สรุปภาพรวมการลงทุนสัปดาห์นี้
สัปดาห์นี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องโดยดัชนี S&P500 ปิดทำจุดสูงสุดใหม่ แรงหนุนมาจากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและเวียดนามที่สามารถบรรลุข้อตกลงได้เป็นประเทศที่ 3 ต่อจาก สหราชอาณาจักรและจีน โดยเวียดนามตกลงที่จะจ่าย ภาษี 20% สำหรับสินค้าทั้งหมดที่ส่งเข้ามายังสหรัฐฯจ่าย ภาษี 40% สำหรับสินค้าสวมสิทธิ์ และให้สหรัฐฯ สามารถส่งออกสินค้าทุกชนิดไปเวียดนามโดยไม่เสียภาษี (Zero Tariff) นอกจากนั้นยังได้ปัจจัยบวกจากการผ่อนคลายการกีดกันด้านเทคโนโลยีกับจีน หนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.2% ด้านกลุ่มธนาคารเป็นอีกกลุ่มที่ปรับขึ้นได้ดี 2% จากความคาดหวังต่อผลประกอบการโอกาสการซื้อหุ้นคืน หลังธนาคารสหรัฐผ่านการทำ Stress Test นอกจากนั้นตัวเลขการจ้างงานและการผลิตของสหรัฐ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐผสมผสานภาคการผลิตยังคงออกมาดี แต่การใช้จ่ายผู้บริโภคหดตัวลง การจ้างงาน ADP ลดลงครั้งแรกตั้งแต่ปี 2022 แต่หักล้างจากการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ออกมาสูงกว่าคาด ทำให้ตลาดยังคงมองการลดดอกเบี้ยของ Fed 2 ครั้งในปีนี้ ตลาด EM ปรับตัวขึ้นได้เช่นกัน หนุนโดยประเด็นการเจรจาการค้าของเวียดนาม และตัวเลข PMI การผลิตของทางการจีน เดือน มิ.ย. ปรับเพิ่มขึ้นและสูงกว่าตลาดคาด แม้จะยังอยู่ในโซนหดตัว ด้าน PMI นอกภาคการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 50.5 จุด เท่ากับที่ตลาดคาด ตลาดหุ้นไทย ปรับขึ้นในสัปดาห์นี้ แม้ศาลฯ จะรับคำร้องและให้นายกฯ หยุดการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ตลาดอยู่ระหว่างจับตาการเจรจาการค้าของไทยกับสหรัฐที่เริ่มแล้วในสัปดาห์นี้ ราคาน้ำมันฟื้นตัวหลังปรับลดลงแรงสัปดาห์ก่อน โดยมีข่าวอิหร่านระงับการให้ความร่วมมือด้านนิวเคลียร์กับ IAEA
ตลาดหุ้นโลก
ตลาดหุ้นโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นในสัปดาห์นี้ จาก (1) สถานการณ์การเจรจาการค้าที่มีความคืบหน้ามากขึ้นโดยเฉพาะการบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับเวียดนาม ซึ่งถือเป็นข้อตกลงลำดับที่ 3 ต่อจากอังกฤษและจีน (2) การจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯ เดือน มิ.ย. จาก ADP ลดลง -33,000 ตำแหน่ง แย่ความคาด แต่การจ้างงานนอกภาคเกษตรออกมาดีกว่าคลาดคาด
ตลาดหุ้นไทย
ตลาดหุ้นไทยเพิ่มขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาตามตลาดโลกและปัจจัยในประเทศ (1) ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวระหว่างรอการวินิจฉัยข้อกล่าวหา (2) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พิชัย ชุณหวชิร เดินทางไปเจรจากับสหรัฐฯ หลังจากคณะทำงานเชิงเทคนิคของทั้งสองประเทศหารือผ่านช่องทางออนไลน์อย่างต่อเนื่อง (3) การตั้งครม. ชุดใหม่
ตลาดพันธบัตร
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับลดลงที่ 4.35% ขณะที่ ระยะสั้น 2 ปีทรงตัวที่ 3.88% ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ย 2-10 ปี อยู่ที่ 47bps
ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี ลดลงมาอยู่ที่ 1.60% ขณะที่ระยะสั้น อายุ 2 ปี ลดลงที่ 1.41% ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิที่ 6,705 ล้านบาท
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
ราคาน้ำมัน Brent ปรับขึ้น 1.58%WoW สู่ 68.80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลจากอุปสงค์ที่มีมุมมองเชิงบวกมากขึ้น จีนเผย PMI ภาคการผลิตขยายตัวต่อและสหรัฐฯ อยู่ในฤดูขับขี่ ด้านราคาทองคำ (Spot) ปรับลง 0.05%WoW สู่ 3,326.09 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์
ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ลดลงเป็น 97.02 จุด ขณะที่ค่าเงินเยนทรงตัวที่ 144.68 เยน ด้านค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเป็น 1.17 ดอลลาร์ต่อยูโร ด้านค่าเงินเอเชีย ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นที่ 32.44 บาท ขณะที่เงินหยวนแข็งค่าที่ระดับ 7.17 หยวน