลูกหนี้ สินค้าคงเหลือ ที่ดิน อาคาร และทรัพย์สินต่าง ๆ ที่เป็นของบริษัท
  • หนี้สิน เช่น เจ้าหนี้ ธนาคาร สินเชื่อระยะยาว
  • ส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันสิ้นงวด เช่น ทุนจดทะเบียน กำไรสะสม เงินสำรองต่าง ๆ

  

ซึ่งนักลงทุนจะต้องพิจารณาว่า บริษัทมีสินทรัพย์หมุนเวียนเพียงพอที่จะจ่ายหนี้ระยะสั้นหรือไม่ รวมถึงมีหนี้สินต่อทุนสูงเกินไปหรือไม่ (Debt to Equity Ratio) เพื่อดูแนวโน้มของกิจการและการเติบโตในระยะยาว

  

งบกำไรขาดทุน (Statement of Comprehensive Income) คืออะไร ทำไมสำคัญ ?

งบกำไรขาดทุน คือ การสรุปว่าบริษัทมีผลการดำเนินงานเป็นอย่างไร หากยิ่งได้กำไรสูงก็ยิ่งแสดงถึงศักยภาพในการบริหารงาน โดยมีข้อมูลที่สำคัญดังต่อไปนี้

  

  • รายได้ จากการขายสินค้าหรือบริการ
  • ค่าใช้จ่ายหรือต้นทุน ที่เกิดจากการดำเนินงานต่าง ๆ
  • กำไรสุทธิของบริษัท หรือ ขาดทุนสุทธิของบริษัท ซึ่งมาจากรายได้หักด้วยค่าใช้จ่าย

  

สำหรับข้อมูลสำคัญที่ต้องสังเกตก็จะมีตั้งแต่ มีรายได้เติบโตต่อเนื่องหรือไม่ อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) และกำไรสุทธิ (Net Profit Margin) เพิ่มขึ้นหรือลดลง มีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้ได้กำไรหรือขาดทุน หากบริษัททำกำไรได้ต่อเนื่องทุกปีหรือมีกำไรเฉลี่ยที่ดี จะเป็นสัญญาณที่ดี และเป็นบริษัทที่น่าลงทุน

  

งบกระแสเงินสด (Statement of Cash Flows) ต้องสัมพันธ์กับกำไร

งบกระแสเงินสดเป็นองค์ประกอบเพื่อใช้วิเคราะห์กระแสเงินสดที่เข้า-ออกจากการทำกิจกรรมหลัก ได้แก่

  

  • กิจกรรมดำเนินงาน เช่น การขายของ การจ่ายเงินเดือนพนักงาน
  • กิจกรรมลงทุน เช่น การซื้อเครื่องจักรใหม่ ลงทุนในธุรกิจใหม่ ๆ
  • กิจกรรมจัดหาเงินทุน เช่น การกู้เงิน การออกหุ้นกู้ การจ่ายปันผลต่าง ๆ

  

จุดสำคัญที่ต้องสังเกตคือ บริษัทมีเงินสดจากการดำเนินงานเป็นบวกสม่ำเสมอหรือไม่ หากบริษัทมีกำไรมาก แต่กระแสเงินสดติดลบ อาจมีปัญหาในการบริหารเงินสด หรือ อาจเกิดจากการไม่สามารถเก็บเงินจากลูกหนี้การค้าได้ ซึ่งเสี่ยงต่อการลงทุน

  

งบการเงินช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจที่จะซื้อหรือลงทุนดีหรือไม่

  

เทคนิคการเลือกลงทุนจากงบการเงินของบริษัท

การวิเคราะห์งบการเงินเป็นทักษะที่สำคัญของนักลงทุนสายพื้นฐาน (Fundamental Investor) เพราะช่วยให้เราสามารถวิเคราะห์แนวโน้มการเติบโตของบริษัทก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน เพราะบางครั้งมองแต่ตัวเลข “กำไร” และ “ขาดทุน” อย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ เพราะในบางครั้งอาจมีตัวเลขแฝงที่เป็นกลลวงล่อนักลงทุนมือใหม่ก็เป็นได้ โดยมีวิธีอ่านงบการเงินดังต่อไปนี้ ที่เหล่านักลงทุนสามารถนำไปปรับใช้ได้

  

วิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงิน

 เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยชี้วัดตัวเลขในงบการเงินได้ง่ายขึ้น สามารถบอกได้ว่า น่าเข้าไปลงทุนหรือไม่ โดยอัตราส่วนที่ควรให้ความสำคัญมีดังนี้

  

  • อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) เป็นการวัดประสิทธิภาพการควบคุมต้นทุนสินค้า โดยเปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยในกลุ่มอุตสาหกรรมเพื่อดูว่าบริษัทมีข้อได้เปรียบด้านต้นทุนหรือไม่

  

สูตรการคำนวณอัตรากำไรขั้นต้น (%) = (กำไรขั้นต้น ÷ ยอดขาย) x 100

  

  • อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) คือ อัตราส่วนทางการเงินที่แสดงความสามารถของบริษัทในการทำกำไรสุทธิจากยอดขายทั้งหมด ยิ่งกำไรสุทธิสูงต่อเนื่องแสดงว่ามีความสามารถในการควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายมากเท่านั้น

  

สูตรการคำนวณอัตรากำไรสุทธิ (%) = (กำไรสุทธิ ÷ ยอดขาย) x 100

  

  • ผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น (Return on Equity หรือ ROE) คือ อัตราส่วนทางการเงินที่แสดงความสามารถในการสร้างกำไรสุทธิจากเงินลงทุนของผู้ถือหุ้น การมี ROE ที่สูงอย่างสม่ำเสมอจะสะท้อนถึงความสามารถในการทำกำไรและเติบโตอย่างยั่งยืน แต่ ROE ที่สูงเกินไป อาจเป็นเพราะบริษัทมีหนี้สินสูงได้เช่นเดียวกัน

  

สูตรการคำนวณ ROE = (กำไรสุทธิ ÷ ส่วนของผู้ถือหุ้น) x 100

  

  • อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) เป็นอัตราส่วนที่ใช้สะท้อนโครงสร้างเงินทุน เพื่อดูว่าเป็นหนี้มากเพียงใด หากมีค่า D/E เกิน 1.5 ควรตรวจสอบสถานะการชำระหนี้ของบริษัท

  

สูตรการคำนวณ D/E = หนี้สินรวม ÷ ส่วนของผู้ถือหุ้น

  

ดูแนวโน้มการเติบโตของบริษัท

การวิเคราะห์งบการเงินที่ดี ไม่ควรจะดูตัวเลขในช่วงเวลาเดียว หรือในปีเดียว แต่ควรเทียบย้อนหลังไป 3-5 ปี เพื่อดูแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของรายได้ กำไรสุทธิ กระแสเงินสด

  

ตรวจสอบกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน

บริษัทที่มีรายได้เยอะแต่กระแสเงินสดติดลบต่อเนื่อง อาจเป็นสัญญาณเตือนถึงปัญหาทางการเงินในอนาคต

  

วิเคราะห์หนี้สิน

ลองตรวจสอบว่าหนี้สินของบริษัทถูกนำไปใช้ในการขยายบริษัท หรือเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงบริษัทที่มีภาระหนี้สูงเกินไป เพราะเสี่ยงต่อการผิดนัดชำระหนี้ในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว

  

เริ่มลงทุนวันนี้กับ InnovestX

ยกระดับการลงทุนอย่างมั่นใจ เริ่มต้นจากการอ่านงบการเงินให้เป็น เพื่อเสริมพื้นฐานด้านการวิเคราะห์บริษัทให้แม่นยำ ก็จะช่วยให้สามารถวางแผนลงทุนได้อย่างรอบคอบ มาค้นหาแนวทางการลงทุนที่ใช่สำหรับคุณได้ที่ Cafe Invest จาก InnovestX แหล่งความรู้ที่นักลงทุนตัวจริงเลือกเรียนรู้ก่อนตัดสินใจ มีให้ลงทุนครบทุกสินทรัพย์ ทั้งหุ้นไทยแลหะหุ้นต่างประเทศจากทั่วโลกถึง 23 ประเทศ 31 ตลาด และกองทุนรวมกว่า 2,000 กองทุน จาก 21 บลจ.

  

กำเนิดจักรวาลใหม่แห่งการลงทุน กับ InnovestX บริษัทหลักทรัพย์ในกลุ่ม SCBX ที่มีครบทุกเรื่อง ทั้งเครื่องมือและข้อมูลเพื่อคว้าทุกโอกาสการลงทุนทั่วโลก ดาวน์โหลดแอป InnovestX และสมัครสมาชิกได้ฟรี ทั้ง App Store, Google Play Store และ Huawei Gallery

  

คำเตือน

*การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศโดยตรงมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน

  

ข้อมูลอ้างอิง

  1. วิเคราะห์งบการเงินเบื้องต้น ก่อนตัดสินใจลงทุน. สืบค้นเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 จาก https://www.setinvestnow.com/th/knowledge/article/111-tsi-analyze-financial-statement-before-investing-in-stocks
  2. อ่านงบให้ทะลุ รู้ทันสัญญาณอันตราย. สืบค้นเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 จาก https://www.setinvestnow.com/th/knowledge/article/604-tsi-warning-signs-in-financial-statements
Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5