Bites for Dinner - เรื่องต้องรู้ก่อนเทรดคืนนี้ 30 มิ.ย. 2568

🌙 เรื่องต้องรู้ก่อนเปิดตลาดสหรัฐคืนนี้ 30 มิถุนายน 2568

 

1.ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้ โดยนักลงทุนต่างตอบรับข่าวดีจากการที่แคนาดาตัดสินใจยกเลิกการเก็บภาษีบริการดิจิทัลจากบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นมาตรการที่เคยเป็นประเด็นขัดแย้งทางการค้า นอกจากนี้ ยังมีความหวังว่าทำเนียบขาวอาจสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าที่สำคัญหลายฉบับได้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ด้านแคนาดาได้ตัดสินใจยกเลิกการเก็บภาษีบริการดิจิทัลจากธุรกิจเทคโนโลยี เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่มาตรการดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นในขณะที่รัฐบาลแคนาดากำลังผลักดันให้การเจรจาทางการค้ากับรัฐบาลทรัมป์กลับมาเดินหน้าอีกครั้ง ภาษีดังกล่าวจะครอบคลุมรายได้ 3% จากบริการดิจิทัลที่บริษัทเทคโนโลยีได้รับจากลูกค้าชาวแคนาดาที่เกิน 20 ล้านดอลลาร์ในแต่ละปีปฏิทิน และจะมีผลย้อนหลังไปถึงปี 2022 ด้วย

 

2. พรรครีพับลิกันในวุฒิสภาสหรัฐฯ ได้ลงมติเพื่อเริ่มการอภิปรายเกี่ยวกับร่างกฎหมายภาษีและการใช้จ่ายฉบับใหญ่ที่ได้รับการสนับสนุนจากทรัมป์ แม้ว่าร่างกฎหมายดังกล่าวจะเผชิญกับการต่อต้านจากทั้งภายในพรรครีพับลิกันเองและการคัดค้านอย่างรุนแรงจากพรรคเดโมแครต มาตรการเหล่านี้ ซึ่งผู้พยากรณ์อิสระระบุว่าอาจเพิ่มหนี้ของประเทศที่กำลังพุ่งสูงขึ้น 36.2 ล้านล้านดอลลาร์อีกประมาณ 3.3 ล้านล้านดอลลาร์ในทศวรรษหน้า มีแนวโน้มที่จะผ่านการรับรองโดยสภาสูงของรัฐสภาสหรัฐฯ ซึ่งอาจจะเร็วที่สุดภายในวันจันทร์นี้ ในบรรดามาตรการต่าง ๆ ร่างกฎหมายนี้จะขยายการลดหย่อนภาษีที่ทรัมป์ริเริ่มไว้ในปี 2017 ลดภาษีอื่น ๆ และเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหมและความมั่นคงชายแดน ขณะนี้ สมาชิกวุฒิสภามีแนวโน้มที่จะต้องเผชิญกับการอภิปรายหลายชั่วโมงก่อนที่จะเริ่มการลงคะแนนแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมาย ซึ่งอาจตามมาด้วยการลงคะแนนเพื่อรับรองกฎหมายฉบับเต็ม จากนั้นร่างกฎหมายจะต้องได้รับการอนุมัติจากสภาผู้แทนราษฎรต่อไป สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกำลังผลักดันให้แพ็คเกจนี้พร้อมส่งให้ทรัมป์ลงนามภายในกำหนดเส้นตายที่ตั้งไว้เองคือวันที่ 4 กรกฎาคม

 

3. ภาคการผลิตของจีนหดตัวในเดือนมิถุนายน แม้จะอยู่ในอัตราที่น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อย เนื่องจากผู้ผลิตในประเทศต้องรับมือกับอุปสงค์ในต่างประเทศที่ซบเซา ท่ามกลางอัตราภาษีการค้าของสหรัฐฯ ที่ยังคงค่อนข้างสูง ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (PMI) ของจีนอยู่ที่ 49.7 ในเดือนมิถุนายน ตามข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติเมื่อวันจันทร์ ตัวเลขนี้ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อยที่ 49.6 และดีขึ้นจาก 49.5 ในเดือนก่อนหน้า การอ่านค่าที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ถึงการหดตัว โดยภาคการผลิตของจีนหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่สามแล้ว อย่างไรก็ตาม ดัชนี PMI ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้า ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงสภาพที่ดีขึ้นเล็กน้อยสำหรับผู้ผลิตในประเทศ หลังจากที่สหรัฐฯ และจีนตกลงที่จะลดภาษีการค้าของตนในเดือนพฤษภาคม วอชิงตันและปักกิ่งยังได้ดำเนินการเพื่อตกลงที่จะรักษาสัญญานี้ในเดือนพฤษภาคม รวมถึงการสร้างกรอบสำหรับข้อตกลงทางการค้าในเดือนมิถุนายน การปรับปรุงความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสองประเทศเพิ่มเติมอาจเป็นประโยชน์ต่อผู้ผลิตจีน ซึ่งจะสามารถขายสินค้าในตลาดสหรัฐฯ ได้มากขึ้นเมื่อภาษีลดลง

 

4. ค่าเงินดอลลาร์ไต้หวันดิ่งลงอย่างกะทันหันในช่วงท้ายของการซื้อขาย ซึ่งเป็นรูปแบบที่เคยเกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ และกระตุ้นให้เกิดการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางอาจเข้าแทรกแซงอีกครั้งเพื่อควบคุมความแข็งแกร่งของสกุลเงิน ดอลลาร์ท้องถิ่นร่วงลงมากกว่า 2% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ มาอยู่ที่ 29.9 และทำสถิติร่วงลงมากที่สุดในวันเดียวตั้งแต่ปี 2001 ตามข้อมูลที่รวบรวมโดย Bloomberg รูปแบบการซื้อขาย ซึ่งเป็นการร่วงลงอย่างรวดเร็วในช่วงท้ายของการซื้อขาย คล้ายกับการเคลื่อนไหวที่เคยเกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางอาจขายดอลลาร์ท้องถิ่นหลังจากที่ค่าเงินพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบสามปี ตามข้อมูลจากเทรดเดอร์สามรายที่ไม่เปิดเผยชื่อเนื่องจากไม่ได้รับอนุญาตให้พูดในที่สาธารณะ มีการเห็นธนาคารของรัฐเข้าซื้อดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างรุนแรงในช่วงท้ายของการซื้อขายเมื่อวันศุกร์ ซึ่งช่วยลบล้างกำไรของดอลลาร์ท้องถิ่น การเคลื่อนไหวเช่นนี้ถูกมองโดยนักวิเคราะห์ตลาดว่าเป็นการพยายามของธนาคารกลางในการควบคุมการแข็งค่าของดอลลาร์ไต้หวัน ธนาคารกลางยังไม่ได้ตอบคำขอความคิดเห็นทันที

 

5. ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงในวันจันทร์ เนื่องจากความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางที่คลี่คลายลง และแนวโน้มที่กลุ่ม OPEC+ อาจเพิ่มกำลังการผลิตอีกครั้งในเดือนสิงหาคม โดยราคาน้ำมัน WTI และ Brent ทำสถิติปรับตัวลดลงรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2023 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ก็คาดว่าจะปิดบวกในเดือนมิถุนายนด้วยการปรับขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่สองมากกว่า 5% องค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) และพันธมิตร หรือที่รู้จักกันในชื่อ OPEC+ มีกำหนดจะประชุมกันในวันที่ 6 กรกฎาคม และคาดว่าจะตกลงที่จะเพิ่มระดับการผลิตรายเดือนอีกครั้ง ซึ่งจะเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งที่ห้า นับตั้งแต่กลุ่มเริ่มผ่อนคลายการลดกำลังการผลิตในเดือนเมษายน

 

6. สำหรับตลาดหุ้นไทย (SET Index) ปิดบวกที่ 1089.56 จุด (+7.14 จุด / +0.66%) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.7 หมื่นล้านบาท แรงซื้อมาจากกลุ่มรับเหมาฯ, อาหาร, ICT, บรรจุภัณฑ์ และการแพทย์ ขณะที่แรงขายมาจากกลุ่มธนาคารและยานยนต์ สะท้อนให้เห็นว่าสถานการณ์ภายนอกเริ่มดีขึ้น แม้ปัจจัยภายในประเทศยังไม่ชัดเจน โดยเฉพาะประเด็นทางการเมืองที่ต้องติดตามต่อไปในวันพรุ่งนี้

 

-----
ที่มา: Investing.com และ Bloomberg
แปลและเรียบเรียง: Content Team, InnovestX

 

ดาวน์โหลดแอป InnovestX วันนี้ เพื่อเข้าถึงโอกาสการลงทุนในหุ้นสหรัฐและตลาดทั่วโลก
📱 ดาวน์โหลดแอป: https://innovestx.onelink.me/23if/2jlpsi7b