Keyword
PDF Available  
Macro Making Sense

Macro Making Sense – ความเสี่ยงวิกฤตหนี้สาธารณะโลก ความเป็นไปได้ของโครงการลงทุนรัฐบาลอนุทิน เศรษฐกิจยุโรปกำลังฟื้นตัว

By ดร.ปิยศักดิ์ มานะสันต์|15 Sep 25 7:50 AM
สรุปสาระสำคัญ

สรุปความเสี่ยงวิกฤตหนี้สาธารณะโลก  ความเป็นไปได้ของโครงการลงทุนรัฐบาลอนุทิน เศรษฐกิจยุโรปกำลังฟื้นตัว

  • ความเสี่ยงวิกฤตหนี้สาธารณะโลก ในปัจจุบัน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 30 ปีที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2025 โดยประเทศพัฒนาแล้วอย่างสหรัฐ อังกฤษ เยอรมนี และญี่ปุ่นมีผลตอบแทนปรับสูงขึ้น 300-500 bps นับจากช่วงก่อน Covid เนื่องจากหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นที่หลังCovid-19 ขณะที่ไทยกลับลดลงจาก 4.5% เป็น 2.0% จากปัจจัยเฉพาะตัว ซึ่งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรประเทศพัฒนาแล้วที่เพิ่มขึ้นนั้น สาเหตุหลักมาจากธนาคารกลางลดการถือครองพันธบัตร (quantitative tightening) ความไม่มั่นคงทางภูมิรัฐศาสตร์ ความเสี่ยงการเมืองภายในประเทศจากนโยบายประชานิยม การลดลงของโลกาภิวัตน์ และการเปลี่ยนแปลงทางประชากรศาสตร์ โดยเฉพาะสหรัฐที่เผชิญขาดดุลงบประมาณ 2 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปีและจ่ายดอกเบี้ย 1 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี ทำให้ขาดดุลอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การที่รัฐบาลเริ่มเข้าแทรกแซง Fed นั้น อาจนำไปสู่ปรากฏการณ์ "fiscal dominance" เมื่อรัฐบาลบังคับให้ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ทำนโยบายการเงินผ่อนคลายท่ามกลางเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ เราวิเคราะห์ว่า ช่วงไตรมาส 2 ปี 2026 จะเป็นช่วงที่ต้องจับตาใกล้ชิด เนื่องจากหากรัฐบาลยังคงแทรกแซง Fed ต่อเนื่อง จนทำให้ Fed ต้องทำนโยบายการเงินผ่อนคลาย ท่ามกลางเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น อาจเกิดวิกฤตความเชื่อมั่นในเงินดอลลาร์และ Fed ได้
  • วิเคราะห์ความเป็นไปได้ของโครงการลงทุนขนาดใหญ่ภายใต้รัฐบาลอนุทิน รัฐบาลอนุทิน ชาญวีรกูล ในช่วง 4-6 เดือน มีข้อจำกัดด้านเวลาที่ทำให้โครงการลงทุนขนาดใหญ่ส่วนใหญ่อยู่ในขั้นเตรียมการเพื่อส่งต่อรัฐบาลถัดไป โดยมีเพียงโครงการ "คนละครึ่ง 2568" เท่านั้นที่มีความเป็นไปได้สูง 90-95% ในการดำเนินการจริง เนื่องจากมีความพร้อมด้านระบบเทคโนโลยี งบประมาณ 25,000 ล้านบาท และแพลตฟอร์ม "เป๋าตัง" ที่สามารถเริ่มได้ทันทีตั้งแต่เดือนตุลาคม 2568
  • ขณะที่โครงการที่มีความเป็นไปได้ปานกลางในการเตรียมความพร้อม (60-70%) ได้แก่โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบิน เนื่องจากบริษัทผู้รับสัมปทานได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้ว และโครงการรถไฟความเร็วสูง 3 สนามบิน ที่ได้รับการตรวจสอบสัญญาจากอัยการสูงสุดแล้ว ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญให้รัฐบาลถัดไปดำเนินการก่อสร้างต่อ
  • ขณะที่โครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่อย่างแลนด์บริดจ์ รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ระยะ 2 และรถไฟทางคู่ระยะ 2 มีความเป็นไปได้เพียง 40-60% เนื่องจากอยู่ในการเตรียมเอกสาร TOR และประกวดราคา ด้านผลกระทบเศรษฐกิจในระยะสั้นจะมาจากโครงการคนละครึ่งที่คาดว่าจะกระตุ้น GDP เพิ่ม 0.1% ขณะที่โครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ หากมีพัฒนาการที่ดี จะสามารถสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนจากการยืนยันทิศทางนโยบายโครงสร้างพื้นฐานเพื่อความต่อเนื่องของรัฐบาลใหม่
  • เศรษฐกิจยุโรปกำลังฟื้นตัว ตัวชี้วัดเศรษฐกิจยุโรปหลายประการบ่งชี้ถึงแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตยุโรปพุ่งสู่จุดสูงสุดในรอบหลายปี ขณะที่ดัชนี Ifo ของเยอรมนีแสดงความคาดหวังทางธุรกิจสูงสุดนับตั้งแต่สงครามยูเครนเริ่มต้น ปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนการฟื้นตัวได้แก่ อัตราเงินเฟ้อที่ลดลงเหลือ 2.1% การผ่อนคลายนโยบายการเงินและการคลัง การลงทุนของ European Investment Bank 70,000 ล้านยูโรในบริษัทเทคโนโลยี และการขยายตลาดใหม่ในกลุ่มลาตินอเมริกาและตะวันออกกลางที่เพิ่มขึ้น 10% อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความเสี่ยงจากนโยบายภาษีของทรัมป์ วิกฤตการเมืองฝรั่งเศส และแรงกดดันจากกลุ่มขวาจัด โดย INVX คาดการณ์เศรษฐกิจยุโรปจะขยายตัว 0.8% ในปี 2025 และ 0.9% ในปี 2026
Author
Slide3
ดร.ปิยศักดิ์ มานะสันต์

หัวหน้านักวิจัยเศรษฐกิจ

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5