ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ย่อตัวลงหลังมีแรงกดดันจาก 1) ทรัมป์ประกาศดีลเจรจาการค้าและมีแนวโน้มเก็บภาษีนำเข้า 25% ถึง 40% จากสินค้าที่มาจาก 14 ประเทศ ( เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไทย) โดยจะเริ่ม1 ส.ค. 25 2) เลื่อนกำหนดเส้นตายภาษีเดิมจาก 9 ก.ค. 1ไปเป็น 1 ส.ค. 25
กระแสเงินในวันที่ 4 ก.ค. 2025 พบว่า 1) ตราสารหนี้ผันผวน 2) มีแรงซื้อในหุ้นโลก 3) กลุ่มเทคโนโลยีถูกทำกำไร 4) EM Equity ถูกเทขาย 5) มีแรงซื้อกลุ่มการเงิน 6) มีแรงขายในหุ้นจีนและญี่ปุ่น
ประเด็นการค้ามีสร้างความปั่นป่วนต่อตลาดหุ้น เรามองหุ้น Defensive หรือหุ้นที่ไม่เกี่ยวข้องกับภาษีทางการค้าก็ยังเหมาะต่อสถานการณ์แบบนี้เช่น Philip Morris, Netflix, Feihe
TSLA -7% หลัง Musk เตรียมตั้งพรรคการเมืองใหม่ซึ่งมองเป็น Sentiment ลบที่ไม่ส่งผลกระทบต่อปัจจัยพื้นฐานหุ้น อย่างไรก็ดีกดดันให้ราคาผันผวนได้ ทำให้เรามองว่านักลงทุนหุ้นนี้ควรรับความเสี่ยงได้สูงต่อท่าทีของ Elon Musk ขณะที่ในเชิงพื้นฐาน เราเชื่อว่าในระยะถัดไปภาพธุรกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวได้จากจุด Bottom ทำให้เราแนะเก็งกำไรในช่วงหุ้นย่อตัว
ยอดขาย Amazon Prime Day 2025 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 28.4% ตามคาดของ Adobe โดยเรามองว่ามีแรงหนุนจาก 1) ส่วนลดกว่า 10-24% 2) Tariff และ De minimis มีส่วนทำให้ต้นทุนสินค้าถูกจากจีนใน Temu Shein แพงขึ้น ซึ่งทำให้ AMZN ได้เปรียบและมีความสามารถทางการแข่งขันเพิ่ม 3) AI tools ขณะที่มอง AFRM WMT ได้ประโยชน์จาก BNPL
ผลประกอบการ 2Q25 เบื้องต้น Samsung ออกมาแย่กว่าคาดจากปัจจัยเฉพาะตัว ขณะที่ยอดขาย Hon Hai แข็งแกร่งหนุนโดยดีมานด์ AI ทำให้คาดว่า ecosystem กลุ่ม AI อย่าง Nvidia, TSMC, SK Hynix มีแนวโน้มงบดีต่อเนื่อง ในระยะสั้นแนะเก็งกำไรจากประเด็นนี้ได้
LG Energy เผยกำไรเบื้องต้น 2Q25 ดีกว่าคาดจากเครดิตภาษีสหรัฐฯ แม้รายได้ลดลง โดยแนวโน้มผู้ผลิตแบตเตอรี่เริ่มดูดีขึ้น อย่างไรก็ดียังมองว่าผู้นำตลาดอย่าง CATL มีความเสี่ยงที่ต่ำกว่า ทำให้เราแนะลงทุนผ่าน DR อย่าง CATL23