1. หุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวบวกหลังทรัมป์กระตุ้น “ซื้อหุ้น” ก่อนเปิดโต๊ะคุยจีน
2. ข้อตกลงการค้าสหรัฐฯ–อังกฤษของทรัมป์ยังไม่ชัดเจน สะท้อนข้อจำกัดของกลยุทธ์ภาษี
3. ทรัมป์ส่งสัญญาณอาจลดภาษีนำเข้าจีน หากการเจรจาสุดสัปดาห์นี้ราบรื่น
4. ค่าแรงญี่ปุ่นชะลอตัว หนุน BOJ เดินเกมนโยบายการเงินอย่างระมัดระวัง
5. อินเดียสกัดการโจมตีจากปากีสถาน – ความตึงเครียดเพิ่มขึ้น
5 Bites Breakfast - 5 เรื่องต้องรู้ ก่อนเทรด วันนี้ 9 พ.ค. 2568
1. ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นหลังทรัมป์กระตุ้นให้นักลงทุน “ซื้อหุ้นตอนนี้” พร้อมส่งสัญญาณว่าอาจพิจารณาลดภาษีนำเข้าจากจีน หากการเจรจาครั้งใหม่คืบหน้า ขณะเดียวกันยังประกาศความคืบหน้าในข้อตกลงการค้ากับสหราชอาณาจักร ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.6% และ Nasdaq พุ่ง 1% ขณะที่บอนด์ยีลด์พุ่งจากแรงขายสินทรัพย์ปลอดภัย ด้าน Bitcoin ทะลุ $100,000 และทองคำร่วง 1.7% สะท้อนการเปลี่ยนโหมดสู่ Risk-on
2. สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรบรรลุกรอบความร่วมมือทางการค้า ซึ่งประธานาธิบดีทรัมป์ยกให้เป็น “ความก้าวหน้า” ที่จะเปิดทางสู่ข้อตกลงอื่นในอนาคต โดย UK จะเร่งกระบวนการศุลกากรสำหรับสินค้าสหรัฐฯ และลดอุปสรรคบางส่วน ขณะที่สหรัฐฯ ยังคงเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหราชอาณาจักรในอัตรา 10% เป็นฐาน หลายประเด็นสำคัญยังไม่ได้ข้อสรุป เช่น ภาษีบริการดิจิทัลและสินค้าการแพทย์ นักลงทุนตอบรับเชิงบวก แต่ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าข้อตกลงนี้ยังไม่ใช่ความสำเร็จที่เป็นรูปธรรม และสะท้อนข้อจำกัดของกลยุทธ์กดดันผ่านภาษีของทรัมป์
3. ประธานาธิบดีทรัมป์ระบุว่า การเจรจาการค้ากับจีนที่จะมีขึ้นในสุดสัปดาห์นี้อาจมี “ความคืบหน้าที่แท้จริง” และหากเป็นไปในทางที่ดี สหรัฐฯ อาจพิจารณาลดภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนที่ปัจจุบันอยู่ที่ 145% ขณะที่รัฐมนตรีพาณิชย์ ฮาวเวิร์ด ลัทนิค ระบุว่าสหรัฐฯ ต้องการข้อตกลงกับ “ประเทศใหญ่จากเอเชีย” พร้อมย้ำว่าการเจรจากับญี่ปุ่นและเกาหลีใต้อาจต้องใช้เวลานานมาก และข้อตกลงกับอินเดียก็ยังมีงานต้องทำอีกมาก ด้านสหภาพยุโรปเตรียมตอบโต้ หากการเจรจาล้มเหลว โดยมีแผนเก็บภาษีเพิ่มกับสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ มูลค่า $108 พันล้าน
4. การเติบโตของค่าจ้างในญี่ปุ่นชะลอลงในเดือนมีนาคม โดยค่าจ้างเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเพียง 2.1% ต่ำกว่าคาดการณ์และลดลงจาก 2.7% ในเดือนก่อน ขณะที่ค่าแรงที่แท้จริงหดตัว 2.1% สะท้อนอำนาจซื้อที่ยังอ่อนแอ แม้การใช้จ่ายของครัวเรือนจะโตเกินคาดที่ 2.1% จากแรงหนุนของโบนัสบางส่วน ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จึงยังคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.5% โดยผู้ว่าฯ อุเอดะระบุว่าความไม่แน่นอนยัง “สูงมาก” และต้องดำเนินนโยบายอย่างระมัดระวัง แม้ภาพรวมการเจรจาค่าแรงจะยังสนับสนุนแนวโน้มขึ้นค่าจ้างในระยะถัดไป
5. อินเดียเผยว่ารับมือการโจมตีด้วยโดรนและขีปนาวุธจากปากีสถานได้สำเร็จเมื่อคืนวันพฤหัสฯ ส่งผลให้ความตึงเครียดระหว่างสองชาติพุ่งขึ้น หุ้นปากีสถานร่วงแรงสุดตั้งแต่ปี 2020 ส่วนรูปีอินเดียอ่อนค่าสูงสุดในรอบ 3 ปี อย่างไรก็ดี เรามองว่าความขัดแย้งยังอยู่ในวงจำกัด ไม่น่ากระทบบรรยากาศการลงทุนในวงกว้าง คล้ายกับกรณีในอดีตที่ตลาดมักตอบรับเชิงลบเพียงช่วงสั้น หากสถานการณ์ไม่ลุกลาม
ประเด็นที่ต้องติดตาม: Exports YoY ของจีน เดือน เม.ย. คาดว่าจะรายงานออกมาที่ -2.0% จากช่วงก่อนหน้าที่ 12.4%