Derivatives

เมื่อ SET Index ส่งสัญญาณ "เตือนภัย": ทำความรู้จักกลยุทธ์ "Hedge" พอร์ต ด้วย SET50 Options

21 Nov 25 2:55 PM
รู้จักผลิตภัณฑ์ลงทุน3
สรุปสาระสำคัญ

ตลาดหุ้นไทย (SET Index) เผชิญความท้าทายหลังไม่สามารถยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย EMA50 ได้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเครื่องมือ Stock Stage Screener ของ InnovestX จัดว่าเป็นสัญญาณเตือนทางเทคนิค (Stage 4: Warning) บ่งชี้ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในระยะสั้นถึงกลาง ในสถานการณ์แบบนี้ นักลงทุนมือใหม่-กลางควรทำความรู้จักกับกลยุทธ์ การป้องกันความเสี่ยง (Hedge) พอร์ตหุ้นไทยที่ถือครองอยู่ ด้วยเครื่องมืออย่าง SET50 Index Options (สัญญาออปชั่นที่อ้างอิงดัชนี SET50) ซึ่งให้สิทธิในการขาย (Put Options) เพื่อจำกัดหรือหักล้างผลขาดทุนหากตลาดปรับตัวลงต่อจริง โดยใช้เงินทุนที่น้อยกว่าการขายหุ้นจริงออกจากพอร์ต

ตลาดหุ้นไทยเหมือนมาถึงทางแยกที่ต้องระวัง

ลองนึกภาพว่าเรากำลังขับรถบนถนนที่คุ้นเคย จู่ๆ ก็เห็นป้ายเตือนขนาดใหญ่ว่า "ระวังทางแยกอันตราย" อยู่ข้างหน้า นั่นคือสถานการณ์ของ SET Index ในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมาที่ตลาดหุ้นไทยเหมือนกำลังเข้าสู่ "ทางแยก" ที่มีความผันผวนสูงขึ้น

 

โดยเครื่องมือ Stock Stage Screener ที่ทาง InnovestX พัฒนาขึ้นจะจัดให้สภาพการณ์แบบนี้อยู่ใน Stage 4: Warning หรือ “ระยะเตือนภัย” นั่นคือดัชนี SET วิ่งอยู่ใต้เส้น EMA(50) วัน แต่ยังสามารถทรงตัวเหนือเส้น EMA(200) วันได้ ซึ่งหมายถึงโมเมนตัมขาขึ้นระยะกลางเริ่มอ่อนแรงลง และมีความเสี่ยงที่ตลาดจะเข้าสู่ Stage 5: Distribution หรือการปรับฐาน

 

ข่าวดีคือเราสามารถ " คาดเข็มขัดนิรภัย" ให้พอร์ตการลงทุนของเราได้ ด้วยเครื่องมือทางการเงินที่เรียกว่า SET50 Index Options ที่สามารถซื้อขายได้บนกระดาน TFEX

SET_2025-11-21_11-20-45.png

กราฟ SET Index รายวัน แสดงการเรียงตัวของดัชนีระหว่างเส้น EMA(50) และ EMA(200)

 

เกราะป้องกันพอร์ตหุ้นไทยด้วย SET50 Index Options

เมื่อสัญญาณเตือนดังขึ้น โดยมากนักลงทุนมักคิดถึงทางเลือก 2 ทางหลักๆ คือ 1) ขายหุ้นออกไป เพื่อลดความเสี่ยง หรือ 2) อยู่เฉยๆ และทนรับความผันผวน แต่มีทางเลือกที่สามที่ชาญฉลาดกว่า คือการ "Hedge" หรือ การป้องกันความเสี่ยง ด้วยเครื่องมืออนุพันธ์ (Derivatives) อย่าง SET50 Index Options

 

SET50 Index Options คือสัญญาที่ให้ “สิทธิ แก่ผู้ซื้อ (แต่ไม่ใช่ภาระผูกพัน) ในการซื้อหรือขายดัชนี SET50 ที่ราคาและวันหมดอายุที่กำหนดไว้ในอนาคต

  • Call Options: สิทธิในการซื้อ (เหมาะกับการเก็งกำไรขาขึ้น หรือ Hedge การ Short)
  • Put Options: สิทธิในการขาย (เหมาะกับการเก็งกำไรขาลง หรือ Hedge พอร์ตหุ้น)

 

โดยจุดเด่นสำคัญที่สุดที่ทำให้ Options เหมาะกับการ Hedge พอร์ตในสภาวะตลาดมีความเสี่ยงขาลงคือ: "การจำกัดความเสี่ยงด้วยเงินทุนที่จำกัด" หรือพูดง่ายๆ คือ นักลงทุนจะสูญเสียมากที่สุดเท่ากับเงินที่ใช้ในการซื้อ Options หรือค่าพรีเมียม (Premium)

 

เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น ลองจินตนาการดูว่าเมื่อคุณซื้อ Put Options (เช่น S50H26P820 : Put Options บน SET50; Strike Price = 820; หมดอายุเดือนมีนาคม 2026) คุณจะจ่ายเพียงแค่ "ค่า Premium" ซึ่งเป็นเงินจำนวนเล็กน้อยเมื่อเทียบกับมูลค่าของพอร์ตหุ้นที่คุณถืออยู่ แต่คุณได้ สิทธิในการ "ขาย" ดัชนี SET50 ที่ระดับราคาที่กำหนด (Strike Price) หากดัชนีปรับตัวลงต่ำกว่านั้น ผลกำไรจาก Put Options จะช่วยชดเชยผลขาดทุนที่เกิดขึ้นกับพอร์ตหุ้นในตลาดขาลง ทำให้พอร์ตมีความมั่นคงมากขึ้นและมีความผันผวนน้อยลง (Less Volatile) โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องขายหุ้นดีๆ ที่คุณถืออยู่ทิ้งไป

 

Case Study: กลยุทธ์ Put Options สำหรับพอร์ตหุ้นไทย

สมมติว่าคุณมีพอร์ตหุ้นที่อ้างอิงกับ SET50 (เช่น หุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่ม SET50) มูลค่ารวม 500,000 บาท และ SET50 Index อยู่ที่ 850 จุด คุณเริ่มเห็นว่าดัชนีเริ่มอ่อนแรงและเกรงว่า SET50 อาจจะไหลลงไปที่ 800 จุด

กลยุทธ์: ซื้อ SET50 Index Put Options เพื่อป้องกันความเสี่ยงพอร์ตโดยรวม

  1. เลือกสัญญา: คุณตัดสินใจซื้อ Put Options ที่มีราคาใช้สิทธิ (Strike Price) ที่ 830 จุด และเดือนหมดอายุที่ต้องการ (เช่น S50H26P830 - สัญญาหมดอายุ มี.ค. 2026, Strike Price 830)
  2. คำนวณมูลค่าสัญญา: SET50 Index Futures 1 สัญญามีมูลค่า 200 บาท ต่อ 1 จุดดัชนี ดังนั้นมูลค่าสัญญาที่ดัชนี 850 คือ 850 x 200 = 170,000 บาท
  3. จำนวนสัญญาที่ต้องการ Hedge: เพื่อ Hedge พอร์ต 500,000 บาท (โดยประมาณ 3 สัญญา) คุณตัดสินใจซื้อ Put Options จำนวน 3 สัญญา
    • จ่าย Premium (ค่าใช้จ่าย): สมมติว่า Put Options S50H26P830 มีราคา Premium อยู่ที่ 30 จุด ดังนั้น เงินทุนที่ใช้ในการ Hedge จะเท่ากับ 30 x 200 x 3 = 18,000 บาท

 

สถานการณ์

ผลต่อพอร์ตหุ้น (500,000 บาท)

ผลต่อ Put Options
(3 สัญญา)

ผลลัพธ์

ตลาดลงแรง: SET50 ลงจาก 850 ไป 770 จุด (ลง 80 จุด)

ขาดทุน:
 -80/850 x 500,000
= ประมาณ -47,000 บาท

กำไร: (830 - 770) x 200 x 3 = 36,000 บาท
หักค่า Premium 18,000 บาท = 36,000 – 18,000 = 18,000 บาท

ขาดทุนรวมสุทธิ:

 -47,000 + 18,000

 = -29,000 บาท
(ขาดทุนน้อยลงประมาณ 38.3%)

ตลาดขึ้น: SET50 ขึ้นจาก 850 ไป 900 จุด (ขึ้น 50 จุด)

กำไร:
   50/850 x 500,000
= ประมาณ 29,400 บาท

ขาดทุนสูงสุด: 18,000 บาท

(เสียแค่ Premium)

กำไรสุทธิ:

29,400 – 18,000 = 11,400 บาท

ผลลัพธ์: การซื้อ Put Options ทำให้คุณจำกัดผลขาดทุนได้อย่างมีนัยสำคัญในกรณีที่ตลาดลงแรง โดยที่ยังคงได้ประโยชน์หากตลาดสามารถฟื้นตัวขึ้นได้

*การคำนวณในตัวอย่างนี้ยังไม่รวมค่าคอมมิชชั่น ค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายอื่นๆ และเป็นเพียงกรณีศึกษาเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุน

 

สัญญาณเตือนจากตลาดคือโอกาสทบทวน

การที่ SET Index ไม่สามารถยืนเหนือ EMA50 และเข้าสู่ Stage 4: Warning ตามนิยามของ Stage Screener ที่ทีมงาน InnovestX พัฒนาขึ้นนั้น ไม่ได้หมายความว่าตลาดจะพังทลายทันที แต่เป็น "ป้ายเตือนขนาดใหญ่" ที่นักลงทุนควรใช้เป็นโอกาสในการทบทวน และปรับกลยุทธ์การลงทุนให้รัดกุมขึ้น โดยอาจพิจารณาใช้ Put Options ไว้เสมือนเป็นการ “ซื้อประกัน” ให้พอร์ตลงทุน โดยมี Downside จำกัดเพียงแค่ค่าพรีเมียมเท่านั้น แต่นักลงทุนสามารถลดความผันผวนโดยรวมของพอร์ต และยังสามารถรักษาต้นทุนของหุ้นที่ซื้อมาเมื่อตลาดสามารถฟื้นตัวขึ้นได้อีกด้วย

 

References:

 

🚀ลงทุน TFEX เข้าถึงโอกาสทำกำไรในตลาดอนุพันธ์ได้อย่างง่ายดายแค่ปลายนิ้ว

เพียงแค่เปิดบัญชีกับ InnovestX และ Activate บัญชี TFEX

  1. เปิดบัญชี InnovestX 👉 https://innovestx.onelink.me/23if/2jlpsi7b
  2. Activate TFEX: อ่านขั้นตอนการเปิดใช้บริการ 👉 https://www.innovestx.co.th/products/derivatives/product-tfex

⚠️ คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุนการซื้อขายฟิวเจอร์สและออปชั่น มีความเสี่ยงสูงที่อาจก่อนให้เกิดผลขาดทุนอย่างมีนัยสำคัญจังไม่เหมาะสมกับบุคคลทุกคน ก่อนตัดสินใจซื้อขายฟิวเจอร์สและออปชั่น ท่านควรพิจารณาถึงฐานะทางการเงินวัตถุประสงค์การลงทุน ตลอดจนความเสี่ยงที่สามารถยอมรับได้อย่างรอบคอบเนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่ท่านอาจสุญเสียเงินลงทุนมากกว่าเงินลงทุนเริ่มแรก

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5