สรุปสาระสำคัญ
ช่วงสั้นมอง SET แกว่งตัวไซด์เวย์ รอดูมาตรการกระตุ้น ศก. เพิ่ม
- ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา SET ปรับลงต่อเนื่องอีก 1.47% เนื่องจากถูกกดดันจากปัจจัยภายนอก หลังทรัมป์ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐทำให้นักลงทุนกังวลสงครามการค้า ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งเกิดกระแสเงินทุนต่างชาติไหลออกจากตลาดหุ้น EMรวมทั้งตลาดหุ้นไทย นอกจากนี้ปัจจัยในประเทศยังพบว่าภาพรวมกำไรของ SET 3Q67 อ่อนตัวลงทั้ง YoY และ QoQ ถูกกดดันจากกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีเป็นหลัก อีกทั้งราคาน้ำมันยังปรับลงแรง หลังถูกกดดันจากเงินดอลลาร์แข็งค่าและอุปสงค์ที่อาจถูกกระทบจากสงครามการค้า โดยสองสัปดาห์ที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยต่อเนื่องอีก 7.7 พันลบ. ทั้งนี้หุ้นที่มีแรงซื้อ นำโดย DELTA ADVANC CCET BBL SCB KBANK ส่วนหุ้นที่มีแรงขาย นำโดย BH GULF BDMS PTTEP INTUCH HANA KCE
- แม้ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัว Sideway โดยปัจจัยต่างประเทศค่อนข้างจำกัดหลังตลาดรับรู้ปัจจัยบวกจากนาย โดนัล ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ไปแล้ว สะท้อนได้จากผลตอบแทนและกระแสเงินที่ไหลเข้าไปยังหุ้นกลุ่มการเงินและหุ้นขนาดเล็กของสหรัฐ รวมถึงกระแสเงินที่ไหลออกกจากตลาดหุ้น EM และตลาดหุ้นจีนจากความกังวลเรื่องนโยบายปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของสหรัฐ ส่วนปัจจัยในประเทศมองอาจอยู่ในช่วงปรับประมาณการของ บจ. และกำไรตลาด หลังภาพรวมกำไรของ SET 3Q67 อ่อนตัวลงทั้ง YoY และ QoQ อีกทั้งยังมีประเด็นต้องติดตามจากบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจเตรียมหารือออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในวันที่ 19 พ.ย. และลุ้นศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณารับหรือไม่รับคำร้องคดียุบพรรคเพื่อไทยในวันที่ 22 พ.ย.นี้ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 4 ธีมหลักที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1.หุ้น Event Play ที่คาดได้อานิสงส์บวกจากรัฐเตรียมพิจารณาออกมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม อาทิ แจกเงินหมื่นบาทเฟส 2, ช้อปดีมีคืน (Easy E-Receipt) แนะนำกลุ่มค้าปลีก (CPALL CPAXT CRC HMPRO TNP)
2.หุ้นที่ได้อานิสงส์บวกจากดอลลาร์แข็งค่า/บาทอ่อนค่า แนะนำกลุ่มที่มีรายได้จากการส่งออก (CPF DELTA) และกลุ่มท่องเที่ยว (AWC AOT MINT)
3.หุ้น Earning Play ซึ่งมองมีโมเมนตัมกำไร 4Q67 จะเติบโตดี YoY และ QoQ อีกทั้งเราแนะนำ Outperform เลือก GULF OSP CBG AMATA AU TIDLOR
หุ้นที่จ่ายปันผลสูงและคาดได้อานิสงส์จากการเป็นเป้าหมายสะสมของกองทุนวายุภักษ์และกองทุนที่ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีช่วงปลายปี อาทิ SSF RMF และ THAIESG แนะนำหุ้น SET100 ที่คาดให้ Dividend Yield ขั้นต่ำปีละ 3.5% และมี ESG Rating สูงตั้งแต่ระดับ AA-AAA และ CG ระดับ 5 ดาว อีกทั้งมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง และผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตได้ในปี 2025 เลือก BBL ADVANC HMPRO
5 หุ้น Top Pick Bi-weekly Portfolio
ผลการดำเนินงานย้อนหลัง bi-weekly portfolio Biweekly Portfolio Strategy