Event Play

กองทุน K-CHINA-A(A) กองทุนหุ้นจีนเชิงรุกคุณภาพสูง สไตล์ High Conviction

9 Oct 24 12:10 PM
Wealth_Idea_Thumbnail-18_r
Key Summary

สถานะคำแนะนำการลงทุนล่าสุด ณ วันที่ 9 ต.ค. 2024

InnovestX แนะนำขายทำกำไรการลงทุนในตลาดหุ้นจีนที่มีแนะนำเข้าลงทุนครั้งแรกวันที่ 25 ก.ย. 2024 เนื่องจาก 

  1. หลังตลาดหุ้นจีนปรับตัวขึ้นนับจากวันที่เราแนะนำเข้าลงทุน โดยปัจจุบันตลาดหุ้นจีนมีโมเมนตัมที่อ่อนแอลง

  2. การปรับตัวขึ้นในช่วงที่ผ่านมาได้สะท้อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไปแล้วบางส่วน

  3. Valuation MSCI China All Shares เมื่อเทียบกับ MSCI EM นั้นกลับมาซื้อขายในระดับ "Fair"

 

สามารถติดตามคำแนะนำเคาะซื้อล่าสุดได้ใน Satellite Portfolio 

[Event Play คือ กลยุทธ์ลงทุนตามปัจจัยสนับสนุนระยะสั้น ด้วยสัญญาณ Technical และ Market Sentiment มี Catalyst สนับสนุน]

 

สรุปคำแนะนำการลงทุน ณ วันที่ 25 ก.ย. 2024

 

ตลาดหุ้นจีนปรับตัวขึ้นแรงหลังทาง PBOC ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบจัดเต็ม มองว่ามาตรการต่าง ๆ ที่ออกมาจะเป็นแรงหนุนบวกให้กับตลาดหุ้นจีน รวมถึงเป็นสัญญาณของนโยบายเพิ่มเติมที่มีแนวโน้มผ่อนคลายมากขึ้นในอนาคต โดยปัจจุบันตลาดหุ้นจีนมี Valuation ที่ถูกมาก ขณะที่กำไรเริ่มถูกปรับประมาณการขึ้น นับเป็นสัญญาณที่ดี

  • Policy Bazooka from PBOC: ตลาดหุ้นจีนได้แรงหนุนบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายการเงินขนาดใหญ่
  • Cheap Valuation: ตลาดหุ้นจีน ดัชนี MSCI China All Shares มี Valuation อยู่ในระดับถูกมาก
  • Earnings Revision Tick Up: นักวิเคราะห์เริ่มปรับประมาณการกำไรของตลาดหุ้นจีนปี 2024 และปี 2025 ขึ้น สะท้อนความแข็งแกร่งของตลาดหุ้นจีนที่มีมากขึ้น
  • Technical: ดัชนีราคาทะลุผ่านเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 และ 200 วัน และแกว่งตัวในลักษณะ Sideway up
  • แนะนำกองทุนหุ้นจีน: K-CHINA-A(A)

 

คลิกที่นี่เพื่อลงทุนกองทุน K-CHINA-A(A)

 

ตลาดหุ้นจีนกำลังเผชิญจุดเปลี่ยนสำคัญ เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาปรับตัวลงจากตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอ หลัง GDP มีโอกาสโตต่ำกว่า 5% ในปีนี้ ล่าสุดตลาดหุ้นจีนดูมีความหวังมากขึ้น หลังจากธนาคารกลางจีน (PBOC) ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการเพิ่มสภาพคล่อง และลดต้นทุนทางการเงิน รวมถึงมีมาตรการส่งเสริมตลาดหุ้น เรามองว่ามาตรการต่าง ๆ ของ PBOC ที่ประกาศออกมาบ่งชี้ถึงความพยายามในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจและฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักลงทุนให้กับตลาดหุ้นจีน ดังนั้น เรามีมุมมองบวกต่อตลาดหุ้นจีนในระยะสั้นมากขึ้น จากการที่ตลาดหุ้นจีนมีระดับ Valuation ที่ถูกมาก ทำให้เมื่อมีปัจจัยกระตุ้นเชิงบวก (Positive Catalyst) เข้ามา ผ่านการกระตุ้นจาก PBOC จะเป็นตัวช่วยผลักดัน Momentum ของตลาดหุ้นจีนได้มากในระยะต่อจากนี้

 

Policy Bazooka from PBOC

  • ลดอัตราส่วนเงินทุนสำรองของธนาคาร (RRR) ลงจาก 10% เหลือ 9.5%

  • ปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น  (7-day Reverse Repo Rate) จาก 1.7% เหลือ 1.5% และมีแผนลดอัตราดอกเบี้ย MLF ลง 0.3% รวมถึงปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้บ้าน (Mortgage Rate) ลง เพื่อให้ภาระการผ่อนชำระของผู้กู้ซื้อบ้านลดลง

  • ปรับลดวงเงินดาวน์สำหรับบ้านหลังที่สองลงจากเดิม 25% เหลือ 15% โดยทางรัฐบาลพยายามผลักดันนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อกอบกู้ภาคอสังหาริมทรัพย์

  • ความคืบหน้าของกองทุนพยุงหุ้นโดยจะใช้เงินสนับสนุนเพื่อเพิ่มสภาพคล่องในตลาดทุนประมาณ 8 แสนล้านหยวน แบ่งเป็น Swap facility 5 แสนล้านหยวน สำหรับบริษัทหลักทรัพย์ กองทุน และบริษัทประกันภัย และ Relending facility 3 แสนล้าน สำหรับบริษัทจดทะเบียนและผู้ถือหุ้นหลักเพื่อนำเงินไปใช้ในการซื้อหุ้น นอกจากนี้ PBOC ยังส่งสัญญาณอัดฉีดสภาพคล่องเพิ่มเติม หากเม็ดเงินในปัจจุบันไม่เพียงพอต่อการผลักดันตลาดหุ้น

  • ด้วยการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายการเงินของ PBOC แบบจัดเต็ม จึงทำให้เรามองว่านโยบายดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงเป็นสัญญาณของนโยบายเพิ่มเติมที่มีแนวโน้มผ่อนคลายมากขึ้นในอนาคต

 

Cheap Valuation

 

  • Valuation ของตลาดหุ้นจีน ดัชนี MSCI China All Shares อยู่ในระดับที่ถูกมาก โดย FWD P/E ของดัชนี MSCI China All Shares อยู่ที่ 9.5 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ที่ -1.25 S.D. สะท้อน Valuation ที่อยู่ในระดับถูกและสะท้อนปัจจัยลบไปพอสมควรแล้ว

 

kchina01.jpg

 

Earnings Revision Tick Up

 

  • นักวิเคราะห์เริ่มปรับประมาณการกำไรของปี 2024 และปี 2025 ของดัชนี MSCI China All Shares ขึ้นมาต่อเนื่องตั้งแต่เข้าสู่ช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ สวนทางกับดัชนีตลาดหุ้นจีนที่ปรับตัวลงจากภาพเศรษฐกิจจีนที่อ่อนแอ

  • เรามองว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจาก PBOC ช่วยสร้างความหวังให้กับนักลงทุนต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มผ่อนคลายมากขึ้นในอนาคต ซึ่งจะช่วยผลักดัน Momentum ให้กับตลาดหุ้นจีนได้

เหมือนในช่วงต้นไตรมาส 2 ที่ผ่านมา แต่ในรอบนี้ตลาดหุ้นจีนมี Momentum พร้อมกับปัจจัยพื้นฐานด้านกำไรที่ดูดีขึ้น จึงนับได้ว่าตลาดหุ้นจีนมีความแข็งแกร่งมากขึ้น

 

kchina02.jpg 

 

Technical analysis

 

ในด้านแนวโน้มราคาหุ้นจีนเชิงเทคนิค พิจารณาจากทิศทางของราคาตลาดหุ้นจีนจากดัชนี MSCI China All Shares ในภาพระยะกลางส่งสัญญาณกลับตัวจากแนวโน้มขาลง (Down-Trend) สู่การแกว่งตัวในลักษณะ Sideways ถึง Sideway up โดยปัจจุบันดัชนี MSCI China All Shares สามารถทะลุผ่านเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 และ 200 วัน บ่งชี้ถึงการกลับตัวของราคา เรามองเป้าหมายดัชนีที่ 2,700 จุด

 

kchina03.jpg

 

กองทุนแนะนำ: K-CHINA-A(A)

 

จาก Universe หุ้นจีน All Shares ที่เน้นลงทุนในกองทุนหลักเพียงกองทุนเดียวโดยมีกลยุทธ์แบบ Active เพื่อตอบรับกลยุทธ์ข้างต้น โดยมีทั้งหมดจำนวน 12 กอง

 

INVX พิจารณาคัดเลือกกองทุน K-CHINA-A(A)

  1. ทาง INVX คัดเลือกกองทุนที่มีค่า Beta สูงเทียบกับดัชนี MSCI China All Shares เพื่อตอบโจทย์กลยุทธ์ ในการ Trading กลุ่มกองทุนหุ้นจีนที่ได้แรงหนุนบวกจากธนาคารกลางจีน (PBOC) ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ซึ่งเรามองเป็น Momentum เชิงบวกต่อตลาดหุ้นจีน โดยกองทุนที่มีค่า Beta สูง ได้แก่ กองทุนหลักของ K-CHINA-A(A) ที่มีค่า Beta 1.20 ทั้งในช่วง 1 และ 3 ปี เมื่อเทียบกับดัชนี MSCI China All Shares และกองทุนหลักของ KWI DRAGON ที่มีค่า Beta 1.21 ในช่วง 1 และ 1.16 ในช่วง 3 ปี เมื่อเทียบกับดัชนี MSCI China All Shares

kchina04.jpg

 

  1. เลือกกองทุนหลักที่สามารถสร้าง Alpha ได้สูงในปีที่ตลาดหุ้นจีนเป็นขาขึ้น เช่น ในปี 2020 ที่ตลาดสร้างผลตอบแทนได้ 33.4% กองทุนหลัก K-CHINA-A(A) สร้างผลตอบแทนได้ 70.9% ขณะที่กองทุนหลัก KWI DRAGON สร้างผลตอบแทนได้ 42.3%

kchina05.jpg

 

  1. ทางเราชอบกลุ่มอุตสาหกรรมการบริโภค (Consumer Discretionary) ที่ได้รับประโยชน์จากการลดอัตราดอกเบี้ย ที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายการผ่อนบ้านและส่งผลให้ Wealth effect เพิ่มขึ้น พร้อมทั้งมาตรการกระตุ้นของภาครัฐที่ช่วยหนุนความเชื่อมั่นผู้บริโภคสูงขึ้น ขณะที่กลุ่ม Communication Services และกลุ่ม Information Technology ได้ประโยชน์จากการปรับประมาณการกำไรที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับกองทุนหลักของ K-CHINA-A(A) ที่มีสัดส่วนกลุ่ม Consumer Discretionary 2% กลุ่ม Communication Services 17.6% และกลุ่ม Information Technology 13.0%

kchina06.jpg

 

สรุปจุดเด่นของกองทุนและกองทุนหลัก JPMorgan Funds – China Fund

  1. กองทุน K-CHINA-A(A) มุ่งลงทุนในหุ้นจีน All Shares ผ่านกองทุนหลัก JPMorgan Funds - China Fund

  2. JPMAM เป็นบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนชั้นนำระดับโลก โดยมีจุดเด่นด้านทีมวิเคราะห์ที่แข็งแกร่ง

  3. ผู้จัดการกองทุนหลัก คุณ Rebecca Jiang มีประสบการณ์ด้านการบริหารพอร์ตลงทุนมาแล้วกว่า 19 ปี และคุณ Li Tan มีประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องมา 12 ปี

  4. กองทุนมีปรัชญาการลงทุนโดยมุ่งลงทุนแบบเชิงรุก เน้นการทำ Bottom-up แต่ละบริษัทอย่างเชิงลึก และเลือกลงทุนแบบ High Conviction และ Long-term ในหุ้นที่มีแนวโน้มการเติบโต และมีคุณภาพสูง

  5. ใช้กรอบ Strategic Classifications มาประเมินหลักทรัพย์ทั้งหมด 3 ด้าน ประกอบด้วย Economics, Duration, และ Governance

  6. หุ้นที่ทีมผู้จัดการกองทุนคัดเลือกจะประเมินปัจจัยอย่างการเติบโตของรายได้และเงินปันผล รวมถึงมูลค่าที่เหมาะสมของแต่ละบริษัท เพื่อทำนายผลตอบแทนที่คาดหวังในกรอบระยะเวลา 5 ปีอีกด้วย โดยจะต้องเป็นบริษัทที่มีคุณภาพสูง สามารถสร้างมูลค่าให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาวได้ และมีสัญญาณอันตราย (Red Flags) ต่ำ

  7. กลุ่มอุตสาหกรรมหลักที่มีการลงทุน ได้แก่ Consumer Discretionary, Communication Services, IT, Financials, และ Industrials

  8. ตัวอย่างหุ้นชั้นนำที่กองทุนลงทุน ได้แก่ Tencent บริษัทเทคโนโลยี และอินเทอร์เน็ตชั้นนำของจีน, Alibaba บริษัทเทคโนโลยี และอีคอมเมิร์ซเบอร์ต้นของจีน, Meituan บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านแพลตฟอร์มดิจิทัลสำหรับบริการไลฟ์สไตล์ครบวงจร, Pinduoduo ผู้ให้บริการแพลต์ฟอร์มอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ของจีน, China Merchants Bank ธนาคารพาณิชย์ชั้นนำของจีน

  9. กองทุนหลัก มีค่า Beta สูงถึง 1.20 เทียบกับดัชนี MSCI China All Shares ทั้งในช่วง 1 ปี และ 3 ปีย้อนหลัง

  10. กองทุนหลักสามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีในช่วงปีที่ตลาดหุ้นจีนเป็นขาขึ้น เช่น ปี 2020 ที่กองทุนสร้างผลตอบแทน 70.9% ขณะที่ดัชนี MSCI China All Shares สร้างผลตอบแทนเพียง 33.4%

 

กองทุนเปิดเค ไชน่า หุ้นทุน-A (K-CHINA-A(A)) เป็นกองทุนรวมหุ้นจีนที่เน้นลงทุนในหุ้นจีน All Shares หรือกลุ่มหุ้นจีนที่กระจายตัวอยู่ในทั้ง ตลาดหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่ และตลาดหุ้นฮ่องกง ผ่านกองทุนหลัก  JPMorgan Funds - China Fund – Class JPM I (acc) USD

 

ซึ่งกองทุนหลัก JPMorgan Funds - China Fund ถูกบริหารโดย JPMorgan Asset Management (JPMAM) โดยมีทีมผู้จัดการกองทุนทั้งหมด 2 ท่าน ด้วยกัน ประกอบด้วย คุณ Rebecca Jiang ผู้มีประสบการณ์ในด้านการบริหารพอร์ตการลงทุนมาแล้วถึง 19 ปี และอยู่กับ JPMAM มาแล้ว 7 ปีด้วยกัน กับคุณ Li Tan ผู้มีประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกว่า 12 ปี และอยู่กับ JPMAM มาแล้วถึง 13 ปี นอกจากนี้ ยังมีคุณ Howard Wang ผู้เป็น Head of Greater China คอยดูแลภาพรวมของกองทุนเพิ่มเติม

 

ทั้งนี้ JPMAM ถือเป็นหนึ่งในบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก และมีจุดเด่นด้านทีมงานนักวิเคราะห์ที่แข็งแกร่ง โดย JPMAM ได้ใช้งบประมาณไปมากกว่า 163 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในแต่ละปีสำหรับการทำบทวิเคราะห์หุ้นทั่วโลก และยังมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 23 คนที่มีประสบการณ์เฉลี่ยถึง 18 ปี สำหรับการวิเคราะห์หุ้นจีนโดยเฉพาะอีกด้วย

 

kchina07.jpg

 

และการมีทีมผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์สูง ประกอบกับทีมนักวิเคราะห์ที่แข็งแกร่ง จึงเป็นจุดแข็งที่ทำให้กองทุน JPMorgan Funds - China Fund มุ่งลงทุนแบบเชิงรุก โดยใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบ Bottom-up เน้นการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานรายบริษัทอย่างเชิงลึก และเลือกลงทุนแบบ High Conviction และ Long-term ในหุ้นที่มีแนวโน้มการเติบโต และมีคุณภาพสูง

 

โดยทีมผู้จัดการกองทุนหลักจะใช้กรอบ Strategic Classifications มาประเมินหลักทรัพย์ทั้งหมด 3 ด้าน ประกอบด้วย

  • Economics เพื่อวิเคราะห์ความสามารถของบริษัทในการสร้างมูลค่าให้แก่ผู้ถือหุ้น โดยจะประเมินการสร้างรายได้และกระแสเงินสดอย่างยั่งยืน รวมถึงประเมินการหาและการใช้เงินทุนของแต่ละบริษัท

  • Duration เพื่อวิเคราะห์ว่าบริษัทจะสามารถสร้างมูลค่าอย่างยั่งยืนในระยะยาวได้ โดยจะทำการประเมินภาพรวมของแต่ละอุตสาหกรรม ความสามารถในการแข่งขันของแต่ละบริษัท รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจส่งผลกระทบเพิ่มเติม

  • Governance เพื่อประเมินปัจจัยด้านธรรมาภิบาลของแต่ละบริษัทที่อาจส่งผลกระทบต่อผู้ถือหุ้นได้ เช่น ความสามารถและความโปร่งใสของผู้บริหาร หรือการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชี

kchina08.jpg

 

นอกเหนือไปจากนั้น ทีมผู้จัดการกองทุนหลักจะยังทำการประเมินปัจจัยอย่างการเติบโตของรายได้และเงินปันผล รวมถึงมูลค่าที่เหมาะสมของแต่ละบริษัท เพื่อทำนายผลตอบแทนที่คาดหวังในกรอบระยะเวลา 5 ปีอีกด้วย และเมื่อประเมินอย่างครบถ้วนแล้ว ผู้จัดการกองทุนจะเลือกลงทุนในบริษัทที่มีคุณภาพสูง สามารถสร้างมูลค่าให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาวได้ และมีสัญญาณอันตราย (Red Flags) ต่ำ

 

kchina09.jpg

 

กลุ่มอุตสาหกรรม (ณ 31 ส.ค. 2024)

 

  1. Consumer Discretionary 28.2%

  2. Communication Services 17.6%

  3. IT 13.0%

  4. Financials 11.7%

  5. Industrials 8.9%

Top holdings (ณ 31 ส.ค. 2024)

 

  1. Tencent บริษัทเทคโนโลยี และอินเทอร์เน็ตชั้นนำของจีน

  2. Alibaba บริษัทเทคโนโลยี และอีคอมเมิร์ซเบอร์ต้นของจีน

  3. Meituan บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านแพลตฟอร์มดิจิทัลสำหรับบริการไลฟ์สไตล์ครบวงจร

  4. Pinduoduo ผู้ให้บริการแพลต์ฟอร์มอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ของจีน

  5. China Merchants Bank ธนาคารพาณิชย์ชั้นนำของจีน

 

ผลการดำเนินงานของกองทุนหลักย้อนหลัง (ณ 31 ส.ค. 2024)

 

  • ผลการดำเนินงานในช่วง 1 ปี กองทุนหลักสร้างผลตอบแทน -15.2% เทียบกับดัชนี MSCI China All Shares NR USD ที่สร้างผลตอบแทนต่อปีที่ -4.7%

  • ผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปี กองทุนหลักสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีที่ -20.8% เทียบกับดัชนี MSCI China All Shares NR USD ที่สร้างผลตอบแทนต่อปีที่ -13.3%

  • ผลการดำเนินงานในช่วง 5 ปี กองทุนหลักสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีที่ -2.8% เทียบกับดัชนี MSCI China All Shares NR USD ที่สร้างผลตอบแทนต่อปีที่ -2.0%


คลิกที่นี่เพื่อดูกองทุนเคาะซื้อใน INVX Satellite Portfolio ล่าสุด

 

คำเตือน: ผลการดำเนินในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทนที่ได้รับในอนาคต กองทุนรวมนี้มีลักษณะเฉพาะและความเสี่ยงเฉพาะ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะ เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงของกองทุนรวมก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ขอรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือหนังสือชี้ชวนได้ที่บล.อินโนเวสท์ เอกซ์

Most Viewed Ideas
1/5
Related Ideas
Most Viewed Ideas
1/5