Earnings Brief - Tesla (TSLA) เผยงบ 4Q24 ต่ำกว่าคาดจากการแข่งขันด้านราคา แต่มีความคาดหวังต่อการกลับมาเติบโตอีกครั้ง
Earnings Result
Tesla รายงานผลประกอบการไตรมาส 4Q24ไม่เป็นไปตามคาดการณ์ โดยมีกำไรสุทธิ 2.3 พันล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่คาดการณ์ โดยเติบโตเล็กน้อยQoQ แต่ลดลง 71%YoY ขณะที่รายได้รวมต่ำกว่าที่คาดการณ์อยู่ที่ 25.7 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 2%YoY รายได้รวมทั้งปีเติบโตเพียง 1% อยู่ที่ 97.7 พันล้านดอลลาร์ ยอดส่งมอบรถยนต์ทั้งปีลดลง 1% เป็นครั้งแรก อยู่ที่ 1.78 ล้านคัน แต่ยังได้แรงหนุนจากธุรกิจพลังงานและบริการที่เติบโตแข็งแกร่ง แม้รายได้จากยานยนต์จะลดลงจากการปรับลดราคาขายเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน
กำไรลดลงจากการลดราคาขาย
กำไรสุทธิ 4Q24 อยู่ที่ 2.3 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 7% QoQ แต่ลดลง 71% YoY สาเหตุหลักของการลดลงในเชิง YoY มาจาก การปรับลดราคาขายรถยนต์รุ่น Model S, 3,X, และ Y รวมไปถึงต้นทุนการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนด้าน AI และ R&D แม้จะมีปัจจัยบวกจากต้นทุนต่อคันที่ลดลงและรายได้จาก regulatory credits ที่เพิ่มขึ้น
รายได้จากธุรกิจพลังงานและบริการชดเชยรายได้จากธุรกิจยานยนต์
มีรายได้รวมที่ 25.7 พันล้านดอลลาร์ (+2% YoY) จาก 1) ธุรกิจยานยนต์: 19.8 พันล้านดอลลาร์ (-8% YoY) โดยยอดส่งมอบรถยนต์เพิ่มขึ้น 2% YoY แต่รายได้ลดลงจากการปรับลดราคาขาย รายได้จาก regulatory credits อยู่ที่ 692 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 60% YoY 2) ธุรกิจพลังงาน: 3.06 พันล้านดอลลาร์ (+113% YoY) มีการเติบโตแข็งแกร่งจากการขยายกำลังการผลิต Megapack และ Powerwall ปริมาณการติดตั้งระบบกักเก็บพลังงานสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 11.0 GWh 3) ธุรกิจบริการและอื่นๆ: 2.85 พันล้านดอลลาร์ (+31% YoY) โดยมีการเติบโตจากการขยายสถานี Supercharger และบริการหลังการขาย
อัตรากำไรลดลงจากการลดราคาและต้นทุน R&D
อัตรากำไรจากการดำเนินงานใน 4Q24 อยู่ที่ 6.2% ลดลงจาก 10.8% ใน 3Q24 และ 8.2% ในไตรมาส 4Q23 สาเหตุหลักมาจาก 1) การปรับลดราคาขายเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน 2) ต้นทุนการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนด้าน AI และ R&D 3) แม้จะมีการปรับลดต้นทุนการผลิตต่อคันลงมาต่ำกว่า 35,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรก
กระแสเงินแสดงให้เห็นถึงการลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ
จากรายงานผลประกอบการแสดงให้เห็นถึง
1) งบดุลแสดงให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นของสินทรัพย์หมุนเวียนในช่วงเวลาที่กำหนด โดยมีเงินสด, เงินฝาก, และการลงทุนเพิ่มขึ้น (+26% YoY) จาก 29.1 พันล้านดอลลาร์เป็น 36.6 พันล้านดอลลาร์
2) กระแสเงินสดจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น (+10% YoY) แสดงแนวโน้มที่ผันผวน มีเงินสดที่ให้บริการตั้งแต่ 242 ล้านดอลลาร์จนถึง 6.3 พันล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาสที่กำหนด
3) กระแสเงินสดจากการลงทุนแสดงแนวโน้มลบ บ่งบอกถึงการลงทุนที่มีนัยสำคัญในช่วงเวลานี้
4) กระแสเงินสดจากการเงินแสดงแนวโน้มบวก มีเงินสดที่ให้บริการตั้งแต่ 132 ล้านดอลลาร์จนถึง 2.5 พันล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาสที่กำหนด 5)ในภาพรวม บริษัทสามารถสร้างกระแสเงินสดบวกจากกิจกรรมดำเนินงานและเงินลงทุน แต่ได้ทำการลงทุนที่มีนัยสำคัญ ทำให้เงินสดและเงินฝากที่จำกัดลดลง ณ สิ้นสุดช่วงเวลา
เผชิญความเสี่ยงหลายด้าน
ปัจจุบันบริษัทกำลังเผชิญกับความเสี่ยงที่หลากหลาย ได้แก่
1) การแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงขึ้นในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ส่งผลให้ต้องปรับลดราคาขายและกระทบต่อมาร์จิ้น
2) ต้นทุนการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนด้าน AI และ R&D อาจกดดันผลกำไรในระยะสั้น
3) ความท้าทายในการรักษาส่วนแบ่งตลาดท่ามกลางการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากผู้ผลิตรายใหม่
