ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ ปรับตัวขึ้นหลังสหรัฐฯมีการชะลอขึ้นภาษี 50% ให้ฝั่งยุโรป จนถึงวันที่ 9 ก.ค. นี้
กระแสเงินในวันที่ 24 พ.ค. 2025 พบว่า 1) กระแสเงินในตราสารหนี้ผันผวน 2) มีแรงซื้อในตลาดหุ้นโลก 3) กระแสเงินไหลออกจากจีน ส่วนตลาด EM มีแรงซื้อ 4) มีแรงขายในหุ้นขนาดเล็ก5) มีแรงซื้อเก็งกำไรในกลุ่มพลังงาน6) มีแรงขายในกลุ่มสาธารณูปโภค
บริษัทมีการ M&A เสริมความแกร่งธุรกิจทั้ง QCOM Samsung ขณะที่มองดีล CRM ไม่ได้ตอบโจทย์ธุรกิจที่ทำในปัจจุบัน แต่ในเชิงปัจจัยพื้นฐานเป็นหุ้นดี
กลุ่ม Cybersecurity ชะลอตัวลงในระยะสั้นสะท้อนผ่าน RPO ของ OKTA PANW แต่ระยะกลาง-ยาว มองเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มโตดี โดยเราชอบ PANW
สี จิ้นผิง กำลังร่างแผนสำหรับโครงการ "Made in China 2025" โดยให้ความสำคัญกับเทคฯและเซมิฯ ซึ่งเรามองบวกต่อกลุ่มชิปจีน SMIC, Hua Hong
เราประเมิน Tencent น่าสนใจมากกว่า Kuaishou Technology หลังมีแนวโน้มใช้จ่ายเงิน AI มากขึ้นทำให้ต้นทุนเพิ่ม ประกอบกับมีแรงกดดันจากการแข่งขัน
Xiaomi รายงานงบ 1Q25 แข็งแกร่งเกินคาดจากการเติบโตของ AIoT และรถยนต์ไฟฟ้า ด้านแนวโน้มยังคงเติบโตดี โดยมองแนวรับที่ 50HKD
PDD รายงานงบ 1Q25 ต่ำกว่าคาดจากผลกระทบสงครามการค้า ขณะที่ Temu ยังต้องลงทุนหนัก คาดเริ่มมีกำไรปี 2026 โดยราคาหุ้น $90 เป็นแนวรับ
ภาพปัจจัยมหภาคยังมีความไม่ชัดเจนสูง ทำให้ตลาดมีทิศทางผันผวน เราแนะเก็งกำไรบน 1) NVDA บนงบที่เราคาดว่าโตดีหนุนจากอุปสงค์ AI และ CAPEX กลุ่มเทคฯใหญ่ที่เพิ่มขึ้น (*TP: 162 USD) 2) BYD (*TP:477 HKD) เก็งกำไรจากราคาที่ปรับลดลงมา ประเมินผลประทบจากการลดราคาจำกัด