Derivatives

เลือกอายุ Put Options อย่างไรให้คุ้มค่า เจาะลึก Protective Put บน SET50 ที่ไม่ต้องรอหมดอายุก็ทำกำไรได้

7 Nov 25 3:24 PM
รู้จักผลิตภัณฑ์ลงทุน1
สรุปสาระสำคัญ

“Protective Put” คือกลยุทธ์ที่ช่วยให้นักลงทุนถือพอร์ตได้อย่างสบายใจในวันที่ตลาดไม่แน่นอน โดยเฉพาะในตลาดอนุพันธ์ไทยอย่าง SET50 Options ซึ่งเปิดโอกาสให้นักลงทุน “ซื้อประกันพอร์ต” ได้จริงในเชิงกลยุทธ์
บทความนี้จะพาคุณเข้าใจวิธีเลือก “อายุออปชัน (Time to Expiry)” ที่เหมาะกับเป้าหมายการป้องกันพอร์ต เช่น เปรียบเทียบ Put อายุ 60 วัน vs Put อายุ 30 วัน — ซึ่งแม้ต่างกันเพียงระยะเวลา แต่ให้ผลต่างกันทั้งต้นทุน ความไวต่อเวลา และประสิทธิภาพการป้องกันพอร์ต โดยไม่จำเป็นต้องถือรอให้หมดอายุจึงจะเห็นผลตอบแทน

ความเสี่ยงที่สามารถควบคุมได้ด้วย “ Protective Put ”   

 

ในโลกของการลงทุน นักลงทุนมักพูดถึง “ความเสี่ยง” เป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่มันเป็นสิ่งที่สามารถ จัดการได้

ลองนึกภาพคุณถือหุ้นในพอร์ตที่มั่นใจสุด ๆ เช่น กลุ่มพลังงาน ธนาคาร หรือหุ้นใหญ่ใน SET50 แต่แล้ววันหนึ่งตลาดปรับฐาน 5% ภายในไม่กี่วัน... ความกังวลเริ่มมาเยือน

คำถามคือ จะขายหุ้นทิ้งตอนนี้ดีไหม? หรือจะถือรอ?
คำตอบคือ — คุณไม่จำเป็นต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
เพราะคุณสามารถ “ซื้อประกันพอร์ต” ไว้ล่วงหน้าได้ผ่านเครื่องมือที่ชื่อว่า Protective Put บน SET50 Index Options

 

*ข้อควรระวัง : ควรดูการเคลื่อนไหวของหุ้นที่ลงทุนเทียบกับดัชนี SET50 เพื่อดูความสัมพันธ์ของผลตอบแทนว่ามีการเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันมากน้อยเพียงใดประกอบ หากมีความสัมพันธ์ของผลตอบแทนต่ำกลยุทธ์นี้จะไม่สามารถใช้ป้องกันความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

Protective Put คืออะไร และทำไม “เวลา” ถึงสำคัญ

 

Protective Put คือกลยุทธ์ที่ผสานการ “ถือ Long Futures หรือพอร์ตหุ้นจริง” เข้ากับ “การซื้อ Put Options” เพื่อจำกัดความเสี่ยงขาลง
พูดง่าย ๆ คือ ถ้าตลาดลง Put จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นมาชดเชยขาดทุนจากหุ้นหรือ Futures ได้

แต่ปัจจัยที่หลายคนมองข้ามคือ “เวลา” — Time to Expiry หรือระยะเวลาที่ออปชันเหลืออยู่ก่อนหมดอายุ
เพราะ Time Decay (Theta) จะค่อย ๆ กัดกร่อนมูลค่า Options ทุกวัน แม้ราคาดัชนีไม่ขยับเลยก็ตาม

 

ดังนั้น หากเราเลือกอายุออปชันไม่เหมาะกับเป้าหมาย เช่น ซื้อสั้นเกินไป หรือยาวเกินจำเป็น — ประกันพอร์ตนี้อาจไม่คุ้มค่าอย่างที่คิด

ในตลาดไทย SET50 Options มีสัญญาให้เทรด เดือนใกล้ 3 เดือนติดต่อกัน และ เดือนสุดท้ายของไตรมาสใน 1 ไตรมาสถัดไปหมดอายุทุกเดือน เช่น ปัจจุบัน คือ เดือน พฤศจิกายน 2025

 

  • S50X25 (หมด พ.ย. 2025)
  • S50Z25 (หมด ธ.ค. 2025)
  • S50F25 (หมด ม.ค. 2025)
  • S50H26 (หมด มี.ค. 2026)

นักลงทุนจึงสามารถวางแผนได้อย่างยืดหยุ่นว่าจะ “ป้องกันพอร์ตสั้น” แค่ระยะ 1-3 เดือน หรือ “ป้องกันยาว” 3 เดือนขึ้นไป

 

เจาะลึกการเลือกอายุ Options: 60 วัน vs 30 วัน

(ตัวอย่างนี้เป็นการลงทุน Out of The money(OTM) Options และราคาปรับตัวจนเปลี่ยนมาเป็นสถานะ In The Money(ITM)

 

Put อายุ 60 วัน  “ประกันระยะยาวที่คุ้มครองต่อเนื่อง”

เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการคุ้มครองพอร์ตระยะกลางถึงยาว เช่น ก่อนการเลือกตั้ง การประกาศงบไตรมาสใหญ่ หรือช่วงที่ตลาดโลกมีความผันผวนสูง

 

  • ลักษณะเด่น :
    Time Decay ช้ากว่า ทำให้มูลค่าของ Put ลดลงช้ากว่ามาก
    มูลค่าออปชันมีความไวต่อ Volatility (Vega) สูง → หากตลาดเริ่มกลัว ความผันผวน (IV) เพิ่มขึ้น มูลค่า Put จะเพิ่มตามแม้ดัชนียังไม่ร่วง
    สามารถถือได้หลายสัปดาห์หรือหลายเดือนโดยไม่ต้อง Roll สัญญาบ่อย

 

  • ข้อควรระวัง :
    พรีเมียมสูงกว่าเพราะคุ้มครองนานกว่า
    Delta ยังไม่สูงมาก (-0.45 ถึง -0.5) ทำให้การ Hedge ยังไม่เต็ม 1:1
    ถ้าตลาดนิ่งหรือปรับขึ้นเล็กน้อย → มูลค่าของ Put จะลดลงช้า ๆ จาก Time Decay

 

ตัวอย่าง :
นักลงทุนถือ Long Futures S50Z25 และซื้อ Put 850 ที่เหลือ 60 วัน ราคาพรีเมียม 14.3 จุด
หาก SET50 ปรับลงจาก 860 → 840 ภายใน 10 วัน มูลค่า Put อาจเพิ่มเป็น 23.4 จุด ทำกำไร 9.1 จุดโดยไม่ต้องรอหมดอายุ

ผลตอบแทนจากส่วนต่างราคา Options = กำไร / ค่าพรีเมี่ยมที่จ่าย = 9.1/14.3 = +63.6%

 

Put อายุ 30 วัน  “ประกันระยะสั้นที่ตอบสนองทันที”

เหมาะกับเทรดเดอร์หรือผู้ที่ต้องการป้องกันพอร์ตช่วงเหตุการณ์เฉพาะหน้า เช่น ก่อนประชุม Fed, กนง., หรือก่อนตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ออก

  • ลักษณะเด่น :
    พรีเมียมถูกกว่า → เหมาะกับการ Hedge สั้น ๆ
    Delta สูง (-0.5 ถึง -0.55) → ป้องกันพอร์ตได้แรงและเร็วเมื่อดัชนีเริ่มร่วง
    Gamma สูง → มูลค่าของ Put จะเด้งขึ้นไวมากเมื่อราคาดัชนีเริ่มลง
  • ข้อควรระวัง :
    Time Decay รุนแรงมาก (โดยเฉพาะสัปดาห์สุดท้ายก่อนหมดอายุ)
    หากตลาดนิ่ง IV ลด → มูลค่า Put อาจลดลงอย่างรวดเร็วแม้ราคาดัชนีไม่เปลี่ยน
    ต้อง Roll ต่อเนื่องทุกเดือนหากต้องการป้องกันยาว

 

ตัวอย่าง :
ถือ Long Futures S50X25 พร้อมซื้อ Put 850 อายุ 30 วัน พรีเมียม 9 จุด
ถ้า SET50 ลดจาก 860 → 840 ภายใน 10 วัน มูลค่า Put อาจเพิ่มเป็น 17.3 จุด กำไร 8.3 จุดภายในเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์

ผลตอบแทนจากส่วนต่างราคา Options = กำไร / ค่าพรีเมี่ยมที่จ่าย = 8.3/9 = +92.2%

 

สรุปจากตัวอย่าง : การเคลื่อนไหวของค่าพรีเมียมอาจจะไม่แตกต่างกันมาก แต่ผลตอบแทนที่แตกต่างเกิดจากเงินลงทุนค่าพรีเมียมของออปชันที่จ่ายไป

 

เปรียบเทียบเชิงเทคนิค

คุณสมบัติ

Put อายุ 60 วัน

Put อายุ 30 วัน

พรีเมียม

สูงกว่า (ประกันยาว)

ต่ำกว่า (ประกันสั้น)

Time Decay (Theta)

ช้า

เร็ว

Delta

ต่ำกว่า (-0.45 ถึง -0.5)

สูงกว่า (-0.5 ถึง -0.55)

Gamma

ต่ำ (ตอบสนองช้า)

สูง (ตอบสนองไว)

Vega (ไวต่อ IV)

สูง

ปานกลาง

ความยืดหยุ่น

ถือได้นาน, Roll ช้า

เหมาะป้องกันเฉพาะเหตุการณ์

เหมาะกับ

นักลงทุนระยะกลาง–ยาว

เทรดเดอร์ระยะสั้น, Hedge เฉพาะจุด

*หมายเหตุ:ข้อมูลจากตัวอย่างบทความนี้ ค่าตัวแปรต่างๆจะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ตามราคาที่เปลี่ยนแปลง อายุคงเหลือออปชัน ความผันผวนของราคาสินทรัพย์อ้างอิง

 

เทคนิคบริหารจังหวะ: ไม่ต้องรอหมดอายุ ก็ทำกำไรได้

สิ่งที่นักลงทุนมืออาชีพเข้าใจคือ Options ไม่จำเป็นต้องถือจนครบอายุถึงจะสร้างผลตอบแทน
เพราะราคาของ Options ถูกกำหนดทั้งโดย

  • ราคาดัชนี (SET50 Spot)
  • ความผันผวนโดยนัย (Implied Volatility – IV)
  • และเวลา (Time Decay)

หากซื้อ Put ไว้ตอนตลาดสงบ (IV ต่ำ) แล้วในอีกไม่กี่สัปดาห์ตลาดเริ่มกังวล (IV เพิ่มขึ้น) มูลค่าของ Put จะดีดขึ้นทันทีแม้ดัชนียังไม่ร่วง
นักลงทุนสามารถ “ขาย Put คืน” เพื่อทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของ IV ได้โดยไม่ต้องรอวันหมดอายุเลย

กลยุทธ์นี้จึงเหมาะอย่างยิ่งในช่วงที่ตลาด “เริ่มกลัว” หรือก่อนเกิดเหตุการณ์สำคัญ เช่น ก่อนประกาศงบหรือก่อนตัวเลขเศรษฐกิจใหญ่

 

สรุป

“Protective Put ที่ดี ไม่ใช่แค่การซื้อตอนตลาดกลัว แต่คือการรู้ว่าควรซื้อ ‘ประกันระยะไหน’ ให้เหมาะกับความเสี่ยงของตัวเอง”

  • หากต้องการปกป้องพอร์ตจากความไม่แน่นอนระยะกลาง → ใช้ Put อายุ 60 วัน
  • หากต้องการกันเฉพาะเหตุการณ์ระยะสั้น → ใช้ Put อายุ 30 วัน
  • อย่าลืมว่า การขายทำกำไรจากการเพิ่มขึ้นของ IV ก่อนหมดอายุ คืออีกมิติหนึ่งของผลตอบแทนที่นักลงทุนมักมองข้าม

 

🚀  ลงทุน TFEX เข้าถึงโอกาสทำกำไรในตลาดอนุพันธ์ได้อย่างง่ายดายแค่ปลายนิ้ว

เพียงแค่เปิดบัญชีกับ InnovestX และ Activate บัญชี TFEX

  1. เปิดบัญชี InnovestX👉https://innovestx.onelink.me/23if/2jlpsi7b
  2. Activate TFEX: อ่านขั้นตอนการเปิดใช้บริการ👉https://www.innovestx.co.th/products/derivatives/product-tfex

 

Disclaimer:

⚠️ คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน  Futures and Options มีความเสี่ยงสูงที่อาจก่อให้เกิดผลขาดทุนอย่างมีนัยสำคัญจึงไม่เหมาะสมกับทุกคน การซื้อขาย Options มีความเสี่ยงที่มูลค่าสัญญาจะลดลงตามเวลา (Time decay) ความเสี่ยงที่ท่านอาจสูญเสียเงินที่จ่ายเพื่อซื้อสิทธิ์ในตอนแรก (ค่าพรีเมียม) ทั้งหมด ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5