ตลาดหุ้นผันผวนหนักเพราะ Trump ประกาศขึ้นภาษีสินค้าจีนอีกรอบ! หลายคนเริ่มกดขายหุ้นทั้งพอร์ต กลัวเงินหาย แต่คุณรู้หรือไม่ว่า การหนีออกจากตลาดในช่วงวิกฤตอาจทำให้คุณพลาดโอกาสทองในการลงทุน?
JP Morgan Asset Management ได้ศึกษาข้อมูลตลาด S&P 500 ย้อนหลัง 20 ปี (2002-2022) และพบข้อมูลที่น่าตกใจ:
- หากลงทุนตลอด 20 ปีเต็ม: ได้ผลตอบแทนเฉลี่ย 8.4% ต่อปี
- หากพลาด 10 วันที่ตลาดให้ผลตอบแทนดีที่สุด: ผลตอบแทนลดเหลือ 3.2% ต่อปี
- หากพลาด 20 วันที่ดีที่สุด: ผลตอบแทนเหลือเพียง 0.6% ต่อปี
- หากพลาด 30 วันที่ดีที่สุด: ผลตอบแทนติดลบ -1.5% ต่อปี
ลองคิดเป็นตัวเลขจริงๆ ดู หากลงทุน 100,000 บาท ในระยะเวลา 20 ปี:
- ลงทุนตลอด 20 ปี: เงินเติบโตเป็น 498,000 บาท
- พลาด 10 วันที่ดีที่สุด: เงินเติบโตเป็นเพียง 187,000 บาท
นั่นหมายความว่า การพลาด 10 วันเท่านั้น ทำให้คุณสูญเสียโอกาสรับผลตอบแทนไปถึง 311,000 บาท!
สิ่งที่น่าสนใจคือ "วันที่ตลาดให้ผลตอบแทนดีที่สุด" มักเกิดขึ้นใกล้กับ "วันที่ตลาดให้ผลตอบแทนแย่ที่สุด" เนื่องจากในช่วงตลาดผันผวนสูง การฟื้นตัวก็มักรวดเร็วและแรงเช่นกัน
ตัวอย่างจากวิกฤตโควิด-19 ในปี 2020:
- 16 มีนาคม 2020: ตลาดลดลง 12.0% (วันที่แย่ที่สุด)
- 24 มีนาคม 2020: ตลาดเพิ่มขึ้น 9.4% (วันที่ดีที่สุด)
- 12 มีนาคม 2020: ตลาดลดลง 9.5% (วันที่แย่อันดับ 2)
- 13 มีนาคม 2020: ตลาดเพิ่มขึ้น 9.3% (วันที่ดีอันดับ 2)
นักลงทุนที่ตกใจและขายในวันที่ตลาดลงแรงมักพลาดการฟื้นตัวที่รวดเร็วและทรงพลังในช่วงหลังจากนั้น
ในช่วงสงครามการค้าครั้งแรกของ Trump ตลาดเผชิญความผันผวนสูงเช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อมีการประกาศนโยบายภาษีนำเข้าใหม่ๆ
ข้อมูลจาก Bloomberg แสดงให้เห็นว่า ในปี 2018-2019:
- ตลาดมีวันที่ลดลงมากกว่า 2% ถึง 15 วัน
- แต่ก็มีวันที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 2% ถึง 13 วัน
ผู้ที่ตกใจกับความผันผวนและถอนเงินออกจากตลาดพลาดโอกาสรับผลตอบแทนเมื่อตลาดฟื้นตัวในปี 2019 ที่ S&P 500 ให้ผลตอบแทนถึง 31.2% เป็นปีที่ผลตอบแทนสูงที่สุดปีหนึ่งในรอบทศวรรษ
ความผิดพลาดที่พบบ่อยที่สุดคือ:
การศึกษาจาก Dalbar พบว่านักลงทุนรายย่อยโดยเฉลี่ยกลับเข้าตลาดหลังจากที่ตลาดฟื้นตัวไปแล้ว 35% ทำให้ซื้อในราคาที่แพงกว่าที่ขายออกไป
แม้แต่ผู้จัดการกองทุนมืออาชีพก็ยังทำไม่ได้อย่างสม่ำเสมอ กองทุนที่พยายามจับจังหวะตลาดมีผลตอบแทนต่ำกว่าตลาดโดยรวมถึง 1.5-2% ต่อปีโดยเฉลี่ย
สมมติว่าคุณมีเงินลงทุน 100,000 บาท ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ปี 2020:
นักลงทุน A: ตกใจขายหุ้นทั้งหมดวันที่ 16 มีนาคม 2020 (วันที่ตลาดลงแรงที่สุด) และกลับเข้าลงทุนวันที่ 1 มิถุนายน 2020
- ผลลัพธ์: พลาดการฟื้นตัว 38% ของตลาด มูลค่าเงินลงทุน ณ สิ้นปี 2022 = 111,900 บาท
นักลงทุน B: ยังคงลงทุนต่อเนื่องตลอดวิกฤต
- ผลลัพธ์: ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของตลาด มูลค่าเงินลงทุน ณ สิ้นปี 2022 = 144,200 บาท
ความแตกต่าง: 32,300 บาท (29%) จากเงินลงทุนเริ่มต้นเท่ากัน!
ตั้งเป้าหมายการลงทุนให้ชัดเจน อย่าให้ความผันผวนระยะสั้นมาทำลายแผนของคุณ
แบ่งเงินลงทุนเป็นก้อนเล็กๆ และลงทุนเป็นประจำทุกเดือน วิธีนี้จะช่วยเฉลี่ยต้นทุนและลดความกังวลจากการจับจังหวะตลาด
มีเงินสำรอง 6-12 เดือน จะช่วยให้คุณมั่นคงพอที่จะไม่ต้องกังวลกับความผันผวนระยะสั้น
ตั้งคำสั่งลงทุนอัตโนมัติ และหลีกเลี่ยงการเช็คพอร์ตลงทุนบ่อยเกินไป เพื่อลดการตัดสินใจด้วยอารมณ์
การพยายามหลบเลี่ยงวันที่ตลาดลดลงมักนำไปสู่การพลาดวันที่ตลาดให้ผลตอบแทนดีที่สุด และส่งผลให้ผลตอบแทนระยะยาวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
"Time in the market" สำคัญกว่า "Timing the market" เสมอ การอยู่ในตลาดอย่างต่อเนื่องในระยะยาวยังคงเป็นกลยุทธ์ที่ดีที่สุดสำหรับนักลงทุนทั่วไป
ในทุกครั้งที่คุณรู้สึกอยากขายเพราะตลาดผันผวน ให้นึกถึงตัวเลข "10 วัน" ไว้เสมอ และถามตัวเองว่า "ฉันกำลังจะพลาดโอกาสทองหรือไม่?"
-------------
ดาวโหลดและเปิดบัญชีกับ InnovestX วันนี้ ไม่พลาดทุกสินทรัพย์การลงทุน ทั้งหุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ กองทุนรวม อนุพันธ์ ตราสารหนี้ และสินทรัพย์ดิจิทัล
คลิก https://innovestx.onelink.me/23if/2jlpsi7b