Keyword
Derivatives

จะมองลงแรงหรือซึมลง? วิธีเลือก Futures หรือ Option สำหรับเทรด SET50 Index

9 Jul 25 10:09 AM
รู้จักผลิตภัณฑ์ลงทุน1
สรุปสาระสำคัญ

สรุปภาพรวม
Long Option และ Futures SET50 Index เป็นเครื่องมือลงทุนที่จุดเด่นที่แตกต่างกัน โดย Long Option มีความเสี่ยงจำกัดเพียงค่าพรีเมียม แต่ต้องแลกกับการเสื่อมค่าตามเวลา ขณะที่ Futures ไม่มีการเสื่อมค่าตามเวลา แต่มีความเสี่ยงไม่จำกัด การเลือกใช้ขึ้นอยู่กับมุมมองตลาด ระยะเวลาการลงทุน และความสามารถในการรับความเสี่ยง

 ความแตกต่างหลักระหว่าง Long Option และ Futures SET50 Index
Futures SET50 Index
• สัญญาซื้อขายล่วงหน้า (เช่น S50U25) อ้างอิงดัชนี SET50
• ขนาด 1 สัญญา = มูลค่า 200 บาท × ดัชนี SET50
• มีมาร์จิ้น: ต้องวางเงินประกันความเสี่ยง (~10% ของมูลค่า)
• ผลกำไรขาดทุนไม่จำกัด


Options SET50 Index
• สัญญาออปชั่นอ้างอิง SET50 Index 
• ขนาด 1 สัญญา = 200 บาท × ดัชนี
• มีสิทธิ์ซื้อ (Call) หรือสิทธิ์ขาย (Put)
• Long Option: จ่ายค่าพรีเมี่ยมครั้งเดียว ความเสี่ยงจำกัด 
• หากไม่ใช้สิทธิ์(Out of the money) จะเสียเพียงค่าพรีเมียม

 

ตารางเปรียบเทียบ

vs.JPG

 

 

ข้อดี และข้อเสีย


 Long Option
ข้อดี
• ความเสี่ยงจำกัด (เสียเงินเพียงค่าพรีเมียม)
• มี Leverage ในตัว
• ใช้ Hedging Port Futures ได้
ข้อเสีย
• Time Decay ทำให้ค่าพรีเมียมเสื่อม
• หากไม่เคลื่อนไหวแรงพอ จะขาดทุนพรีเมียมทั้งหมด
• Liquidity (ปริมาณซื้อขาย) น้อยกว่า Futures


 Futures
ข้อดี
• ไม่มี Time Decay
• สภาพคล่องสูงกว่า
ข้อเสีย
• เสี่ยงไม่จำกัด ต้องมาร์จิ้น
• ถูกบังคับปิดสถานะหากมาร์จิ้นไม่พอ
________________________________________
 มุมมองนักลงทุนในการเลือกใช้
• นักลงทุนระยะสั้น (Day Trader): มักใช้ Futures เพราะ Bid-Offer แคบกว่า และมีสภาพคล่องสูงกว่า
• นักลงทุนสาย Hedge หรือต้องการกำหนดความเสี่ยงชัด: ชอบ Long Option
• นักลงทุนที่คาดทิศทางชัดและรุนแรง: ใช้ได้ทั้ง Long Option และ Futures เพราะผลตอบแทนสูงเมื่อเกิด Breakout 
• นักลงทุนที่เน้น Sideways หรือผันผวนต่ำ: ขาย Option (Short) อาจได้เปรียบกว่า



 ตัวอย่างกลยุทธ์ หากมอง SET50 Index ลง


ราคา
• SET50 Index Spot = 710
• Futures S50U25 = 712
• Put Option (Strike 700, เดือน ก.ย.) = 15 จุด Premium


 กรณี 1: คาดลงแรง (เช่น ดัชนีอาจหลุด 650)
กลยุทธ์: Long Put Option
• ซื้อ Put Strike 700
• Premium = 26 จุด × 200 = 5,200 บาท / สัญญา
• ถ้าดัชนีร่วงไป 650: Intrinsic = (700-650) = 50 จุด
• กำไรขั้นต้น = (50 – 26) × 200 = 4,800 บาท (ยังไม่รวมค่าเวลา)
ข้อดี: ขาดทุนสูงสุดเพียง 5,200 บาท ถ้าไม่ลง
ข้อเสีย: ถ้าลงไม่แรงหรือช้า อาจหมดค่าเวลา


 Futures 
• Short Futures ที่ 712
• ถ้าดัชนีไป 650 กำไร = (712–650) × 200 = +12,400 บาท
• แต่ถ้าเด้งขึ้น 740 จะขาดทุน = (740–712) × 200 = –5,600 บาท


สรุป:
• ถ้ามั่นใจลงแรง → Short Futures ผลตอบแทนสูงกว่า
• ถ้าไม่มั่นใจ → Long Put จำกัดความเสี่ยง


 กรณี 2: คาดลงช้า/ซึมลง (Time Decay มีผลมาก)
กลยุทธ์: Spread หรือ Short Call
Long Put Spread: ซื้อ Put Strike 700 ขาย Put Strike 650
• Premium Net = (26–10) = 16 จุด
• ต้นทุนลดลง (10 × 200 = 2,000 บาท)
• Max Profit = (700–650) = 50 จุด (กำไรก่อนหักต้นทุนค่าพรีเมี่ยม 16 จุด)เพราะฉะนั้น กำไรสุทธิ =  32 x 200= 6,400 บาท
• Max loss = 16 × 200 = 3,200 บาท

ข้อดี: ลดต้นทุนค่าพรีเมียม ขาดทุนจำกัด
ข้อเสีย: จำกัดกำไรสูงสุด


หรือ Short Call 720: รับ Premium ~32 จุด  (32 × 200) = 6,400 บาท
• ได้ประโยชน์จาก Sideways หรือค่อยๆลง
• เสี่ยงไม่จำกัดถ้าดัชนีพุ่งกลับ



คำเตือน: การคำนวณกำไร/ขาดทุนในตัวอย่าง ยังไม่ได้รวมค่าใช้จ่ายต่างๆในการทำรายการ 


5. สรุปแนะนำเชิงกลยุทธ์

 

vs2.JPG

________________________________________
คำแนะนำสำหรับนักลงทุน
การเลือกใช้ Long Option หรือ Futures ควรพิจารณาจากปัจจัยดังนี้:
1. ความสามารถในการรับความเสี่ยง - Long Option เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการจำกัดความเสี่ยง
2. มุมมองตลาด - Futures เหมาะสำหรับผู้ที่มั่นใจในทิศทาง
3. ระยะเวลาการลงทุน - Long Option เสียเปรียบเรื่อง Time Decay ในระยะยาว
4. ประสบการณ์การลงทุน - Futures ต้องการการจัดการความเสี่ยงที่ดีกว่า
สำหรับนักลงทุนมือใหม่ Long Option อาจเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าเพราะความเสี่ยงจำกัด แต่ต้องระวังเรื่อง Time Decay ที่จะลดทอนผลตอบแทนตามเวลา

 

อ่านบทความเกี่ยวกับ Options เพิ่มเติม

https://www.innovestx.co.th/cafeinvest/investsnack/product-basic-knowledge/tfex-derivatives/derivatives-20250617

 

🚀  ลงทุน TFEX เข้าถึงโอกาสทำกำไรในตลาดอนุพันธ์ได้อย่างง่ายดายแค่ปลายนิ้ว

เพียงแค่เปิดบัญชีกับ InnovestX และ Activate บัญชี TFEX

1. เปิดบัญชี InnovestX 👉 https://innovestx.onelink.me/23if/2jlpsi7b

2. Activate TFEX: อ่านขั้นตอนการเปิดใช้บริการ 👉 https://www.innovestx.co.th/products/derivatives/product-tfex

 

⚠️ คำเตือน: ผู้ลงทุนควรศึกษา ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน ผลงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งที่รับประกันผลงานในอนาคต เงินลงทุนอาจสูญหาย และควรศึกษาความเสี่ยงก่อนลงทุน

 

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5