สรุปภาพรวม
Long Option และ Futures SET50 Index เป็นเครื่องมือลงทุนที่จุดเด่นที่แตกต่างกัน โดย Long Option มีความเสี่ยงจำกัดเพียงค่าพรีเมียม แต่ต้องแลกกับการเสื่อมค่าตามเวลา ขณะที่ Futures ไม่มีการเสื่อมค่าตามเวลา แต่มีความเสี่ยงไม่จำกัด การเลือกใช้ขึ้นอยู่กับมุมมองตลาด ระยะเวลาการลงทุน และความสามารถในการรับความเสี่ยง
ความแตกต่างหลักระหว่าง Long Option และ Futures SET50 Index
Futures SET50 Index
• สัญญาซื้อขายล่วงหน้า (เช่น S50U25) อ้างอิงดัชนี SET50
• ขนาด 1 สัญญา = มูลค่า 200 บาท × ดัชนี SET50
• มีมาร์จิ้น: ต้องวางเงินประกันความเสี่ยง (~10% ของมูลค่า)
• ผลกำไรขาดทุนไม่จำกัด
Options SET50 Index
• สัญญาออปชั่นอ้างอิง SET50 Index
• ขนาด 1 สัญญา = 200 บาท × ดัชนี
• มีสิทธิ์ซื้อ (Call) หรือสิทธิ์ขาย (Put)
• Long Option: จ่ายค่าพรีเมี่ยมครั้งเดียว ความเสี่ยงจำกัด
• หากไม่ใช้สิทธิ์(Out of the money) จะเสียเพียงค่าพรีเมียม
ตารางเปรียบเทียบ
ข้อดี และข้อเสีย
Long Option
ข้อดี
• ความเสี่ยงจำกัด (เสียเงินเพียงค่าพรีเมียม)
• มี Leverage ในตัว
• ใช้ Hedging Port Futures ได้
ข้อเสีย
• Time Decay ทำให้ค่าพรีเมียมเสื่อม
• หากไม่เคลื่อนไหวแรงพอ จะขาดทุนพรีเมียมทั้งหมด
• Liquidity (ปริมาณซื้อขาย) น้อยกว่า Futures
Futures
ข้อดี
• ไม่มี Time Decay
• สภาพคล่องสูงกว่า
ข้อเสีย
• เสี่ยงไม่จำกัด ต้องมาร์จิ้น
• ถูกบังคับปิดสถานะหากมาร์จิ้นไม่พอ
________________________________________
มุมมองนักลงทุนในการเลือกใช้
• นักลงทุนระยะสั้น (Day Trader): มักใช้ Futures เพราะ Bid-Offer แคบกว่า และมีสภาพคล่องสูงกว่า
• นักลงทุนสาย Hedge หรือต้องการกำหนดความเสี่ยงชัด: ชอบ Long Option
• นักลงทุนที่คาดทิศทางชัดและรุนแรง: ใช้ได้ทั้ง Long Option และ Futures เพราะผลตอบแทนสูงเมื่อเกิด Breakout
• นักลงทุนที่เน้น Sideways หรือผันผวนต่ำ: ขาย Option (Short) อาจได้เปรียบกว่า
ตัวอย่างกลยุทธ์ หากมอง SET50 Index ลง
ราคา
• SET50 Index Spot = 710
• Futures S50U25 = 712
• Put Option (Strike 700, เดือน ก.ย.) = 15 จุด Premium
กรณี 1: คาดลงแรง (เช่น ดัชนีอาจหลุด 650)
กลยุทธ์: Long Put Option
• ซื้อ Put Strike 700
• Premium = 26 จุด × 200 = 5,200 บาท / สัญญา
• ถ้าดัชนีร่วงไป 650: Intrinsic = (700-650) = 50 จุด
• กำไรขั้นต้น = (50 – 26) × 200 = 4,800 บาท (ยังไม่รวมค่าเวลา)
ข้อดี: ขาดทุนสูงสุดเพียง 5,200 บาท ถ้าไม่ลง
ข้อเสีย: ถ้าลงไม่แรงหรือช้า อาจหมดค่าเวลา
Futures
• Short Futures ที่ 712
• ถ้าดัชนีไป 650 กำไร = (712–650) × 200 = +12,400 บาท
• แต่ถ้าเด้งขึ้น 740 จะขาดทุน = (740–712) × 200 = –5,600 บาท
สรุป:
• ถ้ามั่นใจลงแรง → Short Futures ผลตอบแทนสูงกว่า
• ถ้าไม่มั่นใจ → Long Put จำกัดความเสี่ยง
กรณี 2: คาดลงช้า/ซึมลง (Time Decay มีผลมาก)
กลยุทธ์: Spread หรือ Short Call
Long Put Spread: ซื้อ Put Strike 700 ขาย Put Strike 650
• Premium Net = (26–10) = 16 จุด
• ต้นทุนลดลง (10 × 200 = 2,000 บาท)
• Max Profit = (700–650) = 50 จุด (กำไรก่อนหักต้นทุนค่าพรีเมี่ยม 16 จุด)เพราะฉะนั้น กำไรสุทธิ = 32 x 200= 6,400 บาท
• Max loss = 16 × 200 = 3,200 บาท
ข้อดี: ลดต้นทุนค่าพรีเมียม ขาดทุนจำกัด
ข้อเสีย: จำกัดกำไรสูงสุด
หรือ Short Call 720: รับ Premium ~32 จุด (32 × 200) = 6,400 บาท
• ได้ประโยชน์จาก Sideways หรือค่อยๆลง
• เสี่ยงไม่จำกัดถ้าดัชนีพุ่งกลับ
คำเตือน: การคำนวณกำไร/ขาดทุนในตัวอย่าง ยังไม่ได้รวมค่าใช้จ่ายต่างๆในการทำรายการ
5. สรุปแนะนำเชิงกลยุทธ์
________________________________________
คำแนะนำสำหรับนักลงทุน
การเลือกใช้ Long Option หรือ Futures ควรพิจารณาจากปัจจัยดังนี้:
1. ความสามารถในการรับความเสี่ยง - Long Option เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการจำกัดความเสี่ยง
2. มุมมองตลาด - Futures เหมาะสำหรับผู้ที่มั่นใจในทิศทาง
3. ระยะเวลาการลงทุน - Long Option เสียเปรียบเรื่อง Time Decay ในระยะยาว
4. ประสบการณ์การลงทุน - Futures ต้องการการจัดการความเสี่ยงที่ดีกว่า
สำหรับนักลงทุนมือใหม่ Long Option อาจเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าเพราะความเสี่ยงจำกัด แต่ต้องระวังเรื่อง Time Decay ที่จะลดทอนผลตอบแทนตามเวลา
อ่านบทความเกี่ยวกับ Options เพิ่มเติม
🚀 ลงทุน TFEX เข้าถึงโอกาสทำกำไรในตลาดอนุพันธ์ได้อย่างง่ายดายแค่ปลายนิ้ว
เพียงแค่เปิดบัญชีกับ InnovestX และ Activate บัญชี TFEX
1. เปิดบัญชี InnovestX 👉 https://innovestx.onelink.me/23if/2jlpsi7b
2. Activate TFEX: อ่านขั้นตอนการเปิดใช้บริการ 👉 https://www.innovestx.co.th/products/derivatives/product-tfex
⚠️ คำเตือน: ผู้ลงทุนควรศึกษา ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน ผลงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งที่รับประกันผลงานในอนาคต เงินลงทุนอาจสูญหาย และควรศึกษาความเสี่ยงก่อนลงทุน