1.ฟิวเจอร์หุ้นสหรัฐทรงตัว ตลาดรอลุ้นมาตรการภาษีของทรัมป์
2.จับตาทรัมป์ประกาศมาตรการภาษีใหม่ 2 เม.ย.
3.นักลงทุนรอข้อมูลตลาดแรงงาน โอกาสเศรษฐกิจถดถอยเพิ่มเป็น 35%
4.AAPL ยอดขายในจีนฟื้น พร้อมพัฒนา AI รับภาษาใหม่ๆ มากขึ้น
5.ทองทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้ง นักลงทุนกังวลสงครามการค้า
🌙 เรื่องต้องรู้ก่อนเปิดตลาดสหรัฐคืนนี้ 1 เมษายน 2568
1. ฟิวเจอร์ดัชนีหุ้นสหรัฐเคลื่อนไหวทรงตัวในเช้าวันนี้ ขณะที่ทั่วโลกรอคอยการประกาศมาตรการภาษีนำเข้าครั้งใหม่จากประธานาธิบดีทรัมป์ที่มีกำหนดในสัปดาห์นี้ สัญญาฟิวเจอร์ของดัชนีดาวโจนส์ S&P 500 และ Nasdaq 100 แทบไม่เปลี่ยนแปลง ดัชนีหลักของวอลล์สตรีทปิดผสมเมื่อวันจันทร์ ตลาดกำลังรอดูการเปิดเผยอัตราภาษีใหม่ในวันที่ 2 เมษายนซึ่งทรัมป์เรียกว่า "วันปลดปล่อย" ทรัมป์อ้างว่าภาษีนำเข้าเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อแก้ไขความไม่สมดุลทางการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า รวมถึงเป็นเครื่องมือในการนำงานภาคการผลิตกลับคืนสู่ประเทศ อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์บางรายเตือนว่าภาษีเหล่านี้จะกระตุ้นแรงกดดันเงินเฟ้อและส่งผลกระทบต่อการเติบโต นำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยพร้อมเงินเฟ้อหรือ "stagflation"
2. สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ เปิดเผยในการให้สัมภาษณ์กับ Fox News เมื่อวันจันทร์ว่า ทรัมป์จะประกาศมาตรการภาษีการค้ารอบใหม่ในวันที่ 2 เมษายน เวลา 15:00 น. ตามเวลาสหรัฐ (2.00 น. ตามเวลาไทย) โดยเบสเซนต์กล่าวว่า "ผมไม่ขอล่วงหน้าก่อนประธานาธิบดีทรัมป์ เขาจะประกาศในเวลาบ่ายสามโมงวันพุธ" และเสริมว่า "เราจะเห็นการค้าที่เป็นธรรม ทุกคนจะมีโอกาสลดภาษีศุลกากร อุปสรรคที่ไม่ใช่ภาษี และทำให้ระบบการค้าโลกเป็นธรรมสำหรับคนงานอเมริกันอีกครั้ง" ความเห็นของเบสเซนต์สะท้อนมุมมองของทรัมป์ที่ว่าสหรัฐถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมในการค้าโลก ทรัมป์วางแผนที่จะเรียกเก็บภาษีเท่ากับที่ประเทศคู่ค้าหลักเรียกเก็บจากสินค้าอเมริกัน เมื่อคืนวันจันทร์ ทำเนียบขาวได้เผยแพร่รายละเอียดของกฎระเบียบจากประเทศต่างๆ ที่มองว่าเป็นอุปสรรคทางการค้า รวมถึงอัตราภาษีที่ใช้และกฎระเบียบเกี่ยวกับทุกอย่างตั้งแต่ความปลอดภัยด้านอาหารไปจนถึงพลังงานหมุนเวียน
3. นักลงทุนกำลังจับตาดูตัวเลขเศรษฐกิจชุดใหญ่ที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ รวมถึงการกล่าวสุนทรพจน์ของเจย์ พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐเกี่ยวกับสภาวะเศรษฐกิจ ตลาดจะได้วิเคราะห์ข้อมูลตำแหน่งงานว่างเดือนกุมภาพันธ์ในวันนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในชุดข้อมูลตลาดแรงงานที่จะปิดท้ายด้วยรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่สำคัญในวันศุกร์ คาดการณ์ว่ารายงาน Job Openings and Labor Turnover Survey หรือ JOLTS จะอยู่ที่ 7.69 ล้านตำแหน่ง ณ วันสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ เทียบกับ 7.74 ล้านตำแหน่งในเดือนก่อนหน้า ตัวเลขเหล่านี้ซึ่งถือเป็นตัวชี้วัดความต้องการแรงงาน มาในช่วงที่ความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของภาษีทรัมป์ที่อาจทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวเพิ่มขึ้น นักวิเคราะห์จาก Goldman Sachs ได้ปรับเพิ่มประมาณการโอกาสเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยเป็น 35%
4. Apple มีพัฒนาการเชิงบวกมากขึ้นหลังยอดขายสมาร์ทโฟนในจีนฟื้นตัวแรง รวมถึงมีแผนพัฒนา AI Feature ที่ครอบคลุมขึ้น ยอดส่งมอบโทรศัพท์แบรนด์ต่างประเทศในจีนซึ่งเป็นตัวสะท้อนแนวโน้มยอดขาย iPhone ในจีนช่วงเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับปีก่อน อยู่ที่ 2.6 ล้านเครื่อง ซึ่งเร่งตัวขึ้นจากเดือนมกราคมที่ลดลง 21% ขณะที่ส่วนแบ่งตลาดของโทรศัพท์แบรนด์ต่างประเทศอยู่ที่ 13% (ลดลงจาก 16% ในมกราคม 2568) ซึ่งเป็นผลกระทบจากโทรศัพท์แบรนด์จีนเติบโตเร็วกว่า (44% เมื่อเทียบกับปีก่อน) ขณะที่ Apple Intelligence มีการพัฒนาใหม่ๆ โดย 1) พร้อมใช้งานในภาษาใหม่ๆ เช่น ฝรั่งเศส เยอรมัน เกาหลี และจีน (ตัวย่อ) 2) ผู้ใช้ iPhone และ iPad ในยุโรปสามารถเข้าถึงฟีเจอร์ Apple Intelligence ได้เป็นครั้งแรก 3) เตรียมขยายไปยังแพลตฟอร์มใหม่ เช่นใน Apple Vision Pro InnovestX Research มองว่า 1) ยอดขายสมาร์ทโฟนที่พลิกกลับมาเป็นบวกสะท้อนสัญญาณการฟื้นตัว แม้ว่าจะได้รับประโยชน์จากฐานต่ำ 2) การเปิดตัว iPhone 16e อาจเพิ่มยอดขายได้ 3) แม้ว่ายอดขายจะเติบโต แต่ส่วนแบ่งตลาดลดลง แสดงให้เห็นถึงการแข่งขันที่รุนแรงจากแบรนด์จีน 4) มีการพัฒนา AI ที่จริงจังขึ้นเพื่อเพิ่มความสามารถทางการแข่งขัน ถึงแม้ความเสี่ยงด้านลบเริ่มจำกัดหลังมีการออกสินค้าใหม่และพัฒนาระบบนิเวศน์ให้ครบวงจร อย่างไรก็ดีในฝั่งบวกก็ยังคงมีแรงกดดันจากการแข่งขันและยอดขายที่ชะลอตัว ทำให้มองว่าราคาหุ้นยังมีความผันผวนได้และแนะนำให้เก็งกำไรเป็นรอบๆ ดีกว่า
5. ราคาทองคำทำสถิติสูงสุดตลอดกาลใหม่ในการซื้อขายช่วงเช้าวันอังคารในเอเชีย โดยได้แรงหนุนจากสถานะสินทรัพย์ปลอดภัยของทองคำขณะที่ผู้ร่วมตลาดเตรียมพร้อมสำหรับการประกาศมาตรการภาษีที่กำลังจะมาถึงจากทรัมป์ ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายการค้าเหล่านี้ได้ผลักดันให้นักลงทุนหันไปหาทองคำ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มองว่าปลอดภัยในช่วงเวลาที่มีความไม่มั่นคงทางการเมืองและเศรษฐกิจ โลหะสีเหลืองนี้ทำสถิติสูงสุดใหม่ติดต่อกันในสี่วันทำการล่าสุด ด้านอื่นๆ Bitcoin ปรับตัวขึ้น ฟื้นตัวบ้างหลังจากที่คริปโตเคอร์เรนซีที่ใหญ่ที่สุดในโลกดิ่งลงประมาณ 11% ในไตรมาสแรก ความเชื่อมั่นยังคงเปราะบางเมื่อเผชิญกับมาตรการภาษีของทรัมป์ ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยหลังจากทรัมป์ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีทางอ้อมกับน้ำมันดิบของรัสเซียและโจมตีอิหร่าน แม้ว่าความกังวลที่ว่าภาษีการค้าอาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตทั่วโลกได้จำกัดการปรับตัวขึ้น ราคาน้ำมันอ้างอิงปิดที่ระดับสูงสุดในรอบห้าสัปดาห์เมื่อวันก่อนหน้า
ที่มา: Investing.com และ InnvestX Research
แปลและเรียบเรียง: Content Team, InnovestX
ดาวน์โหลดแอป InnovestX ลงทุนหุ้นสหรัฐฯ ไม่พลาดโอกาสดีๆ
คลิก https://innovestx.onelink.me/23if/u2qmpt6r
