เวลาที่นักลงทุนมือใหม่เปิดดู Option Chain อาจสะดุดตากับตัวเลข Volume และ Open Interest (OI) ซึ่งอยู่คู่กันเสมอ แต่หลายคนยังไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร แตกต่างกันอย่างไร และมีประโยชน์อย่างไรต่อการตัดสินใจลงทุน บทความนี้จะพาไปทำความรู้จักความหมายของทั้งสองตัวเลข พร้อมอธิบายความสำคัญ วิธีใช้เพื่อวัดสภาพคล่อง เกณฑ์ที่ช่วยประเมินว่าสัญญาไหนน่าเทรด และวิธีดูข้อมูลบนหน้า Option Chain ให้เป็น เมื่ออ่านจบ คุณจะสามารถใช้ Volume และ OI เป็นเครื่องมือพื้นฐานในการเลือกสัญญา US Options ได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
เวลาที่นักลงทุนมือใหม่เปิดดูตาราง Option Chain มักจะเจอตัวเลขที่ชื่อว่า Volume และ Open Interest (OI) อยู่ข้าง ๆ กัน หลายคนอาจสงสัยว่ามันคืออะไร แตกต่างกันอย่างไร และเราควรใช้ข้อมูลเหล่านี้อย่างไร บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจทีละขั้นครับ
- Open Interest และ Volume คืออะไร?
Volume คือจำนวนสัญญาที่มีการซื้อขายใน “วันนี้” เท่านั้น ตัวเลขนี้จะรีเซ็ตใหม่ทุกวัน เช่น หากวันนี้มีการซื้อขาย Call Options ของหุ้น AAPL ที่ราคาใช้สิทธิ 180 รวมทั้งหมด 1,200 สัญญา ก็หมายความว่า Volume ของสัญญานี้คือ 1,200
Open Interest (OI) คือจำนวนสัญญาที่ “ยังคงค้างอยู่ในตลาด” ไม่ว่าจะฝั่งผู้ซื้อหรือผู้ขายก็ตาม ตัวเลขนี้จะไม่รีเซ็ต แต่เป็นการนับสะสมว่ายังมีสถานะคงค้างอยู่กี่สัญญา เช่น หาก OI ของ Call AAPL 180 เท่ากับ 10,000 หมายถึงยังมีคนถือสัญญานี้ค้างอยู่รวม 10,000 สัญญา
พูดให้ง่ายขึ้นก็คือ Volume = ความคึกคักของวันนี้ ส่วน OI = ภาพรวมจำนวนสัญญาที่ค้างอยู่ในตลาด
- ทำไมต้องสนใจ Volume และ OI?
ข้อมูลสองตัวนี้ไม่ได้มีไว้แค่ประกอบ Option Chain แต่ช่วยให้เราตัดสินใจได้ดีขึ้นอย่างมาก ถ้า Volume และ OI อยู่ในระดับสูง หมายความว่าสัญญานั้นมีสภาพคล่องสูง เข้า–ออกง่าย ไม่ติดปัญหาสเปรดกว้างเกินไป
นอกจากนี้ Volume ยังสะท้อน “ความสนใจใหม่ ๆ” ในตลาด หากตัวเลขพุ่งผิดปกติอาจบอกได้ว่ามีแรงเก็งกำไรหรือข่าวเข้ามา ส่วนการเปลี่ยนแปลงของ OI หลังปิดตลาดก็มีความหมาย ถ้า OI เพิ่มแสดงว่ามีการเปิดสถานะใหม่ แต่ถ้า OI ลดลง แสดงว่าคนกำลังทยอยปิดสถานะออก
- เกณฑ์ดูว่าสัญญามีสภาพคล่องดีหรือไม่
สำหรับมือใหม่ สิ่งที่ควรเช็กคือ OI ควรมีอย่างน้อยตั้งแต่หลัก ร้อยถึงพันสัญญาขึ้นไป และ Volume รายวันควรมีอย่างน้อย ร้อยสัญญา เพื่อให้มั่นใจว่าสัญญานั้นมีการซื้อขายจริง นอกจากนี้ควรดูส่วนต่างของราคาซื้อ–ขาย (Bid-Ask Spread) หากไม่เกิน 5–10% ของราคาพรีเมียม ถือว่ามีสภาพคล่องเพียงพอและน่าเข้าไปเทรด
- วิธีดู Volume และ OI บน Option Chain
วิธีการใช้งานและการอ่านค่าต่างๆของ Option chain บน Webtrade InnovestX
วิธีตั้งค่า Option Chain เพื่อเพิ่ม Column Open Interest, Volume และ Delta
เมื่อคุณเปิดหน้า Option Chain บนแพลตฟอร์ม InnovestX Webtrade สิ่งสำคัญคือการตั้งค่าให้เห็นข้อมูลที่สำคัญ ทั้ง Bid, Ask, Last Price, Volume, Open Interest, Delta
จากนั้นโฟกัสดูสัญญาที่ใกล้ราคาหุ้น (ATM) หรือในช่วงที่สนใจ หากเห็น Volume และ OI อยู่ในระดับสูง แสดงว่าสัญญานั้นมีสภาพคล่องดีและมีคนซื้อขายจริง เช่น Call NVDA Strike Price 175 Expiry 19-Sep-2025 ที่มี Volume 2,657 และ OI 68,083 ก็หมายความว่าทั้งวันนี้มีการซื้อขายที่สูง และยังมีสถานะค้างในตลาดจำนวนมาก
ตัวอย่าง Options NVDA
- สรุปสำหรับมือใหม่
Volume และ OI คือข้อมูลพื้นฐานที่ช่วยให้เข้าใจตลาด Options มากขึ้น โดย Volume สะท้อนการซื้อขายของวันนี้ ส่วน OI สะท้อนจำนวนสัญญาที่คงค้างในตลาด การเลือกสัญญาที่มีทั้ง Volume และ OI สูง จะช่วยให้เทรดง่ายขึ้น เข้า–ออกคล่อง และลดความเสี่ยงจากสภาพคล่องที่ต่ำ
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มได้ที่นี่
ค่า Delta ของ Options กุญแจสำคัญสู่การเทรดที่มีประสิทธิภาพ
US Options
🚀 ลงทุน US Options กับ InnovestX ได้แล้ว!
ครั้งแรกบน InnovestX ที่ให้คุณเทรด US Options ได้ทั้งบนแอปและ WebTrade สะดวกกว่าเดิม พร้อมเครื่องมือครบมือเหมือนเดิม
✅ เติมเงินเข้า wallet ได้ real-time
✅ ฝาก-ถอน ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
✅ เครื่องมือเทรดผ่านเว็บไซต์ สามารถใช้ผ่าน PC ให้สามารถเทรดได้แบบมืออาชีพ
✅ มีข้อมูล real-time market data ของ US Options ให้ subscribe ในราคาดีเข้าถึงง่าย เพียง 1.25 USD/Month
✅ ใช้บัญชีเดียวกับบัญชีหุ้นสหรัฐฯ ไม่ต้องเปิดบัญชีใหม่
📱 ดาวโหลดและเปิดบัญชีกับ InnovestX คลิก https://innovestx.onelink.me/23if/2jlpsi7b
📱 รายละเอียดและคู่มือการเปิดใช้บริการ US Options คลิก https://www.innovestx.co.th/us-options
⚠️ คำเตือน: ผู้ลงทุนควรศึกษา ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน ผลงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งที่รับประกันผลงานในอนาคต เงินลงทุนอาจสูญหาย และควรศึกษาความเสี่ยงก่อนลงทุน
