สรุปสาระสำคัญ
SET ยังไม่มีสัญญาณกลับตัว อย่างไรก็ตามล่าสุดลงมาใกล้แนวรับ 1360 และ 1350 จุด ตามลำดับ เป็นจุดลุ้นฟื้นตัว ขณะที่ตัวเลข PCE สหรัฐฯ ในวันศุกร์ที่ผ่านมา ออกมาต่ำกว่าคาดเป็นปัจจัยสร้าง Sentiment บวก หลัง Bond Yield สหรัฐฯ และเงินดอลลาร์เริ่มชะลอตัว ด้านดัชนีมีแนวต้านอยู่ที่ 1373 และ 1380 จุด ตามลำดับ
ลุ้นฟื้นตัวตามแนวรับที่กำหนด
ประเด็นสำคัญ
- วันที่ 24 ธ.ค. นี้จับตาคลังเสนอ ครม.พิจารณา 2 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต้นปีหน้า ได้แก่ แจกเงินหมื่นเฟส 2 และ Easy E-receipt หวังผลักดันเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจแตะ 1.4 แสนลบ. พร้อมช่วยกระตุ้นกำลังซื้อในช่วงต้นปี คาด GDP 2568 ขยายตัวเกิน 3%
- FETCO, Thai IOD และตลท. ออกแถลงการณ์ร่วมแสดงเจตนารมณ์มุ่งยกระดับธรรมาภิบาลของ บจ. ไทย หลังเกิดปัญหาหลายระลอก กระทบความเชื่อมั่น หุ้นไทยร่วง
- EIC เผยเศรษฐกิจไทย 4Q67 มีแนวโน้มขยายตัวได้ถึง 4% ตามแรงส่งการส่งออกและการใช้จ่ายภาครัฐที่โตต่อเนื่อง รวมถึงการท่องเที่ยวจะช่วยหนุนให้ GDP ไทยปี 2567 ขยายตัวได้ 2.7% แต่ปี 2568 ลด GDP ไทยเหลือโต 2.4% จากเดิม 2.8% ผลกระทบนโยบายทรัมป์ 2.0
- ประธานเฟดสาขาชิคาโกมองดัชนี PCE พ.ย. ขยายตัว 2.4%YoY ต่ำกว่าตลาดคาด บ่งชี้แรงกดดันด้านราคากำลังอ่อนตัวสู่กรอบเป้าหมายที่ 2% ส่วนดัชนี Core PCE พ.ย. ขยายตัว 2.8%YoY
- ปธน. สหรัฐฯ ไบเดนเห็นชอบผ่านร่างกฎหมายงบฯ ชั่วคราวเพื่อให้รัฐบาลสามารถปฏิบัติงานได้ถึงเดือนมี.ค. 2568 และเลี่ยงการชัตดาวน์ได้ แต่ร่างข้างต้นไม่รวมการเพิ่มเพดานหนี้ที่ว่าที่ ปธน. ทรัมป์เรียกร้อง
- ว่าที่ ปธน. ทรัมป์ส่งสัญญาณจะขึ้นภาษีนำเข้าต่อ EU หากไม่นำเข้าน้ำมันและก๊าซฯ จากสหรัฐฯ เพื่อชดเชยการขาดดุลการค้าในปริมาณมหาศาล
- นายกสมาคมประกันวินาศภัยคาดว่าเบี้ยประกันภัยรับรวมในปี 2568 จะเติบโตราว 1.5-2.5% ซึ่งเป็นอัตราที่ดีกว่าในปีนี้ หนุนจาก จำนวนรถยนต์จดทะเบียนที่เพิ่มขึ้น, การขนส่ง e-Commerce ที่เติบโต, การเข้าสู่สังคมสูงวัย และการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว
กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวผันผวน โดยมีแนวรับที่บริเวณ 1360 จุด ทั้งนี้มอง SET หลุด 1400 จุดแย่กว่าตลาดหุ้นภูมิภาค เนื่องจากความกังวลเรื่อง ESG ของหุ้นขนาดใหญ่ และ Fund Flow ยังมีทิศทางไหลออกหลังเฟดส่งสัญญาณปรับลดดอกเบี้ยช้าลง ทำให้ช่วงสั้นSET ลุ้นปรับขึ้นได้เพียงแค่ปัจจัยกระตุ้นจากความคาดหวังเม็ดเงินลงทุนจะไหลเข้าจากการเข้าสู่โค้งสุดท้ายของการซื้อกองทุนประหยัดภาษีที่มักจะเร่งตัวขึ้นในช่วงปลายปีและการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐเพิ่มเติม อาทิ แจกเงินหมื่นเฟส 2, การนำค่าซื้อสินค้ามาลดหย่อนภาษี (Easy E-Receipt) ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศยังคงต้องติดตามนโยบายการค้าของสหรัฐฯ รวมทั้งดัชนี PMI ภาคการผลิต ธ.ค. จีนและสหรัฐฯ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”
ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์
ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวผันผวน โดย Upside ขึ้นกับปัจจัยกระตุ้นจากความคาดหวังเม็ดเงินลงทุนจะไหลเข้าจากการเข้าสู่โค้งสุดท้ายของการซื้อกองทุนประหยัดภาษี และการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐเพิ่มเติม กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 2 ธีมหลักที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และ 3 ธีมเทรดดิ้งระยะสั้น ดังนี้
- หุ้นที่คาดได้อานิสงส์บวกจากรัฐเตรียมออกมาตรการกระตุ้นการบริโภคและท่องเที่ยวเพิ่มในช่วงส่งท้ายปี ซึ่งในอดีตราคาหุ้นมักปรับตัวได้ดีอย่างน้อย 3 ใน 5 ปี แนะนำ กลุ่มพาณิชย์ (CRC) และกลุ่มท่องเที่ยว (AWC MINT)
- หุ้น Earning Play ซึ่งมองราคาหุ้นยังไม่ได้ปรับขึ้นสะท้อนโมเมนตัมกำไร 4Q67 ที่คาดจะเติบโตดี YoY และ QoQ อีกทั้งยังมีศักยภาพการจ่ายปันผลได้สม่ำเสมอ เลือก GULF OSP AMATA AU TIDLOR BCP
- Trading Idea : 1) นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงอาจเก็งกำไรหุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากการเป็นเป้าหมายสะสมของกองทุนวายุภักษ์และกองทุนที่ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีช่วงปลายปี ได้แก่ BBL GPSC AWC BEM CBG 2) นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงอาจเก็งกำไรหุ้นที่คาดจะเป็นเป้าหมายของการทำ Window Dressing ในช่วงสิ้นปีนี้ โดยมีสถิติในอดีตมักมีการปรับตัวขึ้นได้ดีในช่วงปลายปีอย่างน้อย 3 ใน 5 ปี แนะนำ BCP GPSC BDMS OSP และ 3) นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงอาจเก็งกำไรหุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน แนะนำ IVL PTTGC
Daily top picks
CRC: คาดได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่อยู่ระหว่างการพิจารณาเกี่ยวกับการจับจ่ายเพื่อลดหย่อนภาษี ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดแล้วใน 3Q67 และ 4Q67 คาดจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปีนี้ โดยจะเพิ่มขึ้น QoQ ตามฤดูกาล และ YoY จากการขยายสาขาและการคุมค่าใช้จ่ายที่ดีขึ้น หนุนให้ปี 2567 คาดกําไรจะยังเติบโต 7.8%YoY
BCP: มองมีโอกาสเป็นเป้าหมายของการทำ Window Dressing หลังราคาปรับตัวลงแรง ขณะที่ 4Q67 คาดผลประกอบการจะฟื้นตัวเด่นทั้ง YoY และ QoQ จากค่าการกลั่นและราคาก๊าซในยุโรปที่เริ่มฟื้นตัว อีกทั้ง BCP ยังเป็นหุ้นปันผลสูงซึ่งสามารถสร้างกระแสเงินสดให้พอร์ตลงทุนได้ โดยคาดให้ Div. Yield ปี 67 และปี 68 ราว 4.2% และ 7.6%
Expected to recover
The SET still has no signs of turning. However, it has fallen close to supports of 1360 and 1350, which are seen as turning points. US PCE last Friday was lower than expected and this is sentimentally positive, while US bond yield and dollar weakened. Resistances are at 1373 and 1380.
Today’s highlights
- On Dec 24, the Treasury will send two stimulus measures for early next year to the Cabinet, Phase 2 of the Bt10,000 handout and an Easy E-receipt program, aiming to drive cash circulation to Bt140bn and boost purchasing power in early 2025. GDP growth in 2025 is expected to exceed 3%.
- FETCO, Thai IOD, and the SET issued a joint statement expressing intent to enhance corporate governance of Thai listed companies after several issues affected confidence and led to a fall in the Thai stock market.
- The EIC expects the Thai economy in 4Q24 to expand 4%, driven by continued export growth, government spending and tourism, helping 2024 GDP growth reach 2.7%. However, 2025 GDP forecast was reduced to 2.4% from 2.8% due to expected Trump policies.
- The Chicago Fed President expects November PCE index expansion at 2.4% YoY, lower than market expectations, indicating price pressures are easing toward the 2% target, while November Core PCE expanded 2.8% YoY.
- President Biden approved a temporary budget bill allowing government operations through March 2025, avoiding a shutdown. However, the bill excludes the debt ceiling increase demanded by Trump.
- Trump signaled his intention to raise tariffs on the EU if they don't import US oil and gas to offset the massive trade deficit.
- The Thai General Insurance Association President expects total insurance premiums in 2025 to grow 1.5-2.5%, better than this year, supported by increased vehicle registrations, e-Commerce logistics growth, the aging society and tourism recovery.
Strategy today
The short-term SET outlook is volatile with support a 1360. The fall of the SET below 1400 and underperformance to the region is due to concerns on big cap ESGs and fund outflows as the Fed signalled a slowing in its rate cut. Therefore, the SET is expected to recover only on expectation of fund inflow from tax-deductible funds, which generally accelerates towards the end of the year, and economic stimulus from the government, such as phase 2 of the Bt10,000 handout and a tax deduction for spending (Easy e-Receipt); external factors to follow are the US trade policy and US and China manufacturing PMIs in Dec. Investment strategy is "Selective Buy".
Trading today
In the short term, the SET is expected to be volatile with upside from expectations of inflows from tax-deductible funds and additional stimuli. Investment strategy is "Selective Buy" across two themes with positive individual factors and three short-term trading ideas:
- Stocks benefiting from government consumption and tourism stimulus, where performance has been good for at least three out of the past five years: Commerce (CRC) and Tourism (AWC and MINT).
- Earnings plays: Stocks where 4Q24 profit is expected to grow YoY and QoQ and regularly pay dividends – GULF, OSP, AMATA, AU, TIDLOR and BCP.
- Trading Idea for high-risk investors: 1) Stocks expected to be targets for Vayupak and tax-deductible funds – BBL, GPSC, AWC, BEM and CBG; 2) stocks that are window-dressing targets, whose performance has been good for at least three of the past five years – BCP, GPSC, BDMS and OSP; and 3) stocks expected to benefit from China’s government stimulus – IVL and PTTGC.
Daily Top picks
CRC: Positioned to benefit from stimulus that involves income tax deductions, now under consideration. Profit passed bottom in 3Q24, with 4Q24 expected to be the year’s best quarter, growing QoQ on seasonality and YoY from branch expansion and cost control. 2024 profit is expected to grow 7.8%.
BCP: The stock is seen to be a target for window dressing after the price has fallen. 4Q24 operating result is expected to recovery YoY and QoQ due to recovering GRM and European natural gas price. The stock pays high dividend which can generate cash flow for a portfolio, expecting div. yield in 2024 and 2025 of 4.2% and 7.6%, respectively.
Download EN version click >> Daily241223_E.pdf