1. ตลาดหุ้นโลกอ่อนตัวลง ขณะที่บอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ปรับขึ้น หลังเผยข้อมูลเงินเฟ้อ
2. เงินเฟ้อสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นในเดือนมิถุนายน สะท้อนผลกระทบจากภาษีนำเข้า
3. ธนาคารยักษ์ใหญ่สหรัฐฯ เผยรายได้ Investment Banking ฟื้นตัว แม้ยังระวังผลกระทบจากนโยบายภาษี
4. Nvidia เตรียมกลับมาขาย AI Chips ให้จีน ในฐานะส่วนหนึ่งของการเจรจาเรื่อง Rare Earths
5. ทรัมป์ประกาศลดภาษีนำเข้าอินโดนีเซียเหลือ 19% แลกกับข้อตกลงซื้อสินค้าสหรัฐฯ
6. เบสเซนต์ย้ำไม่ต้องกังวลเส้นตายเจรจาการค้าจีน-สหรัฐฯ
7. ผู้นำจีนเร่งปรับรูปแบบใหม่การพัฒนาเมืองแทนการขยายขนาดใหญ่
8. เลื่อนเคาะชื่อผู้ว่า ธปท. คนใหม่ออกไปเป็นสัปดาห์หน้า
Bites for Breakfast
By INVX Investment Strategy
16 July 2025
1. ดัชนี MSCI global equities ปรับตัวลงหลังจากแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ bond yield สหรัฐฯ พุ่งสู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 เดือน หลังเผยข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้น 0.3% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดตั้งแต่เดือนมกราคม นักเศรษฐศาสตร์มองว่าเป็นผลจากภาษีนำเข้าของรัฐบาลทรัมป์ที่ส่งผ่านมายังผู้บริโภค ทั้งนี้ นักลงทุนยังคงให้น้ำหนัก 60% ที่ Fed จะลดดอกเบี้ยในเดือนกันยายน ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดผสม โดย Dow Jones ลดลง 0.98% และ S&P 500 ลดลง 0.40% ขณะที่ Nasdaq เพิ่มขึ้น 0.18% จากแรงหนุนของหุ้นกลุ่มชิป โดยเฉพาะ Nvidia ที่พุ่ง 4%
2. ราคาสินค้าหลายประเภทในสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นในเดือนมิถุนายน ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อโดยรวมเพิ่มขึ้น 0.3% หรือคิดเป็นอัตรารายปีที่ 3.5% หลังจากเพิ่มขึ้นเพียง 0.1% ในเดือนพฤษภาคม นักเศรษฐศาสตร์มองว่านี่เป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าภาษีนำเข้าของรัฐบาลทรัมป์เริ่มส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค โดยเฉพาะในหมวดสินค้านำเข้า เช่น อุปกรณ์เครื่องเสียง-วิดีโอที่ราคาเพิ่มขึ้น 1.1% ในรอบเดือน และ 11.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน ข้อมูลนี้อาจทำให้ Fed ยังคงลังเลที่จะลดอัตราดอกเบี้ย แม้ว่าประธานาธิบดีทรัมป์จะกดดันให้ลดอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องก็ตาม
3. ธนาคารใหญ่ของสหรัฐฯ อย่าง JPMorgan, Citigroup และ Wells Fargo รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ที่ดีกว่าคาด โดยมีรายได้จาก Investment Banking เพิ่มขึ้น แม้จะเผชิญความผันผวนจากนโยบายภาษีของทรัมป์ JPMorgan มีรายได้ Investment Banking เพิ่มขึ้น 7% เป็น 2.5 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ Citigroup เพิ่มขึ้น 15% และ Wells Fargo เพิ่มขึ้น 8% ผู้บริหารแสดงความเชื่อมั่นว่าดีลที่ชะลอไว้จะกลับมาในครึ่งปีหลัง แต่ยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนและนโยบายภาษีของสหรัฐฯ
4. Nvidia วางแผนกลับมาขายชิป H20 AI ให้จีน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเจรจาเรื่อง rare earths ระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ตามที่ Howard Lutnick รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผย หลังจาก Jensen Huang CEO ของ Nvidia พบกับประธานาธิบดีทรัมป์ การตัดสินใจนี้เป็นการกลับลำจากมาตรการจำกัดการส่งออกที่ออกเมื่อเดือนเมษายน ขณะที่ AMD ก็เตรียมกลับมาส่งออกชิป MI308 ให้จีนเช่นกัน โดยบริษัทจีนเร่งสั่งซื้อชิป H20 แม้จะมีประสิทธิภาพต่ำกว่ารุ่นที่ขายนอกจีน
5. ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศข้อตกลงการค้าใหม่กับอินโดนีเซีย โดยจะเก็บภาษีนำเข้าที่อัตรา 19% ลดลงจากที่ขู่ไว้ก่อนหน้าที่ 32% แลกกับการที่อินโดนีเซียยินดีเปิดตลาดนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ โดยไม่มีภาษี พร้อมการันตีการซื้อสินค้าอเมริกัน ได้แก่ พลังงานมูลค่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ สินค้าเกษตร 4.5 พันล้านดอลลาร์ และเครื่องบิน Boeing 50 ลำ ข้อตกลงนี้เกิดขึ้นหลังจากสหรัฐฯ ส่งจดหมายขู่ขึ้นภาษีต่อประเทศคู่ค้าหลายแห่งในต้นเดือนสิงหาคม อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการยืนยันรายละเอียดจากฝั่งอินโดนีเซีย
6. รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ สกอตต์ เบสเซนต์ ให้ความมั่นใจว่าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนยังอยู่ในทิศทางที่ดี โดยเฉพาะประเด็นเส้นตาย 12 สิงหาคมที่ภาษีจะกลับมาบังคับใช้หลังพักรบ 90 วัน เบสเซนต์ระบุว่านี่ไม่ใช่ "กำแพงหิน" และสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความคืบหน้าการเจรจา นักลงทุนกังวลว่าหากภาษีกลับมาจะกระทบสินค้าส่งออกสำคัญ เช่น เซมิคอนดักเตอร์และแร่หายาก อย่างไรก็ตาม เบสเซนต์มองว่าการประกาศลดภาษีของทั้งสองฝ่ายเมื่อพฤษภาคมเป็นสัญญาณบวก และเตรียมหารือกับจีนเร็วๆ นี้
7. ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เรียกร้องให้จีนปรับเปลี่ยนสู่ "รูปแบบใหม่" ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยเน้นการพัฒนาเมืองและที่อยู่อาศัยอย่างรอบคอบ มุ่งปรับปรุงบ้านพักและชุมชนเก่าแทนการขยายเมืองขนาดใหญ่แบบเดิม การประชุมสร้างความคาดหวังเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ แต่ยังไม่มีรายละเอียดมาตรการที่ชัดเจน ขณะที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์จีนยังคงซบเซา โดยราคาบ้านใหม่เดือนมิถุนายนลดลงสูงสุดในรอบ 8 เดือน สะท้อนแนวโน้มที่อาจยังไม่ฟื้นตัวในปีนี้
8. การเสนอชื่อ "วิทัย รัตนากร" ว่าที่ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนใหม่ ยังไม่ได้เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัปดาห์นี้ เนื่องจากมีข้อทักท้วงเรื่องเอกสารและคุณสมบัติจากหลายหน่วยงานที่ยังไม่ครบถ้วน โดยเฉพาะเอกสารตรวจสอบคุณสมบัติจากหน่วยงานสำคัญ ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายพิชัย ชุณหวชิร ยืนยันว่าสาเหตุหลักคือการส่งเรื่องล่าช้า ไม่เกี่ยวกับคุณสมบัติหรือปัญหาส่วนตัว คาดว่าเรื่องนี้จะเข้าสู่ที่ประชุม ครม. ในสัปดาห์หน้า
ประเด็นที่ต้องติดตาม: ดัชนี PPI MoM ของสหรัฐฯในเดือน มิ.ย. คาดการณ์ที่ 0.3% ก่อนหน้าที่ 0.1%