รวมกองทุนที่มีแนวโน้มได้อานิสงค์บวกจากนโยบาย Trump
U.S. Small Cap: ผลบวกจากนโยบายฃสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจภายในประเทศ [กองทุน SCBRS2000(A)]
Financials: ได้ประโยชน์จากนโยบายด้าน Deregulation จากการผ่อนคลายกฎระเบียบในการดำเนินธุรกิจของสถาบันการเงิน [กองทุน TUSFIN-A]
Gold: ได้รับอานิสงค์ทางอ้อมในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงทางการเงิน จากแนวโน้มการขาดดุลทางการคลังมากขึ้นจากนโยบายการลดภาษี [กองทุน K-GOLD-A(A)]
Bitcoin: จากทรัมป์มีนโยบายที่จะสนับสนุน Digital Asset ที่มากขึ้น โดยพยายามผลักดัน Bitcoin เป็น Reserve ของประเทศ และผลักดันกฎหมาย FIT21 [กองทุน ASP-DIGIBLOC]
รวมกองทุนที่มีแนวโน้มได้อานิสงค์บวกจากนโยบาย Trump
U.S. Small Cap: ผลบวกจากนโยบายของ Trump ที่เน้นสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจภายในประเทศและการลดกฎระเบียบต่าง ๆ
SCBRS2000(A) มีนโยบายการลงทุนในกองทุนหลัก iShares Russell 2000 ETF ที่ลงทุนในหุ้นบริษัทขนาดเล็กในสหรัฐฯ โดยมีวัตถุประสงค์ในการลงทุนเพื่อให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนี Russell 2000
ค่าใช้จ่ายเมื่อซื้อ (Front-end Fee) 0.54%
ค่าใช้จ่ายในการซื้อขายหลักทรัพย์ (Brokerage Fee) 0.045%
ค่าใช้จ่ายรวม (Total Expense Ratio) 1.18%
ตัวอย่างหุ้นที่ลงทุน
Financials: ได้ประโยชน์จากนโยบายด้าน Deregulation จากการผ่อนคลายกฎระเบียบในการดำเนินธุรกิจของสถาบันการเงินและการผ่อนคลายการควบรวมและซื้อกิจการ (M&A) ส่งผลให้แนวโน้มธุรกรรมด้านการเงินมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
TUSFIN-A มีนโยบายการลงทุนในกองทุนหลัก The Financial Select Sector SPDR® Fund ที่ลงทุนในหุ้นบริษัทภาคการเงินสหรัฐฯ เช่น ธนาคาร บริษัทประกันภัย และบริษัทการลงทุน โดยกองทุนหลักมีวัตถุประสงค์ในการลงทุนเพื่อให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนี S&P Financial Select Sector Index
ค่าใช้จ่ายเมื่อซื้อ (Front-end Fee) 1.00%
ค่าใช้จ่ายรวม (Total Expense Ratio) 1.31%
ตัวอย่างหุ้นที่ลงทุน
Gold: ภายใต้การบริหารงานของทรัมป์มีแนวโน้มที่จะขาดดุลทางการคลังมากขึ้นจากนโยบายการลดภาษี ส่งผลให้หนี้สาธารณะของสหรัฐฯ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทำให้ทองคำได้รับอานิสงค์ทางอ้อมในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงทางการเงิน
K-GOLD-A(A) มีนโยบายลงทุนในกองทุนหลัก GLD ETF (SPDR Gold Shares Trust) ที่ลงทุนในทองคำแท่งโดยตรง มีนโยบายที่จะติดตามราคาทองคำในตลาดโลก โดย GLD เป็นกองทุน ETF มีขนาดทองคำสำรองที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนี LBMA Gold Price PM
ค่าใช้จ่ายในการซื้อขายหลักทรัพย์ (Brokerage Fee) 0.1%
ค่าใช้จ่ายรวม (Total Expense Ratio) 0.64%
Bitcoin: จากทรัมป์มีนโยบายที่จะสนับสนุน Digital Asset ที่มากขึ้น โดยทรัมป์พยายามผลักดัน Bitcoin เป็น Reserve ของประเทศ และผลักดันกฎหมาย FIT21 เพื่อกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลและส่งเสริมนวัตกรรมทางการเงิน ซึ่งจะช่วยดึงดูดเม็ดเงินลงทุนได้มากขึ้น
ASP-DIGIBLOC มีนโยบายลงทุนในหุ้นหรือ ETF ของบริษัทสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีรายได้จากการดำเนินธุรกิจหรือมีความเกี่ยวข้องกับระบบสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน
ค่าใช้จ่ายเมื่อซื้อ (Front-end Fee) 1.25%
ค่าใช้จ่ายรวม (Total Expense Ratio) 3.50%
ตัวอย่างหุ้นที่ลงทุน
Source: SCBAM, TISCOASSET, KASSET and ASSETPLUS