สรุปภาพรวมการลงทุนสัปดาห์นี้
สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นโลกปรับตัวลดลงแรง โดยเฉพาะกลางสัปดาห์ภายหลัง FOMC มีมติ 11 ต่อ 1 ให้ลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 4.25%-4.5% ตามคาด แต่ Dot Plot บ่งชี้ว่าเจ้าหน้าที่คาดว่าจะลดดอกเบี้ยลง 0.5% ในปี 2025 โดยจะลดดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% จากเดิมที่เคยคาดว่าจะลด 1% โดย FOMC ให้น้ำหนักเงินเฟ้อมากขึ้น หลังการประชุมที่เป็น hawkish cut ส่งผลให้ตลาดปรับฐานแรง ผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีสหรัฐเร่งตัวขึ้นทะลุ 4.5% พร้อมกับค่าเงินดอลลาร์แข็งขึ้น สะท้อนความเป็น risk off VIX Index เพิ่มขึ้นทะลุ 20 จากปกติจะเคลื่อนไหวในช่วง 15 จุด ด้าน GDP 3Q24 ประกาศครั้งสุดท้าย เพิ่มขึ้นเป็น 3.1% สูงกว่าคาดที่ 2.9% ขณะที่ตัวเลขยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ออกมาต่ำกว่าคาด ยิ่งตอกย้ำมุมมองตลาดว่าดอกเบี้ยจะลดช้าลงโดยตลาดมองดอกเบี้ยลดเหลือแค่ 1 ครั้งในปี 2025 ผลจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นทำให้กระแสเงินยังคงไหลออกจากภูมิภาคเอเชียต่อเนื่อง ด้านตัวเลขเศรษฐกิจจีนผสมผสาน โดยยอดค้าปลีกเดือน พ.ย. โตเพียง 3% ต่ำสุดในรอบ 3 เดือน โดยสินค้าฟุ่มเฟือยหลายรายการหดตัวสวนทางกับภาคการผลิตที่ขยายตัว 5.4% ซึ่งอาจเกิดจากการเร่งผลิตเพื่อส่งออกท่ามกลางความกังวลเรื่องสงครามการค้ารอบใหม่หลังทรัมป์กลับมา ตลาดยังคงคาดหวังมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติมที่เตรียมไว้รับมือกับนโยบายของ ปธน. ทรัมป์ในปี 2025 ตลาดหุ้นไทยอ่อนตัวรุนแรงกว่าตลาดในภูมิภาค จากความเชื่อมั่นต่อหุ้นขนาดใหญ่ที่มีประเด็นความกังวลเพิ่มเติมที่เกิดขึ้นระหว่างสัปดาห์ ราคาน้ำมันอ่อนตัวลงจากความกังวลด้านอุปสงค์จากการลดดอกเบี้ยช้าลงนำไปสู่เศรษฐกิจที่ชะลอตัวกว่าคาด
ตลาดหุ้นโลก
สัปดาห์นี้ตลาดโลกตกต่ำรุนแรงจากการประกาศการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยของ Fed ที่ลดลงกว่าที่ประกาศไว้เดิม ทำให้ตลาดปรับความคาดหวัง ด้านตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ เช่น ยอดค้าปลีก และ GDP ขยายตัวแข็งแกร่ง เป็นผลทำให้ลดดอกเบี้ยยากขึ้นด้วยเช่นกัน ด้านตัวเลขยอดค้าปลีกจีนเติบโตต่ำสุดในรอบ 3 เดือน ทำให้ตลาดกังวลมากขึ้นแม้ภาครัฐจะส่งสัญญาณกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องก็ตาม
ตลาดหุ้นไทย
สัปดาห์นี้ตลาดไทยปรับตัวลดลงหลังจากที่หุ้นขนาดใหญ่ถูกเทขายหลังเผชิญปัญหาด้านธรรมาภิบาล ขณะที่ (1) กนง. มีมติเอกฉันท์คงดอกเบี้ยนโยบาย 2.25% ตามตลาดคาด แต่หลายฝ่ายมองว่าเศรษฐกิจและภาคการเงินยังคงตึงตัว (2) ส.อ.ท. เผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย. ปรับขึ้นสูงสุดในรอบ 8 เดือน (3) รมว. พาณิชย์ และ กกร. มองว่าปี 2568 การส่งออกคาดเติบโตได้ 2-3% ส่วนปีนี้ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 5%
ตลาดพันธบัตร
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับเพิ่มขึ้นรุนแรงมาอยู่ที่ 4.56% ขณะที่ ระยะสั้น 2 ปีปรับมาที่ 4.31% ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ย 2-10 ปี อยู่ที่ 25 bps
ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี ลดลงที่ 2.26% ขณะที่ระยะสั้น อายุ 2 ปี ทรงตัวที่ 1.99% ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิที่ 1,938 ล้านบาท
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวลงจากสัปดาห์ก่อนสู่ 72.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังตัวเลขเศรษฐกิจจีนสะท้อนการบริโภคที่ซบเซา และ OPEC+ แสดงความกังวลต่อการเข้ารับตำแหน่งของทรัมป์ ด้านราคาทองคำ (spot) ปรับลงสู่ 2,593.64 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์
ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) แข็งค่าขึ้นที่ 108.39 จุด ขณะที่ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงที่ 157.08 เยน ด้านค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงที่ 1.04 ดอลลาร์ต่อยูโร ด้านค่าเงินเอเชีย ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงที่ 34.53 บาท ขณะที่เงินหยวนอ่อนค่าลงที่ระดับ 7.30 หยวน