แนะนำเข้าลงทุนทองคำระยะกลาง (> 6 เดือน) มองเป้าหมายราคา $3,875 (+17.4%) โดยใช้ระดับ $3,000 เป็นจุด Stop loss ทางเทคนิคเบื้ิองต้น ทั้งนี้ การตัดสินใจออกจาก position จะพิจารณาร่วมกับปัจจัยมหภาคและปัจจัยพื้นฐาน
[Theme play คือ กลยุทธ์ที่มองหาโอกาสการลงทุนจากปัจจัยพื้นฐาน การปรับเปลี่ยนเชิงโครงสร้าง เทรนด์ และแนวโน้มการลงทุนใหม่ๆ ที่เป็นโอกาสการลงทุน]
Event
ราคาทองคำกำลังเข้าสู่ช่วงไตรมาส 3 ซึ่งเป็นฤดูกาลที่ราคาทองคำมักปรับตัวขึ้นแข็งแกร่ง (Seasonality)
แนวโน้มดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) ยังคงอ่อนค่าจากความคาดหวังต่อการลดดอกเบี้ยของ Fed ในช่วงปลายปี 2025 และความกังวลเกี่ยวกับฐานะทางการคลังของสหรัฐฯที่อ่อนแอลง ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อทองคำ
ภาพที่ 1: ราคาทองคำมักปรับตัวขึ้นได้ดีในไตรมาส 3
Source: InnovestX Investment Products & Strategy, Bloomberg as of 26 June 2025
Fundamental
หนี้สาธารณะทั่วโลกยังอยู่ในระดับสูง และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากรัฐบาลของประเทศต่างๆเร่งใช้นโยบายแบบขาดดุล เช่น การที่ NATO ประกาศเพิ่มงบกลาโหมจาก 2% เป็น 5% ของ GDP สะท้อนว่าความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ระยะยาวยังคงอยู่ และซ้ำเติมภาระทางการคลังในหลายประเทศ มีแนวโน้มลดทอนเสถียรภาพทางการเงินของประเทศต่างๆ ส่งผลให้แนวโน้มการเข้าซื้อทองคำของธนาคารกลางเพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงินยังคงดำเนินต่อไป
แนวโน้ม De-dollarization ยังคงดำเนินต่อไป โดยหลายประเทศ เช่น จีน อินเดีย และกลุ่มตลาดเกิดใหม่ ลดการถือครองดอลลาร์และพันธบัตรสหรัฐฯ แล้วหันไปสะสมทองคำแทน ซึ่งสัดส่วนทองคำในทุนสำรองของธนาคารกลางทั่วโลกยังอยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตอยู่มาก จึงยังมีช่องว่างให้สะสมเพิ่มขึ้นในระยะยาว
ทรัมป์ที่พยายามเร่งผ่านร่าง One Big Beautiful Bill (OBBB) เป็นปัจจัยที่มีโอกาสให้สหรัฐฯ เกิดการขาดดุลการคลังมากขึ้น เพิ่มความเสี่ยงต่อฐานะทางการคลังของสหรัฐฯ มีโอกาสเร่งให้การเกิด De-dollarization เร็วขึ้น
ผลสำรวจของ World Gold Council ณ วันที่ 17 June 2025 พบว่า ธนาคารกลางกว่า 76% ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสัดส่วนการถือครองทองคำในอีก 5 ปีข้างหน้า และ 73% ที่มองว่าจะลดการถือครองดอลลาร์ ถือเป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่า ธนาคารกลางยังคงมีแนวโน้มเข้าซื้อทองคำต่อเนื่องในระยะถัดไป ซึ่งจะยังคงช่วยหนุนราคาทองคำให้อยู่ในระดับสูงและมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น
ภาพที่ 2: สัดส่วนทองคำในเงินทุนสำรองของธนาคารกลางทั่วโลกกำลังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่ยังอยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตอยู่มาก จึงยังมีช่องว่างให้สะสมเพิ่มขึ้นในระยะยาว
Source: InnovestX Investment Products & Strategy, Bloomberg as of 26 June 2025
ภาพที่ 3: ธนาคารกลางกว่า 76% ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสัดส่วนการถือครองทองคำในอีก 5 ปีข้างหน้า และ 73% ที่มองว่าจะลดการถือครองดอลลาร์
Source: InnovestX Investment Products & Strategy, World Gold Council as of 26 June 2025
Technical
ภาพที่ 4: ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบ Triangle ราว 2 เดือน มีโอกาสเบรคต้านเหมือนในรอบก่อนๆ
Source: InnovestX Investment Products & Strategy, Bloomberg as of 26 June 2025
ดังนั้น เราแนะนำเข้าลงทุนทองคำในระยะกลาง หลังราคาเข้าสู่ช่วงใกล้เบรกกรอบสะสม และได้รับแรงหนุนจากแนวโน้มดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อน, ความเสี่ยงทางการคลัง–ภูมิรัฐศาสตร์ และการสะสมทองคำจากธนาคารกลางทั่วโลก
กองทุนแนะนำ: UOBSG – H
จาก Universe กองทุนทองคำทั้งหมดในไทยที่ลงทุนตรงแบบ Feeder Fund ในกองทุนหลัก SPDR Gold Trust เพียงกองทุนเดียวจำนวน 18 กองทุน โดยมีกองทุนที่ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน 8 กองทุน
Source: Fund Fact Sheet as of 30 April 2025 and Fund Size from Morningstar as of 24 June 2025
INVX พิจารณาคัดเลือก UOBSG - H เนื่องจากเป็นกองทุนทองคำที่ไม่เก็บค่าธรรมเนียม Front-end และ Back-end และมีค่าใช้จ่ายรวม (TER) ถูกที่สุด ที่ 0.61% ต่อปี (ทั้งนี้ ผู้ลงทุนจะถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียม Brokerage Feeเมื่อซื้อ ขาย และสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน ที่ 0.10% ของมูลค่าการซื้อ-ขาย)
สรุปจุดเด่นของกองทุนและกองทุนหลัก SPDR Gold Shares (GLD)
กองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท โกลด์ ฟันด์ - H (UOBSG - H) เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในทองคำผ่านกองทุนหลัก SPDR® Gold Trust (GLD) ที่มีกลยุทธ์การลงทุนแบบ Passive Management ซึ่งอ้างอิงราคาทองคำในตลาดโลก (LBMA Gold Price)
กองทุนหลักมีการลงทุนในทองคำแท่งโดยตรง ในปัจจุบันมีทองคำอยู่ในการครอบครองมากกว่า 950 ตัน ซึ่งสูงกว่าทองคำสำรองของประเทศพัฒนาแล้วอย่างญี่ปุ่นและสหราชอาณาจักรอีกด้วย
นอกเหนือไปจากนั้นแล้ว กองทุน GLD มีทรัพย์สินรวมคิดเป็นมูลค่ากว่า 101,697 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นกองทุน ETF ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่มีการลงทุนในทองคำแท่งโดยตรง และมีทรัพย์สินมากกว่ากองทุน ETF ที่ลงทุนในทองคำแท่งโดยตรงอันดับ 2 อย่าง iShares Gold Trust (IAU) มากกว่า 2 เท่า
โดยกองทุนหลัก GLD ถูกก่อตั้งขึ้นมาเมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2004 และจดทะเบียนซื้อขายในหลายตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก ทั้งในสหรัฐฯ สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ฮ่องกง และเม็กซิโก ทั้งนี้กองทุนหลัก GLD ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้นักลงทุนทั่วไปเข้าถึงการลงทุนในทองคำได้ง่ายมากขึ้น โดยมีข้อได้เปรียบเมื่อเทียบกับการลงทุนในทองคำแท่งโดยตรงดังนี้
ทั้งนี้ กองทุน UOBSG - H ลงทุนในกองทุนหลัก SPDR® Gold Trust (GLD) แบบป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ช่วยให้ผลตอบแทนสะท้อนประสิทธิภาพของสินทรัพย์อ้างอิงได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ถูกกระทบจากความผันผวนของค่าเงิน
และกองทุน UOBSG - H เป็นกองทุนรวมทองคำที่ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนที่มีค่าใช้จ่ายต่ำ โดยมีค่าธรรมเนียมการจัดการเพียง 0.43% ต่อปี และมีอัตราค่าใช้จ่ายรวมที่ 0.61% ต่อปี รวมถึงยังไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมการซื้อ-ขายอีกด้วย
ผลการดำเนินงานของกองทุนหลักย้อนหลัง (ณ วันที่ 31 พ.ค. 2025)
Source: Morningstar as of 31 May 2025 and SPDR® as of 26 June 2025
คำเตือน: กองทุนรวมนี้มีลักษณะเฉพาะและความเสี่ยงเฉพาะ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะ เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงของกองทุนรวมก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ขอรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือหนังสือชี้ชวนได้ที่บล.อินโนเวสท์ เอกซ์