Keyword
PDF Available  
Macro Making Sense

Macro Making Sense – ทรัมป์เลื่อนขึ้นภาษีไป 1 ส.ค. ไทยถูกจำกัดเข้าถึงชิป AI สรุปภาพรวมเศรษฐกิจโลก-ไทย

By ดร.ปิยศักดิ์ มานะสันต์|7 Jul 25 8:38 AM
สรุปสาระสำคัญ

สรุปผลกระทบต่อทรัมป์เลื่อนวันขึ้นภาษีสหรัฐฯ ทรัมป์จำกัดการส่งออกชิป AI มาไทย สรุปภาพรวมเศรษฐกิจโลก-ไทย

  • ทรัมป์เลื่อนวันขึ้นภาษีสหรัฐฯ: โอกาสสุดท้ายของไทย การเลื่อนวันขึ้นภาษีของสหรัฐฯ จาก 9 ก.ค. เป็น 1 ส.ค. 2025 ให้เวลาไทยเพิ่มขึ้น 3 สัปดาห์ในการเจรจา แต่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงโครงสร้างการเจรจาหรือลดความเสี่ยงที่ไทยจะต้องเผชิญกับภาษีในอัตราใกล้เคียงเวียดนาม (20%) เนื่องจากสหรัฐฯ มีอำนาจต่อรองสูงกว่า ใช้ข้อตกลงเวียดนามเป็นแม่แบบ และไทยไม่ใช่คู่ค้าหลัก ประกอบกับความไม่แน่นอนทางการเมืองภายในประเทศ ทำให้ไทยต้องยอมตามเงื่อนไขของสหรัฐฯ มากขึ้น ซึ่งอาจรวมถึงการลดภาษีนำเข้าสินค้าอเมริกันเป็น 0% เช่นเดียวกับเวียดนาม ส่งผลให้ความน่าจะเป็นต่อ GDP ยังคงเดิม คือ มีโอกาส 10% ที่จะเติบโต 1.7% หากเผชิญภาษี 10% มีโอกาส 60% ที่จะเติบโต 1.1-1.4% หากเผชิญภาษี 15-20% และมีความเสี่ยง 30% ที่เศรษฐกิจอาจหดตัวหรือเติบโตเพียง -1.1% ถึง 0.5% หากภาษีสูงถึง 25-36%
  • ทรัมป์จำกัดการส่งออกชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) ไปยังมาเลเซียและไทย รัฐบาลทรัมป์ได้จำกัดการส่งออกชิป AI จาก Nvidia ไปยังมาเลเซียและไทย เพื่อป้องกันการลักลอบนำเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงเข้าไปในจีน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการที่มาแทน AI Diffusion Rule ที่รัฐบาลไบเดนเคยออกมา การจำกัดนี้จะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อภาคอิเล็กทรอนิกส์ของไทยที่มีมูลค่าการส่งออกถึง 4.55 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยจะกระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขัน การลงทุนในศูนย์ข้อมูล และห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมที่ต้องการชิป AI สำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ขั้นสูง แม้จะมีมาตรการผ่อนคลายบางประการสำหรับบริษัทที่มีสำนักงานใหญ่ในสหรัฐฯ และประเทศพันธมิตร แต่ความไม่แน่นอนของนโยบายยังคงเป็นความเสี่ยงสำคัญต่ออุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ไทย
  • สรุปภาพรวมเศรษฐกิจโลก-ไทย ในไตรมาสที่สาม คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะเผชิญความเสี่ยงต่อเนื่องจากสงครามการค้า เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะชะลอลงจากผลกระทบภาษีศุลกากร ทั้งนี้ ต้องจับตาเงินเฟ้อ การบริโภค และการจ้างงานใกล้ชิด ส่วนไทยจะเผชิญความเสี่ยงหลายด้านทำให้ประมาณการ GDP ขยายตัวเพียง 1.4% พร้อมความเสี่ยงขาลบที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งจากเศรษฐกิจโลกและความเสี่ยงในประเทศ โดยเฉพาะความเสี่ยงการเมือง การเบิกจ่ายภาครัฐ และนโยบายการเงิน ทั้งนี้ เรามองว่า ข้อตกลงการค้าสหรัฐฯ-เวียดนามเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2025 ทำให้ไทยเผชิญความเสี่ยงจากการเจรจาการค้าที่จะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจ จาก (1) ไทยอาจต้องลดภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ เป็น 0% เช่นเดียวกับเวียดนาม และ (2) ผลกระทบของภาษีส่งออกของไทยสู่สหรัฐฯ ซึ่งจะกระทบเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไป โดยหากภาษีลดลงเหลือ 10% GDP จะเติบโต 1.7% ในปี 2025 (ความน่าจะเป็น 10%) แต่หากภาษี 15-20% GDP จะเติบโตเพียง 1.1-1.4% (ความน่าจะเป็น 60%) ส่วนในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด หากต้องเผชิญภาษี 25-36% GDP อาจหดตัวที่ -1.1% ถึง +0.5% (ความน่าจะเป็น 30%)
Author
Slide3
ดร.ปิยศักดิ์ มานะสันต์

หัวหน้านักวิจัยเศรษฐกิจ

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5