เราคาดว่ากำไรปกติ 4Q67 ของ GFPT จะอยู่ที่ 347 ลบ. -14% YoY จากส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมที่อ่อนแอลง และ -38% QoQ จากปัจจัยฤดูกาล ในขณะที่เราพบพัฒนาการเชิงบวกในอุตสาหกรรมไก่เนื้อไทยในปี 2568TD จากราคาในประเทศที่สูงขึ้นท่ามกลางต้นทุนอาหารสัตว์ที่ลดลง แต่เราเปลี่ยนมามีมุมมองระมัดระวังมากขึ้นต่อแนวโน้มปี 2568 ของ GFPT จาก: 1) การตั้งเป้าปริมาณขายส่งออกในระดับทรงตัว YoY โดยบริษัทมีนโยบายเลือกคำสั่งซื้อมากขึ้นแทนที่จะลดราคาท่ามกลางการแข็งค่าของเงินบาทเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ; 2) GFPT จะได้รับผลกระทบจากการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำในประเทศไทย (เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.) หนักที่สุดในกลุ่มอาหาร เนื่องจากมีสัดส่วนต้นทุนค่าแรงสูงและโรงงานตั้งอยู่ในจังหวัดที่มีการขึ้นค่าจ้างสูง (ชลบุรี) เราปรับประมาณการกำไรของ GFPT ลดลง 7% ในปี 2567 และ 15% ในปี 2568 เราปรับคำแนะนำสำหรับ GFPT ลดลงจาก OUTPERFORM สู่ NEUTRAL โดยปรับราคาเป้าหมายกลางปี 2568 อ้างอิงวิธี SOTP ใหม่เป็น 11.5 บาท (จาก 14 บาท) โดยอิงกับ PE 6-9 เท่าสำหรับธุรกิจอาหารสัตว์ ธุรกิจฟาร์มเลี้ยงสัตว์ และธุรกิจอาหาร
คาดกำไรสุทธิ 4Q67 ที่ 357 ลบ. -13% YoY และ -34% QoQ หากตัดกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 10 ลบ. ออก เราคาดว่ากำไรปกติ 4Q67 จะเป็นจุดต่ำสุดของปี 2567 ที่ 347 ลบ. -14% YoY จากส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนที่ลดลงทั้งจาก McKey และ GFN และ -38% QoQ จากปัจจัยฤดูกาล
รายการที่สำคัญใน 4Q67 ยอดขาย คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3% YoY มาอยู่ที่ 4.9 พันลบ. จากยอดขายที่ดีขึ้นในธุรกิจฟาร์มเลี้ยงสัตว์ (ยอดขายไก่มีชีวิตให้กับ GFN เพิ่มขึ้น) ท่ามกลางยอดขายระดับทรงตัวในธุรกิจอาหารและธุรกิจอาหารสัตว์ สำหรับธุรกิจอาหาร เราประเมินปริมาณขายส่งออกโดยตรงได้ที่ 9,500 ตัน (+23% YoY จากการส่งออกไปยังยุโรปและญี่ปุ่นได้มากขึ้น; ทรงตัว QoQ) ท่ามกลางยอดขายที่ค่อนข้างทรงตัว YoY สำหรับปริมาณขายส่งออกทางอ้อมให้กับ McKey และยอดขายในประเทศ ในด้านราคา ราคาส่งออกโดยตรงในรูปเงินบาทมีแนวโน้มที่จะลดลง เนื่องจากเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น 5% YoY และ 2% QoQ ท่ามกลางราคาส่งออกในรูปดอลลาร์สหรัฐที่ไม่เปลี่ยนแปลง ราคาผลิตภัณฑ์พลอยได้โครงไก่ในประเทศอยู่ที่ 12.7 บาท/กก. -13% YoY และ QoQ อัตรากำไรขั้นต้น คาดว่าจะอยู่ที่ 12.7% +10bps YoY จากปริมาณขายส่งออกมาร์จิ้นสูงที่เพิ่มขึ้น แต่ -280bps QoQ จากราคาในประเทศและราคาส่งออกที่ลดลงท่ามกลางต้นทุนข้าวโพดที่สูงขึ้นเล็กน้อย GFPT เก็บสต๊อกอาหารสัตว์ไว้ 3 เดือน และราคา spot ข้าวโพดในประเทศและราคากากถั่วเหลืองนำเข้าอยู่ที่ 12 บาท/กก. (+3% YoY, +10% QoQ) และ 20 บาท/กก. (-5% YoY, -5% QoQ) ใน 3Q67 ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม คาดว่าจะอยู่ที่ 120 ลบ. -39% YoY จากส่วนแบ่งกำไรที่ลดลงจาก McKey ที่ 90 ลบ. (-32% YoY, -40% QoQ) จากขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน
เปลี่ยนมามีมุมมองระมัดระวังมากขึ้น ใน 1Q68TD เราพบพัฒนาการเชิงบวกในอุตสาหกรรมไก่เนื้อไทยจากราคาไก่เนื้อในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ 41.5 บาท/กก. (+5% YoY, +5% QoQ) และราคาผลิตภัณฑ์โครงไก่ในประเทศที่สูงกว่า 20 บาท/กก. (+25% YoY, +16% QoQ) ท่ามกลางราคา spot ข้าวโพดในประเทศที่ลดลงมาอยู่ที่ 10 บาท/กก. (-4% YoY, -17% QoQ) และราคากากถั่วเหลืองนำเข้าที่ลดลงมาอยู่ที่ 18.5 บาท/กก. (-16% YoY, -8% QoQ) ใน 4Q67 อย่างไรก็ตาม เราเปลี่ยนมามีมุมมองระมัดระวังมากขึ้นต่อแนวโน้มปี 2568 ของ GFPT สืบเนื่องมาจากปัจจัยเฉพาะบริษัท ปัจจัยแรก GFPT ตั้งเป้าปริมาณขายส่งออกปี 2568 อย่างดีที่สุดจะอยู่ในระดับที่ค่อนข้างทรงตัว YoY หลังจากมีปริมาณขายส่งออกที่แข็งแกร่งในปี 2567 ที่ 36,000 ตัน (+24% YoY) สำหรับปี 2568 GFPT จะเปลี่ยนมาโฟกัสที่ปริมาณขายส่งออกที่มีมาร์จิ้นสูงแทนที่จะลดราคาเพื่อดึงคำสั่งซื้อให้เข้ามามากขึ้นในช่วงที่เงินบาทแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ปัจจัยที่สอง เราประเมินว่า GFPT จะเป็นบริษัทที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดในกลุ่มอาหารจากการปรับค่าจ้างให้สอดคล้องกับค่าจ้างขั้นต่ำที่สูงขึ้นในประเทศไทย (รัฐบาลมีมติเห็นชอบปรับขึ้นค่าจ้าง 2-13% เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ขึ้นอยู่กับจังหวัด) ต้นทุนค่าแรงของ GFPT คิดเป็น 10% ของต้นทุนทั้งหมด (สูงที่สุดในกลุ่มอาหาร) โรงงานของ GFPT ตั้งอยู่ในจังหวัดที่มีการขึ้นค่าจ้างสูง: ชลบุรี (50%, ขึ้นค่าจ้าง +13%) และสมุทรปราการ (50%, ขึ้นค่าจ้าง +5%) และโรงงานของบริษัทร่วมตั้งอยู่ในชลบุรี (100%) สำหรับ GFN และชลบุรี (50%) และสมุทรปราการ (50%) สำหรับ McKey เราประเมินได้ว่ากำไรของ GFPT จะลดลง 9% จากการขึ้นค่าจ้างที่บริษัทเองและบริษัทร่วม
ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ คือ การเปลี่ยนแปลงในต้นทุนอาหารสัตว์และนโยบายรัฐบาล อุปทานสุกร (โปรตีนทดแทน) ที่สูงขึ้น ปัจจัยเสี่ยงด้าน ESG ที่สำคัญ คือ การบริหารจัดการพลังงาน ของเสีย และน้ำ ผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน (E) นโยบายด้านสุขภาพและความปลอดภัยของลูกค้าและพนักงาน (S)
4Q24F core profit will be Bt347mn, -14% YoY on lower equity income and -38% QoQ on seasonality. While developments in the Thai broiler industry in 2025TD have been good, with higher local prices amid lower feed costs, we are turning more cautious on 2025F from: 1) stagnant export sales volume target YoY, with the company becoming more selective on orders rather than cutting prices amid THB appreciation against the US dollar; 2) the hardest hit in the sector from a higher local minimum wage from Jan 1 on its high proportion of labor cost and factories in a province with the highest rise in wages (Chonburi). We cut our 2024F by 7% and 2025F by 15% and downgrade to NEUTRAL from Outperform with a new mid-2025 SOTP PT of Bt11.5 (from Bt14), based on PE of 6-9x for feed, farm and food units.
Expect 4Q24F net profit of Bt357mn, -13% YoY and -34% QoQ. Excluding a Bt10mn FX gain, we expect 4Q24F core profit to be this year’s low at Bt347mn, -14% YoY from weaker equity income from both McKey and GFN and -38% QoQ from seasonality.
4Q24F highlights. Sales grew 3% YoY to Bt4.9bn, on better farm sales (a rise in live chicken sales to GFN) amid stable food and feed sales. For the food business, we estimate direct export sales volume at 9,500 tons (+23% YoY on better sales to Europe and Japan; flat QoQ), with indirect export sales volume (to McKey) relatively stable YoY and domestic sales. In terms of price, THB direct export prices slid upon the 5% YoY and 2% QoQ strengthening in the THB against the US dollar while USD export prices were unchanged. Local chicken rib byproduct price was Bt12.7/kg, -13% YoY and QoQ. Gross margin is estimated at 12.7%, +10bps YoY from more high-margin export sales volume but -280bps QoQ from lower local and export prices amid slightly higher corn costs. GFPT keeps three months of feed inventory, and local spot corn and imported soybean meal prices were Bt12/kg (+3% YoY, +10% QoQ) and Bt20/kg (-5% YoY, -5% QoQ) in 3Q24. Equity income will be Bt120mn, -39% YoY, on lower contribution from McKey at Bt90mn (-32% YoY, -40% QoQ from FX loss and lower exports), and GFN at Bt30mn (-53% YoY, -47% QoQ from lower local product prices).
More cautious in 2025F. In 1Q25TD, the Thai chicken industry is looking a bit better, with a rise in local broiler price to Bt41.5/kg (+5% YoY, +5% QoQ) and chicken rib byproduct prices to above Bt20/kg (+25% YoY, +16% QoQ), amid a drop in local spot corn price to Bt10/kg (-4% YoY, -17% QoQ) and imported soybean meal price to Bt18.5/kg (-16% YoY, -8% QoQ) in 4Q24. However, some specific factors are turning us more cautious on 2025F. First, GFPT targets 2025F export sales volume to be stable YoY at best, after robust 2024F export sales volume at 36,000 tons (+24% YoY). In 2025F, GFPT will shift focus to high-margin export sales volume rather than cutting prices to attract more orders as the baht strengthens against the US dollar. Second, we estimate GFPT will be affected the most by higher labor costs brought by the rise in minimum wage (+2-13% wage increase from Jan 1, depending on province) as its labor costs account for 10% of total costs (sector’s highest) and its factories are located in provinces where wages were raised the most: Chonburi (50%, +13% wage increase) and Samutprakarn (50%, +5% wage increase), plus associates’ factories are in Chonburi (100%) for GFN and Chonburi (50%) and Samutprakarn (50%) for McKey. We estimate a 9% cut in GFPT’s earnings from the wage rise at it and associates.
Key risks are changes in feed costs and government policies, higher swine supply (substitute protein). Key ESG risks are energy, waste & water management, sustainable products (E), health & safety policies for customers and labor (S).
Download PDF Click > GFPT250124_E.pdf