Derivatives

ของเหมือนกัน ทำไมราคาไม่เท่ากัน? ส่องกลยุทธ์ Basis Trading "ล่าส่วนต่าง" S50 Futures vs TDEX

7 Nov 25 5:44 PM
รู้จักผลิตภัณฑ์ลงทุน2
สรุปสาระสำคัญ

บทความนี้จะพาทุกคนไปรู้จักกลยุทธ์ Basis Trading หรือ "การล่าส่วนต่าง" ราคา โดยใช้การจับคู่ระหว่าง SET50 Futures (ในตลาด TFEX) กับ TDEX (ETF ที่อิงดัชนี SET50) โดยกลยุทธ์นี้เป็นแบบ Market-Neutral คือไม่จำเป็นต้องเดาทิศทางตลาด เน้นการ "ล็อกกำไร" จากส่วนต่างราคา (Basis) ที่กว้างผิดปกติ เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนที่ความเสี่ยงต่ำ แต่มีโอกาสได้ผลตอบแทนสูงขึ้นในช่วงที่ตลาดผันผวน

"ล่าส่วนต่าง" เมื่อของชิ้นเดียวกัน ขายคนละราคา

เคยเจอของเหมือนกันเป๊ะ แต่ขายคนละราคาในคนละตลาดไหม? เหมือนเราเจอ "ช่องว่าง" ให้ทำกำไรฟรีๆ ในตลาดการเงินก็มีโอกาสแบบนี้เหมือนกัน โดยเฉพาะในภาวะที่ตลาดหุ้นไทย (SET50) ผันผวนหนักจากปัจจัยทั้งในและต่างประเทศ ทำให้นักลงทุนหลายคน "ไม่อยากเดาทิศทาง" ตลาด

แต่รู้ไหมว่า "ส่วนต่างราคา" ระหว่าง SET50 Futures กับราคา SET50 จริง (ราคา Spot; สามารถอ้างอิง ETF อย่าง TDEX ได้) มันมี "ช่องว่าง" ให้นักลงทุนที่ตาไวเข้าไป "ล็อกกำไร" แบบความเสี่ยงต่ำได้ นี่คือกลยุทธ์ที่เรียกว่า Basis Trading

 

จับคู่เทรด SET50 Futures + TDEX ล็อกกำไรแบบ Market-Neutral

หัวใจของกลยุทธ์นี้คือการใช้ SET50 Futures ซึ่งเป็น Product ในตลาด TFEX ซึ่งโดยปกติแล้ว นักลงทุนเทรด SET50 Futures เพื่อเก็งกำไรทิศทางตลาด (คิดว่าจะขึ้นก็ Long, คิดว่าจะลงก็ Short) แต่ในกลยุทธ์ Basis Trading นักลงทุนจะใช้ SET50 Futures ในฐานะ "เครื่องมือล็อกราคา"

 

Basis คืออะไร?

Basis คือ "ส่วนต่าง" ระหว่างราคา Futures ของ SET50 กับราคา Spot (ในที่นี้คือ TDEX)

Basis = ราคา S50 Futures – ราคา TDEX (ที่ใช้เป็นตัวเทียบเท่าดัชนี)

โดยปกติแล้ว ตลาดจะมีภาวะที่เรียกว่า “Contango” หมายความว่า ราคา Futures จะสูงกว่าราคา Spot เพราะว่าราคา Futures นั้นได้รวม "ต้นทุนการถือครอง" (Cost of Carry) เช่น ค่าดอกเบี้ย จนถึงวันหมดอายุสัญญาเข้าไปด้วย

 

วิธีการคำนวณเพื่อเทียบ TDEX กับ SET50 Futures:

  • SET50 Futures ซื้อขายกันเป็น "จุด" (Points)
  • TDEX (ETF) ซื้อขายกันเป็น "บาท" (Baht)

เนื่องจาก กองทุน TDEX ถูกออกแบบมาให้มี NAV (มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ) เคลื่อนไหวในอัตราส่วนประมาณ 1/100 ของดัชนี SET50 ดังนั้น วิธีที่ง่ายที่สุดในการแปลงค่า TDEX ให้อยู่ในหน่วยเดียวกับ SET50 Futures คือการ "คูณราคา TDEX ด้วย 100"

ตัวอย่าง: TDEX ราคา 8.00 บาท จะเทียบเท่ากับ SET50 Futures ที่ 8.00 x 100 = 800 จุด

*การคำนวณจริงอาจมีความคลาดเคลื่อนจากหลายตัวแปร เช่น Tracking Error, Cost of Carry, ภาวะตลาด และปัจจัยอื่นๆ

 

"โอกาส" อยู่ตรงไหน?

โอกาสเกิดขึ้นเมื่อ Basis นี้ "กว้างผิดปกติ" เช่น ตลาดอาจจะตื่นเต้นกับข่าวดีมากๆ ทำให้คนแห่ Long S50 Futures จนราคามัน "แพงเว่อร์" (Basis กว้าง) เมื่อเทียบกับราคาที่มันควรจะเป็น (Fair Value)

กลยุทธ์การเทรด (Arbitrage) จึงเกิดขึ้น โดยทางทฤษฎีมีขั้นตอนดังนี้:

  1. เมื่อนักลงทุนเห็น S50 Futures แพงกว่า TDEX มากผิดปกติ (Basis กว้างผิดปกติ)
  2. นักลงทุนทำการ Short S50 Futures (คือการ "ขาย" ล่วงหน้าในราคาสูง)
  3. ในขณะเดียวกัน นักลงทุนทำการ Buy TDEX (คือการ "ซื้อ" ของจริงในราคาถูก) โดยใช้มูลค่าที่ใกล้เคียงกัน

 

แล้วกำไรยังไง?

เมื่อนักลงทุนทำ 2 สิ่งนี้พร้อมกัน นักลงทุนจะอยู่ในสถานะ Market-Neutral คือ "ไม่สนว่าตลาดจะขึ้นหรือลง"

  • ถ้าตลาดขึ้น: นักลงทุนจะกำไรจาก TDEX (ที่ซื้อไว้ในกระดาน SET) แต่จะขาดทุนจาก S50 Futures (ที่ Short ไว้ในกระดาน TFEX)
  • ถ้าตลาดลง: นักลงทุนจะขาดทุนจาก TDEX แต่จะกำไรจาก S50 Futures มาชดเชย

พอร์ตของนักลงทุนสองข้างจะหักล้างกันไป แต่ "กำไร" ที่นักลงทุนได้ล็อกไว้แล้ว คือ "ส่วนต่าง" (Basis) ที่นักลงทุนเข้าทำการซื้อขาย S50 Futures และ TDEX ไปในตอนแรกนั่นเอง เนื่องจากในทางทฤษฎีแล้วเมื่อถึงวันหมดอายุสัญญา ราคา Futures จะต้องวิ่งกลับมาเท่ากับราคา Spot (Convergence) เสมอ

 

โอกาสในการทำ Basis Trading

ในทางทฤษฎี Basis ควรจะเท่ากับต้นทุนดอกเบี้ย หักลบด้วยเงินปันผลที่คาดว่าจะได้รับ (Cost of Carry) แต่เมื่อมาดูตลาดจริง ข้อมูลย้อนหลังมักแสดงให้เห็นว่า Basis มีความผันผวนสูง โดยเฉพาะช่วงที่ตลาดมีข่าวใหญ่ๆ หรือใกล้หมดอายุสัญญา นี่คือ "จังหวะ" ที่นักเทรด Arbitrage มองหา

 

ตารางเปรียบเทียบการลงทุนใน TDEX ธรรมดา VS Basis Trading

กลยุทธ์

ความเสี่ยงหลัก

โอกาสกำไร

สภาวะตลาดที่เหมาะ

ซื้อ TDEX
(ถืออย่างเดียว)

Market Risk
(ตลาดลง = ขาดทุน)

ขึ้นอยู่กับทิศทางตลาด

ตลาดขาขึ้น

Basis Trading
(Short S50 Futures + Long TDEX)

Basis Risk
(ส่วนต่างไม่ลู่เข้าตามทฤษฎี),
Liquidity Risk, Margin Call

ล็อกส่วนต่าง (จำกัดความเสี่ยง)

ช่วงที่ Basis กว้างผิดปกติ / ไม่สนทิศทางตลาด

 

Case Study: ล็อกกำไร 10 จุด แบบไม่สนตลาด

สมมติเป็นช่วงก่อนสัญญา S50Z25 (หมดอายุเดือน ธ.ค. 2025) จะหมดอายุ 2 เดือน นักลงทุนสังเกตเห็นภาวะที่ตลาด "แพงผิดปกติ"

  • ราคา Spot (TDEX): อยู่ที่ 8.50 บาท (เทียบเท่าดัชนี SET50 ที่ 850 จุด)
  • ราคา S50Z25: ซื้อขายอยู่ที่ 860 จุด
  • Basis (ส่วนต่าง) = 860 - 850 = +10 จุด

นักลงทุนคำนวณ Fair Value (ราคาที่ควรจะเป็น) ของ Basis โดยอิงจากดอกเบี้ยและปันผลคาดการณ์ พบว่า Fair Value ควรอยู่ที่ +4 จุด เท่านั้น

แปลว่าตลาดกำลังให้ "ส่วนต่าง" ที่แพงเกินจริงอยู่ถึง 6 จุด (10 – 4 จุด)

การดำเนินการ (Action):

  1. Short S50Z25 ที่ 860 จุด 1 สัญญา
    • มูลค่าสัญญา = 860 จุด x 200 บาท/จุด = 172,000 บาท
    • ใช้เงินสำหรับ Initial Margin (IM) = 10,080 บาท*
  2. Long TDEX (ซื้อ ETF) ด้วยมูลค่าที่เท่ากัน คือ 172,000 บาท

ผลลัพธ์: เมื่อถือจนหมดอายุสัญญา (Basis = 0)

ไม่ว่าตลาดจะปิดที่เท่าไหร่ กำไรที่ล็อกไว้คือ 10 จุด เสมอ:

  • Case 1: ตลาดขึ้นแรงไปปิดที่ 900 จุด
    • Long TDEX: จาก 8.50 à 9.00 บาท = เทียบเท่ากำไร 50 จุด
    • Short S50Z25: จาก 860 à 900 จุด = ขาดทุน 40 จุด
    • กำไรรวม = 50 – 40 = 10 จุด
  • Case 2: ตลาดลงมาปิดที่ 800 จุด
    • Long TDEX: จาก 8.50 à 8.00 = เทียบเท่าขาดทุน 50 จุด
    • Short S50Z25: จาก 860 -> 800 จุด = กำไร 60 จุด
    • กำไรรวม = 60 – 50 = 10 จุด

จะเห็นว่าไม่ว่าตลาดจะเป็นอย่างไร นักลงทุนก็สามารถ "ล็อกกำไร" 10 จุด (หรือ 2,000 บาท/สัญญา)** ได้สำเร็จตั้งแต่แรก กลยุทธ์นี้จึงเหมือนการ "เก็บเล็กผสมน้อย" ในจังหวะที่ตลาดให้โอกาส โดยมีความเสี่ยงที่ต่ำมาก

*IM ณ วันที่ 7 พ.ย. 2568

**ตัวอย่างข้างต้นไม่รวมค่าคอมมิชชั่น ค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายอื่นๆ และใช้เป็นกรณีศึกษาเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุน

 

โอกาสการทำกำไรบนความเสี่ยงต่ำด้วย Basis Trading

Basis Trading คือกลยุทธ์การลงทุนแบบ Market-Neutral ที่น่าสนใจมากสำหรับนักลงทุนที่ไม่ต้องการแบกรับความเสี่ยงจากทิศทางตลาด

  • หัวใจ: คือการ "ล่าส่วนต่าง" (Basis) ระหว่าง SET50 Futures และ TDEX (Spot)
  • วิธีทำ: เมื่อ Basis กว้างผิดปกติ (Futures แพง) ให้ Short SET50 Futures และ Long TDEX ไปพร้อมกัน
  • ผลลัพธ์: "ล็อกกำไร" ส่วนต่างนั้นไว้ โดยไม่สนว่าตลาดจะขึ้นหรือลง
  • ความเสี่ยง: แม้จะต่ำ แต่ก็มีความเสี่ยงเรื่องสภาพคล่อง หรือการที่ Basis อาจไม่ลู่เข้าตามทฤษฎี (มีโอกาสเกิดขึ้นได้) รวมถึงการถูก Margin Call สำหรับ SET50 Futures

กลยุทธ์นี้อาจจะดูซับซ้อนเล็กน้อย แต่ก็เป็นอีกทางเลือกในการสร้างผลตอบแทนที่มั่นคง โดยใช้ประโยชน์จากเครื่องมือใน TFEX อย่าง SET50 Futures ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

 

References

 

🚀 ลงทุน TFEX เข้าถึงโอกาสทำกำไรในตลาดอนุพันธ์ได้อย่างง่ายดายแค่ปลายนิ้ว

เพียงแค่เปิดบัญชีกับ InnovestX และ Activate บัญชี TFEX

  1. เปิดบัญชี InnovestX 👉 https://innovestx.onelink.me/23if/2jlpsi7b
  2. Activate TFEX: อ่านขั้นตอนการเปิดใช้บริการ 👉 https://www.innovestx.co.th/products/derivatives/product-tfex

⚠️ คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุนการซื้อขายฟิวเจอร์สและออปชั่น มีความเสี่ยงสูงที่อาจก่อนให้เกิดผลขาดทุนอย่างมีนัยสำคัญจังไม่เหมาะสมกับบุคคลทุกคน ก่อนตัดสินใจซื้อขายฟิวสเจอร์สและออปชั่น ท่านควรพิจารณาถึงฐานะทางการเงินวัตถุประสงค์การลงทุน ตลอดจนความเสี่ยงที่สามารถยอมรับได้อย่างรอบคอบเนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่ท่านอาจสุญเสียเงินลงทุนมากกว่าเงินลงทุนเริ่มแรก

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5