Keyword
Derivatives

US Options 101 (ฉบับอ่านง่าย): เข้าใจ “Long Call & Long Put” แบบใช้ได้จริง + คู่มือจัดการความเสี่ยง

1 Sep 25 11:37 AM
รู้จักผลิตภัณฑ์ลงทุน3
สรุปสาระสำคัญ

บทความ Options 101 (ฉบับอ่านง่าย) นี้พาไปรู้จัก “Long Call & Long Put” ในแบบที่เข้าใจง่ายและนำไปใช้ได้จริง จุดเด่นคือความเสี่ยงจำกัด ขาดทุนสูงสุดแค่ค่า Premium แต่ถ้าทิศทางถูก Upside เปิดกว้าง พร้อมยกตัวอย่างจริงจาก Tesla Breakout และ COVID Crash ให้เห็นภาพชัด นอกจากนี้ยังสรุปวิธีเลือก Strike, DTE, จัดการความเสี่ยง, ระวัง Time Decay และ IV Crush ตลอดจน Blueprint การใช้งาน (เล่นตาม Trend, Event, Hedge, Stock Replacement) แบบพร้อมใช้ มือใหม่จะได้ทั้งพื้นฐานที่แน่น วิธีคิดเชิงระบบ และคู่มือจัดการความเสี่ยงครบชุด ก่อนจะเริ่มลองใช้ออปชันอย่างมั่นใจ

บทนำ: Options ไม่ได้ยาก—ถ้าเริ่มจากสิทธิ์ง่าย ๆ สองแบบนี้

ได้ยินคำว่า Options หลายคนถอนหายใจ—นึกถึงสูตรคณิตฯ กรีกยกกำลัง แต่ถ้า “ลอกคราบ” ให้เหลือแก่นจริง ๆ มันคือ สัญญาให้สิทธิ์ ไม่ใช่ภาระผูกพัน
 • Call Option = สิทธิ์ “ซื้อ” หุ้นในอนาคต ที่ราคากำหนด (Strike) ภายในเวลาที่กำหนด (Expiration)
 • Put Option = สิทธิ์ “ขาย” หุ้นในอนาคต ด้วยเงื่อนไขเดียวกัน

ถ้าเราเป็น “ผู้ซื้อออปชัน” (Long Options) ความเสี่ยงสูงสุดคือ ค่า Premium ที่จ่ายตอนเริ่มต้น แต่ถ้าทิศทางวิ่งตามที่คาด ผลตอบแทนอาจ ทวีคูณ เมื่อเทียบกับเงินต้น—นี่คือเสน่ห์ของออปชัน

1) Option 101: ปูพื้นให้แน่นใน 3 นาที

ศัพท์สำคัญที่ต้องรู้:
 • Strike Price = ราคาที่เรามีสิทธิ์ซื้อ/ขาย
 • Expiration (DTE) = วันหมดอายุของสัญญา (Days to Expiration = จำนวนวันคงเหลือ)
 • Premium = ราคาตั๋ว (เงินที่จ่ายเพื่อถือสิทธิ์)

สูตรจำเป็น:
 • Breakeven Long Call = Strike + Premium
 • Breakeven Long Put  = Strike − Premium
 • Max Loss (Long Call/Put) = Premium
 • Max Gain Long Call = เปิดโล่ง (ยิ่งขึ้นยิ่งได้) / Long Put = เพิ่มขึ้นจนกว่าราคาจะเข้าใกล้ศูนย์

คิดง่าย ๆ: Long Call = แทงขึ้นแบบเสี่ยงจำกัด, Long Put = แทงลง/ประกันพอร์ตแบบเสี่ยงจำกัด

2) ทำไมมือใหม่ควรเริ่มที่ Long Options
 • เสี่ยงจำกัด: ขาดทุนได้มากสุดเท่าพรีเมียม
 • Leverage เป็นมิตร: ใช้เงินน้อย คุม Exposure หุ้นได้มาก
 • เลือกทิศได้ทั้งขึ้น–ลง: Long Call เล่นขาขึ้น, Long Put เล่นขาลงหรือป้องกันพอร์ต
 • ไม่ต้องรับความเสี่ยง Assignment: ผู้ซื้อไม่มีวันถูกบังคับส่งมอบ (สิทธิ์อยู่ที่เรา)

3) ตัวอย่างจริง: Tesla Breakout (Long Call)

ช่วงปี 2020 หุ้น Tesla (TSLA) ถีบตัวแรงหลังงบและข่าวสำคัญ—ใครมั่นใจในขาขึ้น เลือกซื้อ Call ช่วงกำลัง Breakout
 • สมมติซื้อ Call Strike $120 หมดอายุ 3 เดือน Premium $5 (1 สัญญา = 100 หุ้น → จ่าย $500)
 • ถ้าก่อนหมดอายุราคาขึ้นไป $200 → มูลค่าในตัว (Intrinsic) ≈ $80
 • กำไรคร่าว ๆ ≈ ($80 − $5) × 100 = $7,500 (กำไร 15x จากเงิน $500)

บทเรียน: เวลา “คิดถูก + วิ่งแรง” Long Call เปลี่ยนเงินเล็กให้เป็นผลลัพธ์ใหญ่ได้—โดย Downside ถูกปิดด้วยพรีเมียม

4) ตัวอย่างจริง: COVID Crash (Long Put)

มี.ค. 2020 S&P 500 ร่วง ~35% ภายในเดือนเดียว ใครมีพอร์ตหุ้นเยอะแล้วกังวล เลือกซื้อ Put บนดัชนี (เช่น SPY) เป็น “ประกันพอร์ต”
 • สมมติซื้อ SPY Put Strike 300 หมดอายุ 1 เดือน Premium $8
 • SPY ร่วงไป 230 → Intrinsic ≈ $70
 • $800 → กลายเป็น ~$7,000+

บทเรียน: Long Put ใช้ “ต่อชีวิตพอร์ต” เวลาเกิดหมีโหด ๆ ได้จริง

5) วิธีใช้งาน (Applications) ที่ทำได้เลย

A) Trend Play
 • Breakout เหนือแนวต้าน → Long Call ใกล้เงิน (ATM/ITM เล็กน้อย) DTE 30–60 วัน
 • หลุดแนวรับสำคัญ → Long Put ลักษณะเดียวกัน

Event Play (ประกาศงบ, ตัวเลขเศรษฐกิจ, Catalyst รายใหญ่)
 • เชื่อทิศชัด → ซื้อใกล้เงิน DTE สั้น (7–30 วัน)
 • ระวัง IV Crush หลังเหตุการณ์—แม้เดาถูกทิศแต่ราคา Option อาจยุบจาก IV ลดลง

C) Portfolio Hedge
 • มีพอร์ตหุ้นเติบโตเยอะ กลัวตลาด “รูด” → ซื้อ Index Put ขนาดเล็ก (1–2% ของพอร์ต) คุม Downside

D) Stock Replacement (แทนถือหุ้น)
 • ไม่อยากจมเงินก้อน → ใช้ LEAPS Call (อายุยาว 1–2 ปี เดลตา ~0.6–0.9) ได้ Upside ใกล้เคียง โดยจำกัด Downside ที่พรีเมียม

6) สิ่งที่ต้องระวัง (ฉบับลงลึก): จุดที่มือใหม่พลาดกันบ่อย

นี่คือส่วนที่หลายคนมองข้าม—ผมขยายทีละมุมให้ครบ ตั้งแต่วิธีตั้งดีลจนถึงวิธีหนี IV Crush

6.1 Time Decay (Theta): ศัตรูเงียบของผู้ซื้อ
 • Theta คือค่าเสื่อมตามเวลา: ทุกคืนผ่านไป มูลค่าเวลา (Time Value) ของออปชันจะ “ละลาย” แม้ราคาหุ้นไม่ขยับ
 • ความจริงที่เจ็บ: Theta ไม่ได้ละลายเท่ากันทุกวัน—มัน “เร่ง” เมื่อใกล้หมดอายุ (โค้งเป็นรูป S)
 • ข้อปฏิบัติ
 • ถ้าเล่นสวิง 2–8 สัปดาห์ เลือก DTE 30–60 วัน เพื่อลดการถูก Theta กัดเร็วเกินไป
 • อย่าถือใกล้หมดอายุโดยไม่มีเหตุผล—ถ้าไม่มีการเคลื่อนที่ ราคาตั๋วอาจหายเกลี้ยง

6.2 Implied Volatility (IV) & IV Crush: ราคาตั๋วแพง–ถูกไม่ได้อยู่ที่ราคาเดียว
 • IV = ความผันผวน “โดยนัย” ที่ตลาดคาด—IV สูง = Ticket แพง, IV ต่ำ = Ticket ถูก
 • ก่อนงบ/อีเวนต์ใหญ่: IV มัก “บวม” เพราะตลาดรอข่าว → Premium แพง
 • หลังข่าว: ถ้าความไม่แน่นอนหายไป → IV Crush = Premium ยุบ แม้เดาถูกทิศ
 • ข้อปฏิบัติ
 • ถ้าเล่น Event ที่คาดเดาได้—กลยุทธ์ง่ายคือ “เข้าให้เร็วกว่า” เพื่อเก็บ IV Expansion แล้ว ขายก่อนประกาศ
 • ถ้าจะถือผ่านงบจริง ๆ ต้องมั่นใจมาก และยอมรับความเสี่ยง IV Crush

6.3 เลือก Strike & DTE แบบมีระบบ
 • Strike
 • มือใหม่: เริ่ม ATM/ITM เล็กน้อย (Delta ~0.5–0.6) โอกาสไปถึงจุดคุ้มทุนสูงกว่า
 • หลีกเลี่ยง OTM ไกล ๆ เพราะแม้ถูก แต่ต้อง “ขึ้น/ลง เกินจริง” ภายในเวลาจำกัด
 • DTE
 • Swing/Trend: 30–60 วัน
 • Event: 7–30 วัน (ถ้าขายก่อนข่าว 1–2 วันลด IV Crush)
 • Thesis ยาว: LEAPS > 1 ปี

6.4 สภาพคล่อง (Liquidity) & สเปรด (Bid–Ask)
 • เลือก Underlying ที่มี Volume / Open Interest สูง ๆ เช่น SPY, QQQ, AAPL, MSFT
 • ระวัง สเปรดกว้าง (ซื้อแพง–ขายถูก) ทำให้เสียเปรียบตั้งแต่ยังไม่เริ่ม
 • วิธีเช็คเร็ว: ดู Bid–Ask ของซีรีส์นั้น ๆ ถ้าห่างเกิน 5–10% ของพรีเมียม—หลีกเลี่ยง

6.5 การบริหารความเสี่ยง (Position Sizing & Stops)
 • ขนาดสถานะ: ต่อดีลอย่าเสี่ยงเกิน 1–2% ของมูลค่าพอร์ต (รับได้แม้พรีเมียมศูนย์)
 • Stop Loss แบบพรีเมียม: ตั้งใจว่าจะยอมแพ้เมื่อ พรีเมียม -40% ถึง -60%
 • Take Profit แบบขั้นบันได: +50% ปล่อยครึ่ง, +100% ปล่อยอีกครึ่ง, ถือส่วนที่เหลือต่อโดยตั้ง Trailing Stop

6.6 การ “Roll” เพื่อรักษากำไรหรือยืดเวลา
 • กรณี Call ชนะและเดลตา > 0.75–0.8: พิจารณา Roll Up (ขายเดิม–ซื้อ Strike สูงขึ้น) เพื่อล็อกกำไรบางส่วน ลดความเสี่ยง
 • กรณี เวลาหมดเร็วแต่ Thesis ยังไม่เปลี่ยน: Roll Out (ขายเดิม–ซื้อ DTE ไกลขึ้น) เพิ่มเวลาให้ไอเดียสุกงอม
 • ท่องไว้: Roll คือ “การจัดรูปความเสี่ยง” ไม่ใช่เพิ่มพนัน—อย่าขยายขนาดสุ่มสี่สุ่มห้า

6.7 เรื่องปลีกย่อยที่มือใหม่มักไม่รู้
 • Pin Risk: วันหมดอายุ ราคา Underlying ชอบ “หนีบ” ใกล้ Strike ทำให้ P/L แกว่งแรงมาก—อย่าปล่อยให้ลุ้นแบบไม่มีแผน
 • Early Exercise: ผู้ซื้อ ไม่ถูกบังคับ ออกแรง—แต่บางกรณี (Call ลึกเงิน + หุ้นมีปันผล) การ “ถือ Option” อาจเสียสิทธิ์ปันผล พิจารณา “ขาย Option แล้วซื้อหุ้น” ถ้าคุ้มกว่า
 • ข่าว/ภาษี/ค่าธรรมเนียม: กฎภาษีต่างกันตามประเทศ—ตรวจสอบกับโบรกเกอร์ของคุณเสมอ

7) แผนปฏิบัติ (Blueprint) 3 แบบ—ยกไปใช้พรุ่งนี้ได้เลย

Blueprint A: Breakout Call
 1. เลือกหุ้นกำลังเบรกแนวต้าน ระยะกลางเป็นขาขึ้น
 2. ซื้อ ATM/ITM Call, DTE 45 วัน
 3. ตั้ง Stop เมื่อ Premium -50% / Take Profit ที่ +50%, +100%, แล้วเลื่อน Stop
 4. ถ้ากำไรจนเดลตา ~0.8 ให้ Roll Up เพื่อล็อกกำไร

Blueprint B: Gap-Down Put (เล่นหลุดแนวรับ)
 1. หุ้นหลุดเส้นค่าเฉลี่ย/แนวรับใหญ่ด้วย Volume
 2. ซื้อ ATM/ITM Put, DTE 30–45 วัน
 3. เป้าหมายแรก = โซนแนวรับถัดไป, ใช้ +50%/+100% แบบขั้นบันได
 4. ถ้าราคา Rebound กลับเหนือแนวรับเดิม → ตัดขาดทุนทันที

Blueprint C: Hedge พอร์ตด้วย Index Put
 1. พอร์ตหุ้นเติบโตเยอะ กังวล Macro/ตัวเลขเศรษฐกิจ
 2. ซื้อ SPY/QQQ Put, DTE ~60 วัน ใช้งบ 1–2% ของพอร์ต
 3. ถ้าตลาดลงแรง Put จะโตขึ้นมาเบรกดาเมจ ถ้าตลาดนิ่ง/ขึ้น ถือเป็นค่า “ประกัน”

 Q&A ที่มักถูกถาม (ตอบแบบเร็ว)

Q: มือใหม่ควรเริ่มที่ Long Call หรือ Long Put ดี?
A: เลือกตามทิศที่คุณเข้าใจ—ถ้าถนัดเทคนิคอล เล่น Breakout/ Breakdown ตาม Blueprint A/B

Q: ถือผ่านงบได้ไหม?
A: ได้ แต่ต้องเข้าใจ IV Crush—บ่อยครั้ง “ขายก่อนประกาศ” ปลอดภัยกว่า

Q: ใช้เงินเท่าไรต่อดีล?
A: 0.5–2% ของพอร์ต ถ้าเสียเต็มพรีเมียมยังยิ้มไหว

Q: จะรู้ได้ไงว่า Option แพงไป?
A: เทียบ IV ปัจจุบันกับ IV ย้อนหลัง (หลายโบรกมีกราฟ IV) ถ้าสูงผิดปกติ ให้ระวัง

9) บทสรุป: Option ไม่ใช่ดาบสองคม—ถ้าถือถูกด้าม
 • Long Call/Long Put คือจุดเริ่มต้นที่ดี—เสี่ยงจำกัด เข้าใจง่าย แต่ทรงพลัง
 • หัวใจคือ เลือก Strike/DTE ตรงกับไอเดีย, เคารพ Theta/IV, บริหาร ขนาด/จุดตัดขาดทุน
 • ใช้มันเป็น “เครื่องมือ” เสริมยุทธศาสตร์ ไม่ใช่เดิมพันก้อนเดียวแล้วลุ้นฟ้า

 Key Takeaways 
 1. ผู้ซื้อออปชัน (Long) ขาดทุนสุดแค่ Premium แต่ได้ Upside สูงถ้าทิศทางถูก
 2. Long Call เล่นขาขึ้น, Long Put เล่นขาลง/กันพอร์ต—เริ่มที่ ATM/ITM และ DTE 30–60 วัน
 3. ระวัง Theta (ยิ่งใกล้หมดอายุยิ่งละลายเร็ว) และ IV Crush หลังเหตุการณ์ใหญ่
 4. เลือกซีรีส์ที่ สเปรดแคบ สภาพคล่องสูง ลดต้นทุนแฝง
 5. บริหารความเสี่ยงด้วย ขนาดสถานะเล็ก Stop -40% ถึง -60% / Take +50% +100%
 6. ใช้ Roll Up / Roll Out เพื่อรักษากำไรและยืดเวลาเมื่อ Thesis ยังใช่
 7. Option ไม่ใช่การพนัน—เป็น “อาวุธเบา” ที่ทรงพลัง เมื่อคุณใช้ด้วยแผน

อ่านบทความ US Options เพิ่มได้ที่นี่

https://www.innovestx.co.th/cafeinvest/investsnack/product-basic-knowledge/tfex-derivatives/volume-oi-usoptions

 

US Options

🚀 ลงทุน US Options กับ InnovestX ได้แล้ว!
ครั้งแรกบน InnovestX ที่ให้คุณเทรด US Options ได้ทั้งบนแอปและ WebTrade สะดวกกว่าเดิม พร้อมเครื่องมือครบมือเหมือนเดิม
✅ เติมเงินเข้า wallet ได้ real-time
✅ ฝาก-ถอน ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
✅ เครื่องมือเทรดผ่านเว็บไซต์ สามารถใช้ผ่าน PC ให้สามารถเทรดได้แบบมืออาชีพ
✅ มีข้อมูล real-time market data ของ US Options ให้ subscribe ในราคาดีเข้าถึงง่าย เพียง 1.25 USD/Month

✅ ใช้บัญชีเดียวกับบัญชีหุ้นสหรัฐฯ ไม่ต้องเปิดบัญชีใหม่

 

📱 ดาวโหลดและเปิดบัญชีกับ InnovestX คลิก https://innovestx.onelink.me/23if/2jlpsi7b

📱 รายละเอียดและคู่มือการเปิดใช้บริการ US Options คลิก https://www.innovestx.co.th/us-options

 

⚠️ คำเตือน: ผู้ลงทุนควรศึกษา ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน ผลงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งที่รับประกันผลงานในอนาคต เงินลงทุนอาจสูญหาย และควรศึกษาความเสี่ยงก่อนลงทุน

 

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5