รวมกองทุน ETF กลุ่มหุ้นและสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มได้อานิสงค์บวกจากนโยบาย Trump
U.S. Small Cap: ผลบวกจากนโยบายฃสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจภายในประเทศ (IWM)
Financials: ได้ประโยชน์จากนโยบายด้าน Deregulation จากการผ่อนคลายกฎระเบียบในการดำเนินธุรกิจของสถาบันการเงิน (XLF)
Energy: ได้ประโยชน์จากนโยบายสนับสนุนพลังงานดั้งเดิม (XLE)
Materials: ได้ประโยชน์จากการปรับลดภาษีนิติบุคคล (XLB)
Consumer Discretionary: ได้ประโยชน์จากการปรับลดภาษีนิติบุคคล และนโยบายสนับสนุนการบริโภคภายในประเทศ (XLY)
Gold: ได้รับอานิสงค์ทางอ้อมในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงทางการเงิน จากแนวโน้มการขาดดุลทางการคลังมากขึ้นจากนโยบายการลดภาษี (GLD)
รวมกองทุน ETF กลุ่มหุ้นและสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มได้อานิสงค์บวกจากนโยบาย Trump
U.S. Small Cap: ผลบวกจากนโยบายของ Trump ที่เน้นสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจภายในประเทศและการลดกฎระเบียบต่าง ๆ
IWM ETF (iShares Russell 2000) เน้นลงทุนในหุ้นบริษัทขนาดเล็กในสหรัฐฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนี Russell 2000
ค่าใช้จ่ายรวม (Expense Ratio) 0.19%
ตัวอย่างหุ้นที่ลงทุน
Financials: ได้ประโยชน์จากนโยบายด้าน Deregulation จากการผ่อนคลายกฎระเบียบในการดำเนินธุรกิจของสถาบันการเงินและการผ่อนคลายการควบรวมและซื้อกิจการ (M&A) ส่งผลให้แนวโน้มธุรกรรมด้านการเงินมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
XLF ETF (The Financial Select Sector SPDR® Fund) เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทภาคการเงิน เช่น ธนาคาร บริษัทประกันภัย และบริษัทการลงทุน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนี S&P Financial Select Sector Index
ค่าใช้จ่ายรวม (Expense Ratio) 0.09%
ตัวอย่างหุ้นที่ลงทุน
Energy: ได้ประโยชน์จากนโยบายสนับสนุนพลังงานดั้งเดิม จากแผนยกเลิกข้อจำกัดผลิตน้ำมันในประเทศ อีกทั้ง หุ้นกลุ่ม Energy ในปัจจุบันเสียภาษี Effective Tax Rate ในอัตราสูง ทำให้ได้ประโยชน์โดยตรงจากนโยบายลดภาษีนิติบุคคล
XLE ETF (The Energy Select Sector SPDR® Fund) เน้นลงทุนในภาคพลังงาน โดยเฉพาะบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและจัดจำหน่ายนำมันและก๊าซธรรมชาติ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนี S&P Energy Select Sector
ค่าใช้จ่ายรวม (Expense Ratio) 0.09%
ตัวอย่างหุ้นที่ลงทุน
Materials: ได้ประโยชน์จากการปรับลดภาษีนิติบุคคล เนื่องจาก หุ้นกลุ่ม Materials เป็นหนึ่งในกลุ่มหุ้นที่ปัจจุบันเสียภาษี Effective Tax Rate ในอัตราสูง อีกทั้ง นโยบายสนับสนุน Re-Shoring ของทรัมป์สนับสนุนอุปสงค์ต่อสินค้าวัตถุดิบในประเทศ
XLB ETF (The Materials Select Sector SPDR® Fund) เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทในภาควัสดุ เช่น บริษัทเคมีภัณฑ์ โลหะ และวัสดุก่อสร้าง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนี S&P Materials Select Sector
ค่าใช้จ่ายรวม (Expense Ratio) 0.09%
ตัวอย่างหุ้นที่ลงทุน
Consumer Discretionary: ได้ประโยชน์จากการปรับลดภาษีนิติบุคคล และนโยบายสนับสนุนการบริโภคภายในประเทศ ส่งผลให้กำลังซื้อเพิ่มสูงขึ้น
XLY ETF (The Consumer Discretionary Select Sector SPDR® Fund) เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทในภาคการบริโภคฟุ่มเฟือย เช่น ร้านค้าปลีก โรงแรม และผลิตภัณฑ์หรูหรา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนี S&P Consumer Discretionary Select Sector
ค่าใช้จ่ายรวม (Expense Ratio) 0.09%
ตัวอย่างหุ้นที่ลงทุน
Gold: ภายใต้การบริหารงานของทรัมป์มีแนวโน้มที่จะขาดดุลทางการคลังมากขึ้นจากนโยบายการลดภาษี ส่งผลให้หนี้สาธารณะของสหรัฐฯ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทำให้ทองคำได้รับอานิสงค์ทางอ้อมในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงทางการเงิน
GLD ETF (SPDR Gold Shares Trust) เน้นลงทุนในทองคำแท่งโดยตรง มีนโยบายที่จะติดตามราคาทองคำในตลาดโลก โดย GLD เป็นกองทุน ETF มีขนาดทองคำสำรองที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนี LBMA Gold Price PM
ค่าใช้จ่ายรวม (Expense Ratio) 0.40%
Source: SPDR and iShares as of 6 November 2024