กลยุทธ์จัดการความเสี่ยง Protective Put ด้วยการใช้ S50 Futures และซื้อ Put Option เพื่อลดการขาดทุน เสมือนการซื้อประกันให้พอร์ต
Protective Put คือ กลยุทธ์ที่นักลงทุนใช้ในการ “บรรเทาความเสี่ยง” ของพอร์ตหุ้น หรือ S50 Futures และซื้อ Put Option เพื่อบรรเทาการขาดทุน ในกรณีที่ถือ Long S50 Futures ปรับตัวลง เปรียบเสมือนการซื้อประกันให้พอร์ต หาก S50 Futuresขึ้นนักลงทุนยังได้กำไร แต่หากราคาตกก็จะได้รับสิทธิใน Put Option
โดยเฉพาะในช่วงที่มีข่าวหรือเหตุการณ์สำคัญ เช่น การเลือกตั้ง, การปรับขึ้นดอกเบี้ย หรือวิกฤตการณ์ต่างประเทศ นักลงทุนที่เหมาะกับกลยุทธ์นี้คือผู้ที่ถือหุ้น หรือพอร์ตหุ้นขนาดใหญ่ และต้องการป้องกันความเสี่ยงหุ้นลง แต่ยังต้องการโอกาสหากหุ้นขึ้น
ตัวอย่าง: สมมติว่าเปิดสถานะ Long Futures ของ S50M25 (สัญญาเดือนมิ.ย.) ที่ราคา 1,000 จุด (ค่า multiplier = 200) ซึ่งคิดเป็นมูลค่ารวม 200,000 บาท (1,000 × 200) และคาดการณ์ว่าดัชนีจะปรับตัวขึ้นในระยะยาว แต่กังวลเกี่ยวกับความผันผวนในระยะสั้น
เพื่อป้องกันความเสี่ยง จึงซื้อ Long Put Option ที่ Strike 980 (S50M25P980) โดยจ่ายพรีเมียม 15 จุด (หรือ 15 × 200 = 3,000 บาท)
สถานการณ์ที่ 1: ดัชนีปรับตัวขึ้นเป็น 1,050 จุด
สถานการณ์ที่ 2: ดัชนีปรับตัวลงเป็น 930 จุด
จะเห็นได้ว่าหากไม่มีการซื้อ Put Options คุณนภาอาจขาดทุนถึง 14,000 บาท แต่ด้วยกลยุทธ์ Protective Put ความเสียหายถูกจำกัดไว้ที่ 7,000 บาท
สังเกตว่าไม่ว่าดัชนีจะลงต่ำกว่า 980 จุดมากเพียงใด ผลขาดทุนสูงสุดจะถูกจำกัดไว้ที่ 7,000 บาท
Protective Put เป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพในการจำกัดความเสียหายจากการลงทุนในตลาด TFEX โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง การเข้าใจถึงวิธีการใช้ S50 Futures ร่วมกับ S50 Options จะช่วยให้นักลงทุนสามารถบริหารความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แม้จะมีต้นทุนในการซื้อประกัน แต่ความมั่นใจและการจำกัดความเสียหายที่ได้รับอาจคุ้มค่ากับการลงทุนในระยะยาว
------------------------------------------------------------------
คำเตือน: ผู้ลงทุนควรศึกษา ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน