อยากลงทุนในหุ้นให้ได้กำไรและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ต้นทุนสำคัญคือราคาหุ้นที่ซื้อมา ยิ่งซื้อหุ้นมาราคาถูกเท่าไร โอกาสที่คุณจะได้กำไรจากการลงทุนในหุ้นตัวนั้น ๆ ก็มากขึ้นตามไปด้วย แต่นอกจากเทรนด์ เศรษฐกิจ และความเคลื่อนไหวในอุตสาหกรรมแล้ว ตัวชี้วัดอีกหนึ่งตัวที่จะบอกได้ว่าหุ้นตัวนั้นถูกหรือแพง คือค่า P/E หรือ Price to Earnings Ratio นั่นเอง
ค่า P/E ย่อมาจาก Price-to-Earnings Ratio คืออัตราส่วนที่ใช้เปรียบเทียบราคาหุ้นกับกำไรต่อหุ้นของบริษัท (Earnings per Share: EPS) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดสำคัญที่นักลงทุนใช้ในการประเมินมูลค่าของหุ้น สะท้อนให้เห็นว่าหุ้นตัวนั้นมีราคาถูกหรือแพงเมื่อเทียบกับกำไรที่บริษัทสร้างขึ้น แล้วนักลงทุนจะยอมจ่ายเงินกี่บาทต่อกำไร 1 บาทของบริษัท ช่วยให้นักลงทุนเข้าใจว่าหุ้นมีราคาสูงหรือต่ำเมื่อเทียบกับผลประกอบการของบริษัทเอง หรือเมื่อเทียบกับบริษัทอื่นในอุตสาหกรรมเดียวกัน
การหาค่า P/E คือวิธีคำนวณที่สามารถใช้ได้กับบริษัทที่มีกำไรเท่านั้น หากบริษัทไม่มีผลกำไร หรือมีกำไรติดลบ ค่า P/E จะไม่สามารถคำนวณได้ และแสดงค่าเป็น N/A หรือ Not Applicable
ทั้งนี้ ควรเปรียบเทียบ P/E กับหุ้นในอุตสาหกรรมเดียวกันเท่านั้น และพิจารณาปัจจัยอื่นร่วมด้วยเพื่อการวิเคราะห์ที่แม่นยำยิ่งขึ้น ซึ่งเราจะกล่าวถึงกันในลำดับถัดไป
ค่า P/E แบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ตามวิธีการคำนวณและการใช้ประโยชน์ในการวิเคราะห์ ซึ่งนักลงทุนควรเข้าใจทุกประเภท เพื่อเลือกใช้ให้เหมาะสมกับการวิเคราะห์หุ้นแต่ละตัว ดังนี้
Trailing P/E และ Forward P/E 12 Months ต่างกันที่วิธีคำนวณและการนำไปใช้ โดย Trailing P/E คำนวณจากกำไรต่อหุ้นย้อนหลัง 12 เดือน อ้างอิงจากผลประกอบการที่เกิดขึ้นจริง จึงมีความแม่นยำสูงและใช้เปรียบเทียบกับหุ้นในอุตสาหกรรมเดียวกันได้ดี ขณะที่ Forward P/E 12 Months ใช้ EPS ที่คาดการณ์ในอนาคต 12 เดือนข้างหน้า ซึ่งช่วยให้นักลงทุนประเมินศักยภาพการเติบโตของบริษัทได้ล่วงหน้า อย่างไรก็ตาม Forward P/E อาจมีความคลาดเคลื่อนหากกำไรจริงไม่เป็นไปตามคาด ดังนั้น นักลงทุนจึงควรใช้ทั้งสองตัวชี้วัดร่วมกันเพื่อให้เห็นแนวโน้มที่ชัดเจนขึ้นในการประเมินมูลค่าหุ้น
นอกจากความหมายของค่า P/E คืออะไรแล้ว อีกประเด็นสำคัญที่นักลงทุนต้องเข้าใจ คือความสำคัญของค่า P/E ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ข้อหลัก ได้แก่
สำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่ยังไม่รู้ว่าค่า P/E ดูอย่างไร และมีวิธีการคำนวณแบบไหนบ้าง เบื้องต้น คุณสามารถคำนวณด้วยตนเองง่าย ๆ โดยใช้สูตรนี้
ราคาหุ้นปัจจุบัน ÷ กำไรต่อหุ้น = ค่า P/E
เพื่อให้เห็นภาพมากยิ่งขึ้น เราจะคำนวณค่า Trailing P/E และค่า Forward P/E ให้ดูเป็นตัวอย่าง โดยอ้างอิงจากบริษัท A ที่มีราคาหุ้นปัจจุบันอยู่ที่ 100 บาทต่อหุ้น
บริษัท A มีกำไรต่อหุ้นย้อนหลัง 12 เดือนอยู่ที่หุ้นละ 5 บาท สามารถคำนวณได้ว่า
100 ÷ 5 = 20
หมายความว่าบริษัท A มีค่า Trailing P/E ที่ 20 เท่า ทำให้นักลงทุนต้องจ่าย 20 บาท เพื่อให้ได้กำไร 1 บาท ของบริษัท
หากนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าในปีหน้า กำไรต่อหุ้นของบริษัท A จะเพิ่มขึ้นเป็น 7 บาท สามารถคำนวณได้ว่า
100 ÷ 7 = 14.29
แสดงว่าค่า Forward P/E จะลดลงเป็น 14.29 เท่า จึงสามารถอนุมานได้ว่าบริษัทจะทำกำไรได้มากขึ้นในอนาคต ทำให้ราคาหุ้นดูมีความคุ้มค่ามากขึ้นเมื่อเทียบกับกำไร
รู้และเข้าใจแล้วว่าค่า P/E คืออะไร มีวิธีการคำนวณอย่างไร สุดท้าย ก็มาถึงการนำค่า P/E เพื่อใช้ในการลงทุนให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่ว่าจะเป็นการเทรดหุ้นออนไลน์หรือออฟไลน์ โดยมีแนวทางง่าย ๆ ดังนี้
นักลงทุนสามารถใช้ค่า P/E เปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมหรือค่า P/E ในอดีตของหุ้นตัวนั้น เพื่อประกอบการวิเคราะห์และประเมินว่าหุ้นมีราคาสูงหรือต่ำเกินไปก่อนตัดสินใจลงทุนได้
การใช้ค่า P/E คำนวณราคาเป้าหมายของหุ้นทำได้โดยนำกำไรต่อหุ้นที่คาดการณ์ (Forward EPS) มาคูณกับค่า P/E ที่เหมาะสม เพื่อคาดการณ์ราคาหุ้นที่ควรเป็นในอนาคต
หุ้นวัฏจักรมักมีค่า P/E ต่ำในช่วงขาขึ้นเพราะกำไรสูง และค่า P/E สูงในช่วงขาลงเนื่องจากกำไรลดลง นักลงทุนจึงต้องพิจารณาวัฏจักรเศรษฐกิจและแนวโน้มอุตสาหกรรมร่วมด้วย
ค่า P/E คือค่าที่ควรใช้ร่วมกับตัวชี้วัดอื่น เช่น P/B (Price-to-Book), ROE (Return on Equity), Growth Rate และ Dividend Yield เพื่อให้เห็นภาพรวมของมูลค่าหุ้นและแนวโน้มการเติบโตที่แท้จริง ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจเทรดหุ้น
วางแผนเทรดหุ้นออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากจะทำความเข้าใจกับค่า P/E เพื่อวิเคราะห์มูลค่าก่อนซื้อหุ้นแล้ว อย่าลืมเลือกลงทุนในแอปพลิเคชันที่ตอบโจทย์รอบด้านอย่าง InnovestX สามารถดาวน์โหลดแอป InnovestX และสมัครสมาชิกได้ฟรี ทั้ง App Store, Google Play Store และ Huawei Gallery เพื่อเริ่มลงทุนได้แล้ววันนี้
มีให้ลงทุนครบทุกสินทรัพย์ ทั้งหุ้นไทยและหุ้นต่างประเทศจากทั่วโลกถึง 23 ประเทศ 31 ตลาด และกองทุนรวมกว่า 2,000 กองทุน จาก 21 บลจ. กำเนิดจักรวาลใหม่แห่งการลงทุน กับ InnovestX บริษัทหลักทรัพย์ในกลุ่ม SCBX ที่มีครบทุกเรื่อง ทั้งเครื่องมือและข้อมูลเพื่อคว้าทุกโอกาสการลงทุนทั่วโลก
คำเตือน
*การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศโดยตรงมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
ข้อมูลอ้างอิง: