1. S&P 500 ฟื้นตัวจากแรงขาย นักลงทุนมองข่าวลดเครดิตไม่กระทบปัจจัยพื้นฐาน
2. เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณยังไม่ลดดอกเบี้ยก่อนเดือนกันยายน
3. ทรัมป์ถอยจากเจรจาสันติภาพยูเครน เปิดทางปูตินเดินเกมต่อ
4. Dimon เตือนตลาดประเมินความเสี่ยงต่ำเกินจริง – ชี้เงินเฟ้อ–เครดิต–ภูมิรัฐศาสตร์ยังน่ากังวล
5. GDP ไทย Q1/2025 โตจากส่งออกเร่งตัว – เอกชนยังซบเซา หนี้ครัวเรือนฉุดการบริโภค
5 Bites Breakfast - 5 เรื่องต้องรู้ ก่อนเทรด วันนี้ 20 พ.ค. 2568
1. ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 0.1% แม้เปิดตลาดร่วงกว่า 1% จากข่าว Moody’s ปรับลดเครดิตสหรัฐฯ นักลงทุนกลับเข้าซื้อหลังมองว่าภาวะเศรษฐกิจยังมีแรงหนุนจากดีลการค้ากับจีนและเงินเฟ้อที่ผ่อนคลาย บอนด์ยีลด์ 30 ปีที่เคยทะลุ 5% เริ่มปรับลดลง ขณะที่ดอลลาร์อ่อน 0.6% หุ้นกลุ่ม tech นำโดย Nvidia ฟื้น ส่วนทองและ Bitcoin ปรับขึ้นต่อ ท่ามกลางความเห็นของนักกลยุทธ์ที่มองว่าตลาดตอบสนองต่อข่าวลดเครดิตอย่างจำกัดและการย่อตัวระยะสั้นอาจเป็นโอกาสสะสมหุ้นรอบใหม่
2. John Williams ประธานเฟดนิวยอร์ก และ Raphael Bostic ประธานเฟดแอตแลนตา ระบุว่าเฟดอาจยังไม่พร้อมลดดอกเบี้ยก่อนเดือนก.ย. โดยมองว่าเศรษฐกิจยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน โดยเฉพาะผลกระทบจากสงครามการค้า และแนวโน้มเงินเฟ้อที่ยังผันผวน ด้านนักลงทุนให้โอกาสลดดอกเบี้ยในการประชุม 17–18 มิ.ย. ต่ำกว่า 10% โดย Williams ย้ำว่าเฟดต้องการรอดูข้อมูลเพิ่มเติม และยังไม่มั่นใจว่าผลจากนโยบายภาษีของรัฐบาลทรัมป์จะส่งผลต่อเศรษฐกิจอย่างไรในระยะสั้น ขณะที่ Bostic กังวลว่าเงินเฟ้อคาดการณ์ในระยะยาวเริ่มขยับขึ้น
3. ประธานาธิบดีทรัมป์เปิดเผยหลังจากโทรคุยกับปูตินนานกว่า 2 ชั่วโมง ยูเครนและรัสเซียจะเริ่มเจรจาหยุดยิงทันที โดยอาจไม่มีสหรัฐฯ ร่วม ทั้งนี้ไม่มีการขู่คว่ำบาตร ไม่มีเส้นตาย และไม่มีแรงกดดันต่อผู้นำรัสเซีย ส่งผลให้ผู้นำยุโรปหลายประเทศผิดหวัง ชี้ว่าทรัมป์ถอยจากความพยายามหยุดยั้งสงคราม ปล่อยยูเครนรับมือเพียงลำพัง นักวิเคราะห์มองว่าปูตินใช้จังหวะนี้ถ่วงเวลาเพื่อเดินหน้าในสนามรบ ขณะที่ทรัมป์ยังไม่ตัดสินใจเรื่องการส่งอาวุธหรือคว่ำบาตรรอบใหม่ โดยกล่าวเพียงว่า “นี่คือปัญหาของยุโรป และควรเป็นเรื่องของยุโรปตั้งแต่แรก”
4. Jamie Dimon ซีอีโอ JPMorgan เตือนนักลงทุนอย่าประมาทต่อความเสี่ยงที่สะสมอยู่ ทั้งเงินเฟ้อที่อาจเร่งขึ้น ความเสี่ยง stagflation และ credit spread ที่ไม่สะท้อนเศรษฐกิจถดถอย รวมถึงความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ พร้อมระบุว่า “ตลาดกลับขึ้นมาหลังร่วง 10% ทั้งที่ยังไม่เห็นผลจากภาษีเลยด้วยซ้ำ นี่คือความประมาทขั้นรุนแรง” Dimon ยังชี้ว่าแม้สหรัฐฯ จะถูกลดเครดิต แต่ตลาดไม่ตอบสนองมากนัก เพราะกำลังมองข้ามความเสี่ยงระยะยาว เขายังเตือนว่าการปล่อยสินเชื่อและลงทุนในตราสารหนี้ช่วงนี้มีความเสี่ยงสูง
5. เศรษฐกิจไทยไตรมาส 1 ปี 2025 ขยายตัว 4% YoY นำโดยภาคส่งออกที่เร่งขึ้น 13.8% จากการนำเข้าสินค้าล่วงหน้าก่อนมาตรการภาษีนำเข้าสหรัฐฯ มีผลบังคับใช้ และบางส่วนเกิดจากการ re-routing ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวชะลอลงเหลือ 2.6% YoY จากแรงกดดันหนี้ครัวเรือนที่ยังสูง ด้านการลงทุนรวมขยายตัว 4.7% นำโดยภาครัฐที่โตแรงจากฐานต่ำ ขณะที่ภาคเอกชนหดตัวต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 4 สำหรับเศรษฐกิจไตรมาส 2 มีแนวโน้มชะลอ จากทั้งความเสี่ยงด้านกำลังซื้อที่ยังเปราะบาง และความไม่แน่นอนด้านการค้าระหว่างประเทศ รวมถึงการชะลอของภาคท่องเที่ยว
ประเด็นที่ต้องติดตาม: Consumer Confidence Flash ของยุโรป เดือน พ.ค. คาดว่าจะรายงานออกมาที่ -16 จากช่วงก่อนหน้าที่ -16.7