Keyword
ลงทุนก้าวแรก

คู่มือวางแผนเกษียณสไตล์มนุษย์เงินเดือน ทำตามได้จริง !

17 Jul 25 3:13 PM
เรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับการวางแผนเกษียณของมนุษย์เงินเดือน
สรุปสาระสำคัญ

สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่อายุ 30-40 ปี คำว่า “เกษียณ” อาจยังฟังดูเหมือนเรื่องไกลตัว ได้ยินเมื่อไรก็คิดว่าเดี๋ยวค่อยวางแผนก็ได้ แต่ความจริงแล้วการวางแผนเกษียณอายุยิ่งเริ่มเร็วเท่าไร โอกาสมีชีวิตหลังเกษียณที่มั่นคงและอิสระทางการเงินก็ยิ่งเป็นไปได้มากขึ้นเท่านั้น เพราะเราไม่ได้แค่ต้องการ "เงินพอใช้" แต่ต้องการ "เงินที่ทำให้ใช้ชีวิตได้อย่างสบายใจ โดยไม่ต้องพึ่งพาลูกหลาน" คำถามคือ แล้วมนุษย์เงินเดือนแบบเราควรเริ่มต้นจัดพอร์ตลงทุนเพื่อเป้าหมายเกษียณอย่างไรดี ? บทความนี้มีคำตอบแบบเข้าใจง่ายและทำตามได้จริง พร้อมแนะนำกลยุทธ์ที่เหมาะกับยุคที่ทุกอย่างเปลี่ยนไปเร็วอย่างทุกวันนี้

คู่รักช่วยกันวางแผนเกษียณเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีในอนาคต

  

ก่อนเริ่มต้องรู้เป้าหมายก่อน “การเกษียณในฝันต้องใช้เงินเท่าไร ?”

ก่อนจะพูดถึงการจัดพอร์ตหรือกลยุทธ์ใด ๆ คำถามแรกที่ต้องตอบให้ได้คือ “เราต้องการเงินเท่าไรหลังเกษียณ ?” และเมื่อรู้คำตอบของคำถามนี้แล้ว จะเป็นเหมือนเข็มทิศของแผนการเงินทั้งหมด

วิธีคำนวณที่ง่ายและใช้กันทั่วไปคือ 

  

ค่าใช้จ่ายต่อเดือน × 12 เดือน × จำนวนปีหลังเกษียณ

ตัวอย่างเช่น หากต้องการใช้เงินเดือนละ 40,000 บาท และคาดว่าจะใช้ชีวิตหลังเกษียณอีก 25 ปี
= 40,000 × 12 × 25 = 12 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนี้ยังไม่รวมผลของเงินเฟ้อ สมมติว่าเงินเฟ้อเฉลี่ยอยู่ที่ 4% ต่อปี ค่าใช้จ่ายจริงหลังเกษียณในอีก 30 ปีข้างหน้าจะสูงกว่านี้มาก ดังนั้น การวางแผนเกษียณด้วยพอร์ตลงทุนที่เติบโตเร็วกว่าเงินเฟ้อจึงเป็นหัวใจสำคัญ

  

แค่เก็บเงินออมอาจไม่พอ ต้อง “ให้เงินทำงาน” ผ่านการลงทุน

มนุษย์เงินเดือนหลายคนยังคงยึดมั่นกับ “ความมั่นคง” จึงเลือกที่จะเก็บเงินเกษียณไว้ในที่ที่พวกเขาคิดว่า “ปลอดภัยและมั่นคงที่สุด” อย่างเงินฝากออมทรัพย์หรือประกันชีวิตแบบบำนาญ แต่ในยุคที่อัตราดอกเบี้ยต่ำติดดินแบบปัจจุบัน การออมอย่างเดียวแทบไม่พอให้เงินเติบโตทันความต้องการ สิ่งที่ต้องเข้าใจคือ "เงินเฟ้อไปเร็วแบบจรวด แต่เงินในบัญชีออมทรัพย์ของคุณไปช้าเหมือนเต่า"

ดังนั้น วิธีรับมือคือการให้เงินทำงานผ่านการลงทุน โดยใช้พลังของดอกเบี้ยทบต้น (Compound Interest) ซึ่งจะยิ่งมีประสิทธิภาพเมื่อคุณเริ่มลงทุนเร็วและปล่อยเงินไว้นาน

  

กลยุทธ์การจัดพอร์ตตามช่วงวัย

การจัดพอร์ตลงทุนสำหรับวางแผนเกษียณสไตล์มนุษย์เงินเดือนไม่ควรใช้สูตรตายตัว เพราะความสามารถในการรับความเสี่ยง (Risk Tolerance) และเป้าหมายทางการเงินจะเปลี่ยนแปลงตามช่วงอายุของผู้ลงทุน การออกแบบพอร์ตจึงควรปรับให้สอดคล้องกับระยะเวลาการลงทุนที่เหลืออยู่ และความมั่นคงทางรายได้ในแต่ละช่วงวัย ดังนี้ 

  

อายุ 25–35 ปี: ช่วงสะสมทุนแบบรับความเสี่ยงได้

นี่คือช่วงเวลาทองของชีวิตนักลงทุน เพราะคุณมีเวลานานพอที่จะให้เงินเติบโตผ่านวัฏจักรเศรษฐกิจหลายรอบ และสามารถรับความผันผวนในระยะสั้นได้โดยไม่ส่งผลต่อเป้าหมายวางแผนเกษียณมากนัก การเน้นลงทุนในสินทรัพย์ที่มีศักยภาพสร้างผลตอบแทนสูง เช่น หุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ ทองคำ หรือกองทุนต่าง ๆ จึงเหมาะสมกับช่วงอายุนี้ที่สุด

  

ตัวอย่างสัดส่วนของพอร์ตที่แนะนำ 

  • หุ้นไทย/หุ้นต่างประเทศ: 50-60%
  • กองทุนรวม/ETF: 10–20%
  • ทองคำ/บิตคอยน์: 10%
  • ตราสารหนี้หรือเงินสดสำรอง: 10%

  

อายุ 35–50 ปี: ช่วงปรับสมดุลและเสถียรภาพ

เมื่อเข้าสู่วัยกลางคน ผู้ลงทุนส่วนใหญ่มักมีภาระเพิ่มขึ้น ทั้งเรื่องครอบครัว ค่าเล่าเรียนลูก หรือผ่อนบ้าน จึงควรลดความเสี่ยงในพอร์ตลงบ้าง โดยเปลี่ยนจากที่เน้นการเติบโตเต็มที่ มาเป็นการสร้างความเสถียรควบคู่กับโอกาสการเติบโต พอร์ตในช่วงนี้จึงควรมีทั้งสินทรัพย์ผันผวนต่ำ เช่น REITs, กองทุนผสม และสินทรัพย์ที่ยังเติบโตได้ดีอย่างหุ้นหรือ ETF ต่างประเทศ

  

ตัวอย่างสัดส่วนของพอร์ตที่แนะนำ 

  • หุ้น/ETF: 50–60%
  • REITs/ตราสารหนี้/กองทุนผสม: 30–40%
  • เงินสดและสินทรัพย์สภาพคล่อง: 10%

  

อายุ 50 ปีขึ้นไป: ช่วงรักษาทรัพย์สินและสร้างกระแสเงินสด

พอร์ตในช่วงก่อนเกษียณควรเน้นการรักษามูลค่าเงินต้นเป็นหลัก โดยมองหาแหล่งรายได้ที่มั่นคง เช่น เงินปันผลหรือดอกเบี้ยจากตราสารหนี้ เพื่อเตรียมเข้าสู่ช่วงที่ต้องถอนเงินออกมาใช้จริง การลดสัดส่วนหุ้นและเพิ่มสินทรัพย์ที่มีความผันผวนต่ำจะช่วยลดความเสี่ยงจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันในช่วงใกล้เกษียณได้ 

  

ตัวอย่างสัดส่วนของพอร์ตที่แนะนำ

  • ตราสารหนี้/REITs: 60–70%
  • หุ้นปันผล/ทองคำ/กองทุน ESG ที่มั่นคง: 20–30%
  • เงินสดหรือสินทรัพย์สภาพคล่องสูง: 10%

  

กระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสม

คำสอนเก่าแก่ที่ว่า “อย่าใส่ไข่ทั้งหมดไว้ในตะกร้าใบเดียว” ยังคงใช้ได้เสมอ โดยเฉพาะการจัดพอร์ตเพื่อวางแผนเกษียณที่ยิ่งต้องอาศัยหลักการกระจายความเสี่ยงอย่างจริงจัง ตัวอย่างเช่น

  • การลงทุนข้ามภูมิภาค: อย่าจำกัดแค่หุ้นไทย ลองเพิ่มหุ้นสหรัฐฯ อินเดีย หรือเวียดนาม
  • การลงทุนข้ามสินทรัพย์: หุ้น, ตราสารหนี้, REITs, ทองคำ, กองทุน ESG หรือแม้แต่คริปโต (ในสัดส่วนที่ควบคุมได้)
  • การลงทุนหลายรูปแบบ: กองทุนรวม, ETF, หุ้นรายตัว และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD/Provident Fund) ที่มีอยู่แล้วจากบริษัท

  

การกระจายความเสี่ยงจะช่วยลดแรงกระแทกเมื่อเกิดวิกฤต และยังช่วยให้พอร์ตสำหรับการวางแผนเกษียณอายุมีโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืนด้วย

  

คู่รักวัยชรามีคุณภาพชีวิตที่ดีเพราะรู้จักการวางแผนเกษียณ

  

 

กลยุทธ์การลงทุนแบบเป็นระบบ

หนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้พอร์ตการลงทุนเพื่อเกษียณอายุไม่เติบโตตามแผน คือการลงทุนแบบไร้ระบบ ไม่มีวินัย ไม่มีเป้าหมาย และปล่อยให้อารมณ์เป็นตัวตัดสินทุกครั้งที่ตลาดผันผวน ด้วยเหตุนี้ การลงทุนแบบเป็นระบบจึงใช่แค่ “ทางเลือก” แต่เป็น “เครื่องมือจำเป็น” สำหรับการวางแผนเกษียณสไตล์มนุษย์เงินเดือนที่ต้องการวางแผนระยะยาวอย่างยั่งยืน เพราะจะช่วยควบคุมพฤติกรรมการลงทุนให้อยู่ในกรอบที่มีวินัย และสร้างผลลัพธ์ที่คาดการณ์ได้มากขึ้น โดย 2 กลยุทธ์หลักที่ควรรู้มีดังนี้

  

Dollar Cost Averaging (DCA)

DCA คือกลยุทธ์ที่เน้นการทยอยลงทุนจำนวนเงินเท่ากันทุกงวด เช่น รายเดือน หรือรายไตรมาส โดยไม่สนใจว่าราคาสินทรัพย์ในขณะนั้นจะสูงหรือต่ำ วิธีนี้ช่วยลดความเสี่ยงจากการลงทุนแบบ “จับจังหวะตลาด” ซึ่งแม้แต่นักลงทุนมืออาชีพก็ยังผิดพลาดได้

  

ประโยชน์ของ DCA 

  • ลดความเครียดจากความผันผวนของตลาด
  • ทำให้ต้นทุนเฉลี่ยของสินทรัพย์ถูกลงในระยะยาว
  • สร้างวินัยการออมและลงทุนอย่างต่อเนื่องโดยอัตโนมัติ

  

DCA เหมาะอย่างยิ่งสำหรับกองทุนรวม หุ้น หรือ ETF ที่ต้องการถือยาว และเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่ยังไม่มั่นใจในจังหวะตลาด

  

Core-Satellite Strategy

กลยุทธ์นี้เปรียบเหมือนระบบสุริยะ โดยมี “Core” เป็นแกนกลางของพอร์ต และ “Satellite” เป็นส่วนเสริมเพื่อเพิ่มโอกาสการเติบโต

  • Core: ลงทุนในสินทรัพย์ที่มั่นคงและกระจายความเสี่ยงดี เช่น กองทุนดัชนี (Index Fund), ETF กว้าง ๆ ที่อิงตลาดทั้งตลาด
  • Satellite: ลงทุนในสินทรัพย์ที่มีโอกาสเติบโตสูง หรือธีมการลงทุนเฉพาะ เช่น เทคโนโลยี, AI, สุขภาพ, พลังงานสะอาด

  

ข้อดีของกลยุทธ์นี้คือสามารถควบคุมความเสี่ยงโดยรวมของพอร์ตได้ดี ขณะเดียวกันก็เปิดโอกาสให้พอร์ตได้ประโยชน์จากเทรนด์ที่เติบโตเร็วแบบเฉพาะทาง โดยไม่ต้องลงเงินก้อนใหญ่ในสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูง

  

ตัวอย่างสัดส่วนเบื้องต้น 

  • Core: 70–80%
  • Satellite: 20–30%

ผู้ลงทุนสามารถปรับสัดส่วนตามความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และสามารถใช้กลยุทธ์นี้ควบคู่กับ DCA เพื่อสร้างระบบเก็บเงินเกษียณที่มีทั้งโครงสร้างและวินัยในระยะยาว

  

ทบทวนพอร์ตทุกปี และปรับตามสถานการณ์

หลายคนเข้าใจผิดว่าการจัดพอร์ตลงทุนเพื่อวางแผนเกษียณเป็นเรื่องที่ “ทำครั้งเดียวจบ” แต่ความจริงคือ พอร์ตที่ดีต้อง “มีชีวิต” และพัฒนาไปพร้อมกับตัวผู้ลงทุนเอง ช่วยให้เป้าหมายวางแผนเกษียณยังคงเดินหน้าอย่างมั่นคง ตัวอย่างการปรับพอร์ต เช่น 

  • ทบทวนปีละครั้งเป็นอย่างน้อย: เพื่อตรวจสอบว่าสัดส่วนสินทรัพย์ยังสอดคล้องกับความเสี่ยงที่รับได้และสถานการณ์ล่าสุด
  • เมื่ออายุเพิ่มขึ้น: ควรลดสัดส่วนหุ้น เพิ่มตราสารหนี้หรือสินทรัพย์ที่มีความผันผวนต่ำ
  • เมื่อสถานะการเงินเปลี่ยน: เช่น รายได้เพิ่ม หนี้หมด หรือมีค่าใช้จ่ายใหม่ อาจต้องปรับระดับการลงทุนหรือสร้างสภาพคล่องเพิ่มเติม 
  • เมื่อเศรษฐกิจหรือตลาดเปลี่ยน: ปรับกลยุทธ์ให้รับมือได้ เช่น ลดสินทรัพย์เสี่ยงในช่วงตลาดผันผวน หรือเพิ่มโอกาสจากเทรนด์ใหม่ที่เกิดขึ้น

  

สรุปการวางแผนเพื่อเกษียณอายุให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ ไม่ว่าคุณจะเริ่มลงทุนด้วยเงินหลักพันหรือหลักหมื่น สิ่งสำคัญไม่ใช่จำนวนเงินเริ่มต้น แต่เป็น "ระยะเวลา" และ "วินัย" ในการลงทุนที่สม่ำเสมอ เพราะเวลา คือเพื่อนที่ดีที่สุดของการลงทุนเพื่อการเกษียณ โดยเฉพาะในยุคที่มีเครื่องมือดี ๆ อย่าง InnovestX ซึ่งเป็นตัวช่วยให้คุณจัดพอร์ตลงทุนทั่วโลกได้ง่าย ๆ ผ่านมือถือ พร้อมด้วยแหล่งความรู้ลงทุน Cafe Invest ที่อัปเดตเทรนด์ ต่อยอดความเข้าใจ และสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนมือใหม่ การเริ่มต้นวางแผนเกษียณจึงไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อมอีกต่อไป 

  

เริ่มต้นลงทุนกองทุนรวม หุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ และสินทรัพย์อื่น ๆ ได้อย่างสะดวก เพียงดาวน์โหลดแอป InnovestX ทั้งบน App Store, Google Play Store และ Huawei Gallery พร้อมก้าวสู่โลกการลงทุนยุคใหม่ภายใต้การดูแลของบริษัทหลักทรัพย์ในกลุ่ม SCBX

  

คำเตือน

*การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศโดยตรงมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน

  

ข้อมูลอ้างอิง: 

  1. Investing in retirement. สืบค้นเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2568 จาก https://investor.vanguard.com/investor-resources-education/retirement/income-investing-in-retirement
Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5