ในมุมมองการลงทุนเดือนพฤศจิกายน INVX ประเมินว่าปัจจัยสำคัญคือการหมุนกลุ่มสินทรัพย์ (Asset Rotation) รับผู้นำสหรัฐฯ ที่เปลี่ยนไป ซึ่งจะทำให้กลุ่มธุรกิจที่มีรายได้หลักจากสหรัฐฯ นั้นมีแนวโน้มเติบโตโดดเด่น จึงทำเราได้มีการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นเล็กสหรัฐฯ สไตล์คุณภาพเพิ่มเติมและปรับคำแนะนำการลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นสู่ระดับซื้อ ตามทิศทางนโยบาย American 1st ของโดนัลด์ ทรัมป์ ในขณะที่เรายังประเมินว่าการมาของทรัมป์ในรอบนี้แม้จะส่งผลลบกับตลาดหุ้นจีนเล็กน้อย และประเมินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนนั้นจะมีน้ำหนักมากกว่าการขึ้นภาษีนำเข้าของทรัมป์ในอีก 1 – 2 ปี ข้างหน้า จึงทำให้การเกิด Asset Rotation รอบนี้จะยังทำให้หุ้นจีนได้รับประโยชน์อยู่เช่นกัน เรายังคงคำแนะนำลงทุนในหุ้นจีนเป็น “ซื้อ” นับตั้งแต่เดือนเมษายน
ตลาดหุ้นเข้าสู่โหมด Risk-on หลังผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกมาในลักษณะ Red Sweep scenario คือพรรค Republican ครองทั้งสภาบนและสภาล่าง โดยตลาดตีความว่านโยบายส่วนใหญ่ส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ และเป็นมิตรต่อสภาวะการลงทุน เรามองนโยบายของทรัมป์อย่างเช่น การลดภาษีนิติบุคคลและการส่งเสริมเศรษฐกิจภายในประเทศ อย่างการลดกฎระเบียบในภาคธุรกิจ จะช่วยหนุนตลาดให้อยู่ในภาวะขาขึ้นได้ต่อ ดังนั้น ในเดือนนี้เราจึงปรับคำแนะนำหุ้นสหรัฐฯ ขึ้นเป็น "ซื้อ" โดย INVX แนะนำให้นักลงทุนเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นขนาดเล็กของสหรัฐฯ เพิ่มเติม ผสมกับการถือครองหุ้นขนาดใหญ่สหรัฐฯ เดิมที่มีอยู่แล้วเพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงและลดการกระจุกตัวในพอร์ต โดยเรามองว่าหุ้น Small Cap มีโอกาส Outperform จากนโยบายทรัมป์และวัฏจักรดอกเบี้ยขาลง
นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจีน ทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านการปฏิรูปหนี้สินของรัฐบาลท้องถิ่นตลอดจนการอัดฉีดสภาพคล่องและผ่อนคลายการกู้ยืมเงินให้ง่ายมากขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เป็นบวกกับการลงทุนในตลาดหุ้น ส่งผลให้ GDP 2025 ของจีนมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้ใกล้เคียงระดับเดิมที่ 5% ประกอบกับมุมมองของภาคเอกชนและอสังหาริมทรัพย์ที่เริ่มมีการฟื้นตัว ทำให้นักวิเคราะห์เริ่มปรับประมาณการกำไรตลาดใน MSCI China เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา สวนทางกับราคาตลาดยังไม่ฟื้นตัวเท่าไรนัก เนื่องจากความกังวลส่วนหนึ่งจากประธานาธิบดี คนใหม่อย่างโดนัลด์ ทรัมป์ โดย INVX ยังคงคำแนะนำลงทุนในตลาดหุ้นจีน "ซื้อ" จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการขึ้นภาษีนำเข้านั้นอาจจะเกิดขึ้นไม่ได้เร็วนัก อีกทั้งมีผลกระทบต่อกำไรตลาดหุ้นจีนที่จำกัด
เรายังแนะนำให้นักลงทุน ลงทุนในสินทรัพย์ประเภทตราสารทุนเป็นหลัก อย่างหุ้นสหรัฐฯ ขนาดเล็ก , ตลาดหุ้นจีน, หุ้นเวียดนาม และสินทรัพย์ทางเลือกอย่างทองคำ แนะนำให้ทยอยลงทุนเมื่อมีการปรับฐานลงมาในระยะสั้น เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานยังเอื้อสำหรับการลงทุนในระยะกลางยาว (Theme Play)