เบื้องหลังธุรกิจ Stablecoin มูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์: เจาะลึกธุรกิจของ Tether และ Circle และการเติบโตของอุตสาหกรรม Stablecoin

Stablecoins และบทบาทของบริษัทผู้ออกเหรียญหลัก: Tether และ Circle

 

1. Stablecoin คืออะไร และทำไม “บริษัทผู้ออกเหรียญ” จึงสำคัญ

 

Stablecoin คือรูปแบบของเงินดิจิทัลบนบล็อกเชนที่ถูกออกแบบให้มีมูลค่าคงที่ โดยส่วนใหญ่ผูกเข้ากับดอลลาร์สหรัฐในอัตรา 1:1 อย่างไรก็ตาม เสถียรภาพและความน่าเชื่อถือของ Stablecoin ขึ้นอยู่โดยตรงกับบริษัทผู้ออกเหรียญ เช่น Tether Holdings Limited และ Circle Internet Financial ซึ่งเป็นผู้ถือครองสินทรัพย์สำรอง ตรวจสอบความโปร่งใส และบริหารความเสี่ยงตามกรอบกำกับดูแล บริษัทเหล่านี้จึงกลายเป็นตัวกลางสำคัญในระบบการเงินดิจิทัลยุคใหม่เช่นเดียวกับสถาบันการเงินในระบบดั้งเดิม

 

 

Source : Goldman Sachs GIS as of August 2025

 

 

2. การใช้งานของ Stablecoin: บริบทที่ทำให้บริษัทผู้ออกมีความสำคัญยิ่งขึ้น

 

Stablecoin ถูกใช้อย่างแพร่หลายเพื่อ

• การซื้อขายและบริหารสภาพคล่องในตลาดคริปโท
• การถือมูลค่า และการเข้าถึงดอลลาร์ในประเทศที่ค่าเงินผันผวน
• ธุรกรรมข้ามพรมแดนและการชำระเงินระดับธุรกิจ (B2B)
• การชำระเงินแบบดิจิทัลที่ต้องการความเร็วสูง

 

การใช้งานที่หลากหลายนี้ทำให้ภาระหน้าที่ของผู้ออก Stablecoin ทั้งในด้านการถือสินทรัพย์ค้ำประกัน การบริหารความเสี่ยง และการปฏิบัติตามกฎระเบียบมีความสำคัญต่อเสถียรภาพของระบบโดยรวม

ตามกรอบกฎหมายสหรัฐ เช่น GENIUS Act ผู้ออก Stablecoin ต้องถือสินทรัพย์คุณภาพสูง เช่น ตั๋วเงินคลัง เงินฝาก และสินทรัพย์สภาพคล่องสูง เพื่อรับรองว่ามูลค่าของเหรียญยังคงเสถียรอยู่เสมอ

 

 

3. 2 บทบาทของ Tether และ Circle ในตลาด Stablecoin ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว

 

ตลาด Stablecoin มูลค่ารวมประมาณ 306 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (อ้างอิงข้อมูล ณ วันที่ 1 ธันวาคม 2025) ถูกขับเคลื่อนโดยบริษัทสองรายหลักที่มีบทบาทสำคัญในระดับโครงสร้าง ได้แก่ Tether Holdings Limited และ  Circle Internet Financial

 

 

Source : Goldman Sachs GIS as of August 2025

 

 

3.1 Tether Holdings Limited (ผู้ออก USDT)

 

ภาพรวมบริษัท

 

Tether Holdings Limited เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในหมู่เกาะบริติชเวอร์จิน และเป็นผู้ออก Stablecoin USDT ซึ่งมีมูลค่าหมุนเวียน 184  พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (อ้างอิงข้อมูล ณ วันที่ 1 ธันวาคม 2025) ทำให้เป็น Stablecoin ที่ถูกใช้งานมากที่สุดในโลก นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2014 USDT ถูกออกแบบให้รักษามูลค่าคงที่ที่อัตรา 1:1 กับดอลลาร์สหรัฐ เพื่อให้ความเสถียรในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีความผันผวนสูง

 

รูปแบบธุรกิจของ Tether คือการออกเหรียญ USDT โดยมีสินทรัพย์สำรองรองรับ ซึ่งประกอบด้วยเงินสด ตราสาร ตั๋วเงินคลังสหรัฐ และสินทรัพย์อื่นที่มีสภาพคล่องสูง ทำให้บริษัทสามารถรองรับความต้องการใช้งาน USDT ในฐานะเครื่องมือสภาพคล่องหลักของตลาดคริปโททั่วโลก

 

 

จุดเด่นของบริษัท Tether

 

1. เป็นผู้ออก Stablecoin ชั้นนำของโลก: บริหาร USDT ที่ peg กับดอลลาร์สหรัฐแบบ 1:1
2. มูลค่าตลาดของ USDT มากกว่า 184 พันล้านดอลลาร์ และครองส่วนแบ่งตลาดประมาณ 60% ในกลุ่ม Stablecoin (อ้างอิงข้อมูล ณ วันที่ 1 ธันวาคม 2025)
3. มี Stablecoin อื่น ๆ เช่น เหรียญที่มีสินทรัพย์ backed ด้วยทองคำ (XAUt)

 

 

ผลประกอบการของ Tether ไตรมาส 3 ปี 2025

 

• Tether รายงานกำไรสุทธิ 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2025 สูงกว่า Bank of America (8.9 พันล้านดอลลาร์) และเกือบสองเท่าของ S. Bank (5.5 พันล้านดอลลาร์)

 

• ผลประกอบการดังกล่าวอยู่ในระดับใกล้เคียงกับ Morgan Stanley และ Goldman Sachs ซึ่งมีกำไรประมาณ 12 พันล้านดอลลาร์ ในช่วงเวลาเดียวกัน

 

• Tether ยังมีแนวโน้มทำผลประกอบการปี 2025 สูงกว่าปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ 13 พันล้านดอลลาร์ โดยรายได้หลักมาจากดอกเบี้ยของ ตราสารหนี้รัฐบาลสหรัฐฯ (S. Treasuries) ที่มีมูลค่าถือครองประมาณ 135 พันล้านดอลลาร์

 

• บริษัทเป็นเอกชน (privately owned) และยังคงมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนสภาพคล่องในตลาดเกิดใหม่ทั่วโลก

 

 

ข้อควรระวังต่อความเสถียรของ USDT (จาก S&P Global Ratings)

 

S&P Global Ratings ปรับลดคะแนนความสามารถในการรักษา peg ของ USDT จากระดับ 4 -> 5 (weak) เนื่องจากสัดส่วนสินทรัพย์ความเสี่ยงสูงในทุนสำรองเพิ่มขึ้น เช่น Bitcoin ทองคำ สินเชื่อค้ำประกัน และตราสารเอกชน โดยเฉพาะสัดส่วน Bitcoin ที่ 5.6% สูงกว่าระดับกันชน 3.9% เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะ undercollateralized แม้ Tether ถือครองตั๋วเงินคลังเป็นหลัก แต่ข้อจำกัดด้านความโปร่งใสของผู้ดูแลสินทรัพย์และคู่ค้ายังคงเป็นประเด็นที่ต้องติดตาม

 

 

 

3.2 Circle Internet Financial (ผู้ออก USDC)

 

ภาพรวมบริษัท

 

Circle เป็นบริษัทฟินเทคสัญชาติสหรัฐฯ ผู้พัฒนาและออกเหรียญ Stablecoin USDC ซึ่งมีมูลค่าหมุนเวียนราว 76 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (อ้างอิงข้อมูล ณ วันที่ 1 ธันวาคม 2025) ภายใต้โครงสร้างกำกับดูแลที่เข้มงวด บริษัทดำเนินธุรกิจเป็นแพลตฟอร์มโครงสร้างพื้นฐานด้าน stablecoin และระบบการชำระเงินบนบล็อกเชน โดยให้บริการทั้ง stablecoins, tokenized funds, liquidity, payments และ developer services

 

 

จุดเด่นของ Circle

 

1. มาตรฐานกำกับดูแลเข้มงวด โปร่งใส เหมาะกับสถาบัน

Circle ถือเป็นผู้พัฒนา stablecoin ที่ได้รับการกำกับดูแลมากที่สุดในอุตสาหกรรม โดยอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย GENIUS Act (สหรัฐฯ ปี 2025) ที่กำหนดมาตรฐานด้านทุนสำรองและความโปร่งใส ทำให้สถาบันให้ความเชื่อมั่นสูง

 

 

2. พัฒนา USDC ร่วมกับ Coinbase

 

USDC ถูกพัฒนาโดย Centre Consortium ความร่วมมือระหว่าง Circle และ Coinbase เพื่อสร้าง stablecoin ที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ และรองรับมาตรฐานสากล

 

 

3. USDC ถูกค้ำด้วยสินทรัพย์สภาพคล่องสูงทั้งหมด

• พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุสั้น ~80%
• เงินฝากสถาบันการเงินในสหรัฐฯ ~20%

 

 

4. พันธมิตรระดับโลก เช่น Mastercard

 

Circle ขยายความร่วมมือกับ Mastercard เพื่อรองรับการใช้ USDC/EURC ในการชำระเงินและการทำธุรกรรมข้ามพรมแดน โดยเฉพาะในภูมิภาค EEMEA ช่วยผลักดันการใช้งาน stablecoin ในโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินจริง

 

 

 

สถานะหุ้นของ Circle Internet Financial

 

Circle Internet Financial เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE: CRCL) เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2025 ในฐานะหนึ่งในบริษัทโครงสร้างพื้นฐานด้าน Stablecoin แห่งแรกที่เป็นบริษัทมหาชนในสหรัฐฯ โดยเปิดตัวที่ราคาประมาณ $31 ต่อหุ้น และปรับตัวขึ้นทำ จุดสูงสุดกว่า $300 สะท้อนความเชื่อมั่นต่อศักยภาพของโมเดลธุรกิจและการเติบโตของ USDC

ปัจจุบันราคาหุ้นมีการปรับฐานลงตามภาวะตลาดและความผันผวนของกลุ่มสินทรัพย์ดิจิทัล ขณะที่การเป็นบริษัทมหาชนช่วยเพิ่มความโปร่งใสด้านงบการเงินและโครงสร้างสำรอง USDC ทำให้ Circle ยังถูกมองว่าเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการ Stablecoin ที่น่าเชื่อถือที่สุดในตลาด

 

 

 

ผลประกอบการ Circle ไตรมาส 3 ปี 2025 (Q3/2025)

 

• Circle Internet Group รายงานผลประกอบการโดดเด่น โดยมีกำไรต่อหุ้น (EPS) ที่ $0.64 สูงกว่าคาดการณ์อย่างมากเมื่อเทียบกับประมาณการที่ $0.18 รายได้ไตรมาสอยู่ที่ $740 ล้าน เติบโต 66% YoY และสูงกว่าคาดการณ์นักวิเคราะห์

 

• แรงหนุนหลักมาจากการขยายตัวของ USDC ซึ่งมีมูลค่าหมุนเวียนเพิ่มขึ้นเป็น $73.7 พันล้าน (+108% YoY) ส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาด stablecoin ของ Circle เพิ่มเป็น 29%

 

• ผลประกอบการที่ดีสะท้อนว่า USDC ยังคงมีอัตราการยอมรับที่เร่งตัวต่อเนื่อง ทั้งจากสถาบันการเงิน บริษัทเทคโนโลยี และผู้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการชำระเงิน สะท้อนบทบาทที่เพิ่มขึ้นของ USDC ในฐานะส่วนหนึ่งของระบบการเงินดิจิทัลระดับโลก

 

 

ความเสี่ยงที่ควรพิจารณา

 

ราคาหุ้น CRCL ผันผวนตาม sentiment ของตลาดคริปโท แม้รายได้หลักมาจากดอกเบี้ยสินทรัพย์สำรองที่ไม่เคลื่อนไหวตามราคาคริปโทโดยตรง แต่ความเชื่อมโยงเชิงภาพลักษณ์และโครงสร้างธุรกิจทำให้มูลค่าหุ้นตอบสนองต่อความเสี่ยงในตลาดดิจิทัลอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ราคามักเหวี่ยงแรงกว่าพื้นฐานธุรกิจจริง และอาจไม่สะท้อนศักยภาพระยะยาวของบริษัทได้อย่างเต็มที่

 

 

 

คำเตือน: ผู้ลงทุนควรศึกษา ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน

 

คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้