เรื่องต้องรู้ก่อนเปิดตลาดสหรัฐคืนนี้ 6 พ.ค. 2568

1 ธนาคารกลางจีน (PBOC), สำนักงานกำกับดูแลการเงินแห่งชาติ (NFRA) และคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์จีน (CSRC) เตรียมแถลงข่าวเช้าวันพุธนี้ (เวลา 9:00 น. ตามเวลาท้องถิ่น) เพื่อเปิดเผย "มาตรการการเงินเพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดและความเชื่อมั่น" ท่ามกลางแรงกดดันจากภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่เศรษฐกิจจีนกำลังเผชิญความเสี่ยงจากนโยบายขึ้นภาษีนำเข้า 145% ของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่อาจกระทบการส่งออกและเป้าหมาย GDP ปีนี้ที่ "ราว 5%" ตลาดคาดหวังว่า PBOC อาจเปิดเผยเครื่องมือการเงินใหม่ โดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นด้านเทคโนโลยี การค้าภายในประเทศ และการบริโภค ภายหลัง Politburo มีมติให้เตรียมแผนฉุกเฉินรับมือแรงกระแทกจากภายนอก ขณะนี้ยังไม่มีการปรับลด RRR (อัตราสำรองธนาคารพาณิชย์) นับตั้งแต่ ก.ย. แม้มีแรงกดดันให้ผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม ในอดีต การแถลงข่าวลักษณะเดียวกันเมื่อเดือนกันยายนเคยช่วยพลิกความเชื่อมั่นตลาดและกระตุ้นหุ้นจีนให้ฟื้นตัว ดัชนี PMI เดือนเมษายนเริ่มสะท้อนภาวะชะลอตัวของทั้งภาคผลิตและบริการ ขณะที่การค้าระหว่างประเทศยังไม่ถูกกระทบโดยตรงจากภาษีใหม่ แต่ความเสี่ยงกำลังเพิ่มขึ้น

2 ฟิวเจอร์สสหรัฐปรับตัวลงในเช้าวันอังคาร โดยดาวโจนส์ฟิวเจอร์สลดลง 0.3%, S&P 500 ฟิวเจอร์สลดลง 0.4% และ Nasdaq 100 ฟิวเจอร์สลดลง 0.7% นักลงทุนประเมินผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนล่าสุดและผลกระทบจากนโยบายการค้าของทรัมป์ ดัชนี S&P 500 ปิดลบเมื่อวานนี้ ทำลายสถิติขึ้น 9 วันติดต่อกัน ซึ่งเป็นช่วงยาวนานที่สุดในรอบสองทศวรรษ ตลาดถูกกดดันจากประกาศเก็บภาษีนำเข้า 100% สำหรับภาพยนตร์จากต่างประเทศ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อหุ้นกลุ่มสื่อ เช่น Netflix และ Walt Disney แม้ตัวเลขภาคบริการสหรัฐจะแข็งแกร่งกว่าคาด แต่ดัชนีราคาที่บริษัทจ่ายปรับตัวสูงขึ้น เพิ่มความกังวลว่าภาษีนำเข้าอาจกระตุ้นแรงกดดันเงินเฟ้อ

3 Ford Motor ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการทั้งปี โดยอ้างถึงความไม่แน่นอนจากนโยบายภาษีนำเข้าของทรัมป์ หุ้นบริษัทปรับตัวลดลงในช่วงการซื้อขายนอกเวลา CEO Jim Farley ระบุว่ายังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าคู่แข่งจะตอบสนองต่อภาษีอย่างไร แต่เชื่อว่าผู้ผลิตรถยนต์ที่มี "ฐานการผลิตในสหรัฐขนาดใหญ่ที่สุด" จะได้เปรียบ ก่อนหน้านี้ GM ได้ลดคาดการณ์กำไร และ Stellantis ถอนการคาดการณ์ทางการเงิน ทรัมป์ได้ประกาศเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์และชิ้นส่วนจากต่างประเทศในอัตราสูงเพื่อฟื้นฟูการจ้างงานภาคการผลิตในสหรัฐ แม้จะมีการอนุมัติการผ่อนปรนบางส่วนหลังจากการล็อบบี้อย่างหนักจากอุตสาหกรรมยานยนต์ กำไรสุทธิไตรมาสแรกของฟอร์ดลดลงเหลือ 471 ล้านดอลลาร์จาก 1.3 พันล้านดอลลาร์ในปีก่อน ขณะที่รายได้ลดลงเหลือ 40.7 พันล้านดอลลาร์

4 Palantir Technologies ปรับเพิ่มคาดการณ์ยอดขายประจำปี แต่หุ้นของบริษัทด้านข้อมูลที่เน้น AI นี้ร่วงลงในการซื้อขายนอกเวลาจากตัวเลขรายไตรมาสที่ไม่เป็นไปตามความคาดหวังของตลาดที่สูงมาก บริษัทซึ่งให้บริการลูกค้าภาครัฐเป็นผู้ได้รับประโยชน์หลักจากกระแสความนิยมธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วย AI หุ้นของบริษัทพุ่งขึ้นกว่า 60% ในปีนี้ โดยนักลงทุนหวังว่า AI จะสนับสนุนการเพิ่มขึ้นของการใช้จ่ายของรัฐบาลด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการป้องกัน กำไรต่อหุ้นที่ปรับปรุงแล้วอยู่ที่ 0.13 ดอลลาร์สำหรับไตรมาสแรก ตรงตามการคาดการณ์ รายได้ 883.9 ล้านดอลลาร์สูงกว่าประมาณการเล็กน้อยที่ 862.8 ล้านดอลลาร์ Palantir คาดการณ์ยอดขายตลอดทั้งปีที่ 3.89-3.90 พันล้านดอลลาร์ เทียบกับการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 3.74-3.76 พันล้านดอลลาร์

5 ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นในวันอังคาร ฟื้นตัวหลังจากการลดลงอย่างรุนแรงในวันก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลมาจากการตัดสินใจของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ที่จะเร่งการเพิ่มกำลังการผลิต สร้างความกังวลเรื่องอุปทานล้นตลาด ณ เวลา 03:41 น. ตามเวลาสหรัฐ สัญญาน้ำมันดิบ Brent เพิ่มขึ้น 2.2% สู่ระดับ 61.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และสัญญาน้ำมันดิบ West Texas Intermediate (WTI) ของสหรัฐปรับตัวขึ้น 2.3% สู่ระดับ 58.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบทั้งสองเกณฑ์ปิดที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2021 เมื่อวันจันทร์ หลังจากการตัดสินใจเมื่อสุดสัปดาห์โดยองค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) และพันธมิตร หรือ OPEC+ ที่จะประกาศการเพิ่มกำลังการผลิตสูงกว่าที่คาดไว้ในตอนแรกมาก ซาอุดีอาระเบีย ผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลก จะนำกลุ่มในการยกเลิกการลดกำลังการผลิตที่ดำเนินมากว่าสองปี โดยสมาชิก OPEC+ หลายรายต้องการเพิ่มปริมาณการขายเพื่อชดเชยราคาน้ำมันที่อ่อนแอลง

ที่มา: Investing.com และ InnvestX Research
แปลและเรียบเรียง: Content Team, InnovestX

ดาวน์โหลดแอพและเปิดบัญชี: https://innovestx.onelink.me/23if/u2qmpt6r