
กองทุน LHGENHANCED-A มีกลยุทธ์การบริหารแบบ Passive และ Active ลงทุนในกองทุนหลัก iShares MSCI World ETF (URTH) บริหารแบบ Passive มุ่งให้ผลดำเนินงานสอดคล้องกับดัชนีหุ้นโลก (MSCI World) ประมาณ 80% และเสริมศักยภาพพอร์ตด้วยกลยุทธ์แบบ Active ประมาณ 20% ลงทุนในหุ้นรายตัว (Stock Selection) หรือ ETF ราย country, sector, thematic focus เช่น AI Ecosystems, Quantum Technology, Space Economy/Defense และ Nuclear Energy เพิ่มความยืดหยุ่นให้พอร์ต ปรับการลงทุนตามสภาวะตลาด เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนให้สูงกว่ากองทุนดัชนี [IPO 22 Oct - 5 Nov 2025]
ภาพรวมการลงทุน (ดัชนี MSCI World น่าสนใจอย่างไร?)
หุ้นโลกในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว ยังคงเป็น “แกนหลักของพอร์ตการลงทุนระยะยาว” เนื่องจากประกอบไปด้วยบริษัทชั้นนำระดับโลกที่มีฐานะการเงินมั่นคง ธุรกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับการกำกับดูแลที่มีมาตรฐานสูง
ดัชนี MSCI World ครอบคลุมตลาดหุ้นมากกว่า 20 ประเทศพัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐฯ ญี่ปุ่น อังกฤษ และยุโรป เป็นตัวแทนสำคัญของ “เศรษฐกิจโลกที่มีเสถียรภาพและนวัตกรรมสูง” โดยมีสัดส่วนหลักในกลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มการเงิน และกลุ่มอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นภาคส่วนที่ขับเคลื่อนการเติบโตของโลกในระยะยาว แม้ตลาดหุ้นจะมีความผันผวนในระยะสั้นจากวัฏจักรเศรษฐกิจและนโยบายดอกเบี้ย แต่ในระยะยาว “พลังของการเติบโตทางเศรษฐกิจและนวัตกรรมระดับโลก” ยังคงหนุนให้บริษัทคุณภาพดีเหล่านี้สร้างผลตอบแทนเหนือเงินเฟ้อได้อย่างสม่ำเสมอ
ด้วยมูลค่า GDP มหาศาล และบทบาทของ Advanced Economies ในฐานะแหล่งทุนและศูนย์กลางนวัตกรรม ที่มีสัดส่วน FDI Outflow กว่า 60% ของโลก สะท้อนศักยภาพด้านทุนและอิทธิพลทางเศรษฐกิจที่ยังคงครองความเป็นผู้นำในเวทีโลก

Source: IMF World Economic Outlook Update as of July 2025, Unctad as of 1 September 2025, LH Fund
บริษัทส่วนใหญ่เป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระดับโลกที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง พร้อมการกระจายรายได้จากทั่วโลก ช่วยลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาตลาดใดตลาดหนึ่ง และเสริมความมั่นคงให้พอร์ตลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Source: Tradingview, Novartis, Roche, LHFund as of September 2025
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI World ลงทุนในหุ้นที่มีผลตอบแทนที่สูงใกล้เคียงหุ้นขนาดใหญ่สหรัฐฯ ขณะที่มีสภาพคล่องสูงมาก แม้ผลตอบแทนของแต่ละสินทรัพย์จะแปรผันในแต่ละปี และไม่มีสินทรัพย์ใดที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดอย่างสม่ำเสมอ แต่ข้อมูลย้อนหลังชี้ว่าหุ้นขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ และหุ้นในประเทศพัฒนาแล้ว มักให้ผลตอบแทนเฉลี่ยในระดับต้นๆ ขณะที่มีความผันผวนอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อเทียบกับสินทรัพย์อื่น โดยหุ้นประเทศพัฒนาแล้ว สร้างผลตอบแทนเฉลี่ย 10 ปี 11.6% ต่อปี เป็นรองเพียง Large Cap (US) สะท้อนศักยภาพการเติบโตที่มั่นคงของตลาดหุ้นพัฒนาแล้วทั่วโลก ด้วยความผันผวน (S.D.) เฉลี่ย 15.1% ใกล้เคียง Large Cap (US) แต่มีสภาพคล่องสูงกว่าถึง 5 เท่า ขณะที่มี Max Drawdown ในระดับที่ต่ำกว่า จึงถือเป็นหนึ่งสินทรัพย์ Core Asset ของพอร์ตการลงทุนระดับโลกได้เลยทีเดียว

Source: Bloomberg as of 17 Sep 2025, LH Fund
ปัจจัยสนับสนุนการลงทุนในดัชนี MSCI World

Source: IMF World Economic Outlook Update as of July 2025

Source: CNBC, LH Fund as of September 2025

Source: Bloomberg as of Sep 2025, Schroders Outlook 2025, Federal reserve as of 17 September 2025, LH Fund
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยหนุนการลงทุนในดัชนี MSCI World อื่นๆ เช่น

Source: Stockcharts *กองทุน Master Fund : URTH iShares MSCI World ETF, LH Fund
Why LHGENHANCED-A?
LHGENHANCED-A กองทุนหุ้นโลกที่ให้ความสมดุลระหว่าง ‘ความมั่นคง’ และ ‘ศักยภาพเติบโต’ ผ่านการลงทุนหุ้นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วทั่วโลก ด้วยการบริหารแบบ ‘Enhanced Strategy’ ที่รวมข้อดีของการลงทุนด้วยกลยุทธ์แบบ Passive Management (ประมาณ 80%) และแบบ Active Management (ประมาณ 20%) เข้าไว้ด้วยกันในกองทุนเดียว

Source: LH Fund, data as of 30 September 2025
Passive: ลงทุนในกองทุนหลัก iShares MSCI World ETF (URTH) กระจายการลงทุนในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วกว่า 23 ประเทศทั่วโลก ครอบคลุมบริษัทชั้นนำระดับโลกจากหลากหลายอุตสาหกรรม

Source: BlackRock, Fact sheet as of 30 June 2025
Active: คัดเลือกหุ้นรายตัว (Stock Selection) หรือ ETF รายอุตสาหกรรม, ประเทศ, ธีมการลงทุน จากทีมผู้จัดการกองทุน บลจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (LH Fund) ซึ่งมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการคัดเลือกหุ้นรายตัว, ETF โดยจะพิจารณาผ่านมุมมองทั้งด้านมหภาค (Top-down Approach) และการวิเคราะห์รายบริษัท (Bottom-up Approach) เลือกลงทุนในบริษัท, ETF ที่มีศักยภาพเติมโตสูง จากทั่วทุกมุมโลกทั้งจากกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว และ/หรือ กลุ่มประเทศกำลังพัฒนา พร้อมปรับการลงทุนอย่างยืดหยุ่นให้สอดคล้องตามสภาวะการลงทุนในแต่ละขณะ เพื่อเป้าหมายสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่ม (Alpha) เหนือกองทุนดัชนี

Source: LH Fund, as of 30 September 2025
ตัวอย่างการคิดหาไอเดีย ผ่านมุมมอง Top-down, Economic cycle, Economic data, Tactical Asset Allocation

Source: Bloomberg, LH Fund
ตัวอย่าง Factors ที่ใช้พิจารณาหาไอเดีย Top-down

Source: Bloomberg, Morgan Stanley, Goldman Sachs, CNN, LH Fund
กระบวนการการลงทุน (Investment Process)
การพิจารณาเชิงปริมาณ (Quantitative)
การพิจารณาเชิงคุณภาพ (Qualitative)
LH Fund Universe

Source: LH Fund
ตัวอย่าง ธีมการลงทุนที่น่าสน ณ ปัจจุบัน
1. Artificial Intelligence (AI): โครงสร้างพื้นฐานยุคใหม่ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก
AI ไม่ใช่แค่ซอฟต์แวร์ แต่กำลังกลายเป็น โครงสร้างพื้นฐานของเศรษฐกิจยุคใหม่ ที่จะเข้ามาปรับเปลี่ยนทุกอุตสาหกรรมอย่างถาวร กลยุทธ์ คือ การลงทุนในบริษัทที่เป็น ผู้สร้างระบบนิเวศของ AI และ ผู้ได้รับประโยชน์โดยตรงจากการใช้งานเทคโนโลยีนี้
ตลาด AI ทั่วโลกคาดว่าจะเติบโตเฉลี่ย 37% ต่อปี (CAGR) สู่มูลค่ากว่า 1.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2030 (Grand View Research) และ AI อาจสร้างมูลค่าเพิ่มให้เศรษฐกิจโลกถึง $13 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2030 (McKinsey Global Institute (MGI)) โดยกระแสเงินทุนไหลเข้าสู่ AI Startups ระดับแสนล้านดอลลาร์ต่อปี ทั้งจากภาคเอกชนและรัฐบาล เช่น สหรัฐฯ (CHIPS Act) และจีน ที่มองว่า AI เป็น ยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติ ตัวอย่างหุ้นในกลุ่มนี้ เช่น
2.Space Economy: อุตสาหกรรมอวกาศ จากการสำรวจสู่การสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ
ต้นทุนการส่งวัตถุสู่อวกาศลดลงกว่า 95% ในรอบสิบปี (จากเทคโนโลยีของ SpaceX) ได้เปิดประตูสู่เศรษฐกิจอวกาศยุคใหม่ ซึ่งไม่ใช่เพียงการสำรวจ แต่คือการสร้างอุตสาหกรรมในวงโคจร คาดว่าเศรษฐกิจอวกาศจะเติบโตจาก 630,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สู่ 1.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2035 ((McKinsey/WEF)) นอกจากนี้ ภาครัฐ เช่น NASA และกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ลงทุนมหาศาลต่อเนื่อง ขณะที่ธุรกิจดาวเทียมและอินเทอร์เน็ตอวกาศกำลังดึงดูดเม็ดเงินเอกชนทั่วโลก ตัวอย่างหุ้นในกลุ่มนี้ เช่น
3.Advanced Nuclear: ทางเลือกเดียวสำหรับพลังงานสะอาดที่มีเสถียรภาพ
โลกกำลังเผชิญ Energy Trilemma ต้องการพลังงานที่มั่นคง ราคาควบคุมได้ และปลอดคาร์บอน ซึ่งพลังงานหมุนเวียนเพียงอย่างเดียวไม่พอ นิวเคลียร์ยุคใหม่ (SMRs) จึงกลายเป็นคำตอบที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ตลาดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็ก (SMR) คาดว่าจะเติบโตสู่มูลค่า 13.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2032 (Allied Market research) ได้แรงหนุนจากนโยบายอย่าง Inflation Reduction Act (IRA) ของสหรัฐฯ ที่ให้เครดิตภาษีแก่พลังงานนิวเคลียร์ และจากความต้องการไฟฟ้าขนาดใหญ่ของ AI Data Centers ตัวอย่างหุ้นในกลุ่มนี้ เช่น
4.Quantum Computing: การลงทุนระยะยาวในเทคโนโลยีคอมพิวติ้งยุคถัดไป
เทคโนโลยีควอนตัม คือ ยุคใหม่ของการประมวลผล ที่อาจเปลี่ยนโลกเหมือนการถือกำเนิดของทรานซิสเตอร์ การลงทุนในธีมนี้ คือ การถือ Option แห่งอนาคตของคอมพิวเตอร์ ตลาด Quantum Computing คาดว่าจะเติบโตจากหลักร้อยล้านเป็น 130 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2040 (McKinsey & Company, 2024) และในปี 2023 รัฐบาลและองค์กรระดับโลกได้ประกาศลงทุนในเทคโนโลยีควอนตัมราว 42 พันล้านดอลลาร์ เพื่อเตรียมรับมือกับยุคการประมวลผลแบบใหม่ของโลก ตัวอย่างหุ้นในกลุ่มนี้ เช่น
ทั้งนี้ ธีม AI, Space Economy, Advanced Nuclear, และ Quantum Computing เป็นเพียงตัวอย่างธีมการลงทุนที่น่าสนใจ ณ ปัจจุบัน โดย Thematic Investment กลุ่มนี้ คือ ความพยายามเชิงรุก (Active) ของกองทุน LHGENHANCED-A ที่มุ่งแสวงหา Alpha ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ไม่ได้เพียงตามกระแส แต่เป็นการลงทุน เพื่อสร้างผลตอบแทนที่โดดเด่นและยั่งยืนให้กับนักลงทุน
พอร์ตจำลอง: ผลการดำเนินงานกองทุน LHGENHANCED-A (Portfolio Simulation Performance)***

Source: LH Fund // ***Portfolio = 80% iShares MSCI World ETF (URTH US) + 20% Stock picked (gross return) // ***The performance was simulated for the period from 31 Dec 2019 to 30 September 2025)
*** ข้อมูลผลการทดสอบย้อนหลังเป็นเพียงการจำลองข้อมูลในอดีต มิใช่ผลการดำเนินงานจริง ไม่สามารถรับประกันผลตอบแทนในอนาคต และไม่รวมค่าใช้จ่ายจริงที่เกิดขึ้นจากการจัดการกองทุน
คำเตือน: กองทุนรวมนี้มีลักษณะเฉพาะและความเสี่ยงเฉพาะ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะ เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงของกองทุนรวมก่อนตัดสินใจลงทุน // กองทุนมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน // บทความนี้เป็นการให้ข้อมูลทั่วไปและ/หรือเป็นความคิดเห็นเท่านั้น มิใช่การชักชวนหรือให้คำแนะนำการลงทุน // ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต // ขอรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือหนังสือชี้ชวนได้ที่ บล.อินโนเวสท์ เอกซ์