แนะนำวิธีเลือกกองทุนรวมที่ใช่ สำหรับนักลงทุนมือใหม่

 

ทำไมต้องลงทุนในกองทุนรวม ?

การลงทุนในกองทุนรวมมีข้อดีหลายอย่างที่ทำให้นักลงทุนให้ความสนใจมากขึ้น เนื่องจากสามารถเริ่มต้นได้ง่ายและมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย ด้วยจุดเด่นในการลงทุน ดังนี้

  

กระจายความเสี่ยง

การลงทุนในกองทุนรวมสามารถช่วยกระจายความเสี่ยงได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเงินลงทุนจะถูกจัดสรรไปยังสินทรัพย์หลากหลายประเภท โดยขึ้นอยู่กับประเภทของกองทุน เช่น หุ้น ตราสารหนี้ พันธบัตร ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยง หากสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่งมีผลการดำเนินงานที่ไม่ดี เป็นการสร้างสมดุลให้แก่การลงทุน

  

บริหารโดยผู้เชี่ยวชาญ

กองทุนรวมมีทีมผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์และความรู้ในด้านการลงทุนโดยเฉพาะ ซึ่งจะทำหน้าที่ในการวิเคราะห์และเลือกสินทรัพย์ที่เหมาะสม พร้อมบริหารพอร์ตการลงทุนให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของกองทุน จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาศึกษาหาข้อมูล รวมถึงไม่มีประสบการณ์ลงทุนมากนัก หรือไม่มีเวลาติดตามการลงทุนอย่างใกล้ชิดด้วยตนเอง

  

เข้าถึงสินทรัพย์หลากหลาย

การลงทุนในกองทุนรวมช่วยให้สามารถเข้าถึงสินทรัพย์ที่บางครั้งไม่สามารถลงทุนได้เอง เช่น หุ้นต่างประเทศ อสังหาริมทรัพย์ หรือแม้แต่สินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งบางครั้งอาจมีความซับซ้อน หรือมีต้นทุนที่สูงกว่าการลงทุนทั่วไป ทำให้นักลงทุนสามารถกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ได้อย่างหลากหลายมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก

  

วิธีเลือกกองทุนรวมที่ใช่ ให้เหมาะสมกับการลงทุน

เพื่อให้การลงทุนในกองทุนรวมตอบโจทย์กับเป้าหมาย มาดูกันว่าวิธีเลือกกองทุนรวมที่เหมาะสำหรับมือใหม่ ควรทำอย่างไรบ้าง ?

  

1. กำหนดเป้าหมายการลงทุน

ก่อนเริ่มต้นลงทุนในกองทุนรวม นักลงทุนควรกำหนดเป้าหมายในการลงทุนก่อน เช่น ลงทุนเพื่อการศึกษา ลงทุนเพื่อซื้อบ้าน หรือลงทุนเพื่อใช้เงินหลังเกษียณ โดยแต่ละเป้าหมาย จะมีผลตอบแทนที่คาดหวังและเวลาที่ต้องการลงทุนแตกต่างกัน
ยกตัวอย่าง หากต้องการลงทุนเพื่อใช้เงินหลังเกษียณ อาจจะต้องใช้เวลา 20-30 ปี หรือระยะเวลาจนกว่าจะเกษียณอายุ ซึ่งอาจต้องมองหากองทุนที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีในระยะยาว 10-20 ปีขึ้นไป

  

2. ประเมินความเสี่ยงที่ยอมรับได้

ความเสี่ยงเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สุด ซึ่งควรคำนึงถึงก่อนเริ่มต้นลงทุน โดยนักลงทุนต้องประเมินความเสี่ยงที่ตัวเองยอมรับได้ เช่น หากสามารถรับความเสี่ยงได้สูง และต้องการได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น อาจพิจารณาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เช่น กองทุนรวมตราสารทุน (หุ้น) หรือกองทุนรวมตามหมวดอุตสาหกรรม (เช่น กองทุนหุ้นเทคโนโลยี) แต่สำหรับใครที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ และเน้นรักษาเงินต้น ก็อาจต้องพิจารณาลงทุนในกองทุนตลาดเงิน หรือกองทุนตราสารหนี้ เป็นต้น

    

    

3. ทำความเข้าใจประเภทของกองทุน ว่าควรเลือกซื้อกองทุนไหนดี ?

กองทุนรวมมีหลายประเภทที่สามารถเลือกได้ตามเป้าหมายและความเสี่ยง โดยกองทุนแต่ละประเภทล้วนมีลักษณะที่แตกต่างกัน ดังนี้

  

• กองทุนรวมตลาดเงิน (Money Market Fund)

เป็นกองทุนที่มีการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น เช่น พันธบัตรรัฐบาล หรือพันธบัตรธนาคารพาณิชย์ ซึ่งมีความเสี่ยงต่ำมาก สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้รวดเร็ว จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการรักษาสภาพคล่องทางการเงินและไม่ต้องการรับความเสี่ยงสูง

  

• กองทุนรวมตราสารหนี้ (Fixed Income Fund)

กองทุนรวมตราสารหนี้จะเน้นการลงทุนในตราสารหนี้ระยะกลางถึงยาว เช่น พันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้เอกชน รวมถึงตราสารหนี้ของรัฐวิสาหกิจ โดยจะให้ผลตอบแทนที่คงที่และมีความเสี่ยงต่ำถึงปานกลาง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลตอบแทนที่สม่ำเสมอและสามารถรับความเสี่ยงได้ในระดับหนึ่ง แต่ต้องการให้เงินต้นปลอดภัย

  

• กองทุนรวมผสม (Balanced Fund)

กองทุนรวมผสมเป็นการลงทุนที่รวมทั้งหุ้นและตราสารหนี้ไว้ในกองทุนเดียวกัน เพื่อสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตของผลตอบแทนและการลดความเสี่ยง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกระจายความเสี่ยง แต่ยังต้องการผลตอบแทนที่ดีขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับกองทุนตราสารหนี้ทั่วไป โดยความเสี่ยงของกองทุนรวมผสมจะขึ้นอยู่กับสัดส่วนของหุ้นและตราสารหนี้ที่กองทุนเลือกลงทุน หากมีหุ้นมากกว่าตราสารหนี้ ก็จะมีความเสี่ยงมากขึ้น

  

• กองทุนรวมตราสารทุน (Equity Fund)

กองทุนรวมตราสารทุนเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารทุน ซึ่งส่วนใหญ่คือหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ จึงมีความเสี่ยงสูงเพราะราคาหุ้นมีความผันผวนมาก แต่ก็มีโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนสูงเช่นกัน เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้มากและมีเป้าหมายในการสร้างผลตอบแทนในระยะยาว โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการเก็บเงินเพื่อเกษียณอายุ หรือเป้าหมายในอนาคตเพื่อสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว

  

• กองทุนรวมตามหมวดอุตสาหกรรม (Sector Fund)

เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้น โดยเจาะจงอุตสาหกรรม เช่น หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หุ้นกลุ่มโรงพยาบาล โดยกองทุนประเภทนี้ มีการลงทุนแบบกระจุกตัวในอุตสาหกรรมเดียวกัน ทำให้มีความเสี่ยงสูงกว่ากองทุนรวมตราสารทุนทั่วไป ที่จะกระจายการลงทุนไปในหลายอุตสาหกรรม จึงเหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง และมีความรู้ความเข้าใจอุตสาหกรรมที่ลงทุนเป็นอย่างดี

  

• กองทุนรวมทางเลือก (Alternative Investment Fund)

เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก เช่น ทองคำ น้ำมัน อสังหาริมทรัพย์ จึงเหมาะสำหรับคนที่ต้องการกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ทางเลือก เพื่อกระจายความเสี่ยงการลงทุน แต่เนื่องจากมีความเสี่ยงที่สูง ทำให้นักลงทุนอาจต้องศึกษาและทำความเข้าใจรายละเอียดของสินทรัพย์ที่เลือกมาอย่างละเอียด

  

เมื่อนักลงทุนเข้าใจถึงวิธีเลือกกองทุนและตัดสินใจเลือกกองทุนรวมได้แล้ว ก็สามารถเริ่มต้นลงทุนได้ผ่านแอปพลิเคชัน InnovestX ดาวน์โหลดและเปิดบัญชีกองทุนรวมฟรี ! ได้ทั้งระบบ iOS และ Android ใน App Store, Google Play Store และ Huawei AppGallery ซึ่งสามารถลงทุนกับกองทุนรวมได้กว่า 2,000 กองทุน จาก 21 บลจ. พร้อมเสิร์ฟข้อมูลกองทุนให้ครบและง่าย กับ Invest Ideas ไอเดียลงทุนที่ InnovestX คัด และเคาะกองทุนที่น่าสนใจลงทุนมาให้ครบทั้ง INVX Top Picks กองทุนแนะนำตามกลยุทธ์ลงทุน และ INVX Selection กองทุนเด่นตามประเภทกองทุนที่รวบรวมมาให้ในแอปฯ

  

คำเตือน

*การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศโดยตรงมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน

  

ข้อมูลอ้างอิง:

1. ข้อมูลกองทุนรวม/LTF/RMF. สืบค้นเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 จาก https://www.gpf.or.th/thai2019/2Member/main.php?page=23&menu=infomoney&lang=en
2. รู้จักประเภทกองทุน. สืบค้นเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 จาก https://www.setinvestnow.com/th/mutualfund/types-of-mutual-funds