Key Summary
Pure-Play Quantum Computing
Nuclear Energy Theme
Magnificent 7 และ Terrific 10: ผู้นำเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนตลาดโลก
Pure-Play Quantum Computing หรือ กลุ่มหุ้นที่เป็นบริษัทเฉพาะทางในการพัฒนาเทคโนโลยี quantum computing โดยตรง ซึ่งแตกต่างจาก tech giants ใหญ่ที่มี quantum เป็นเพียงส่วนหนึ่งของธุรกิจ กลุ่มบริษัทเหล่านี้อยู่ในแนวหน้าของการปฏิวัติเทคโนโลยีการประมวลผลที่จะเปลี่ยนโลกในอนาคต โดยใช้หลักการควอนตัมฟิสิกส์ในการสร้างคอมพิวเตอร์ที่สามารถแก้ปัญหาซับซ้อนได้เร็วกว่าคอมพิวเตอร์ทั่วไปหลายล้านเท่า แม้ว่าบริษัทเหล่านี้จะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นและมีความเสี่ยงสูง แต่ก็มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่สูงมากหากเทคโนโลยี quantum computing เข้าสู่การใช้งานเชิงพาณิชย์ได้สำเร็จ
- IonQ Inc. (IONQ) – ผู้นำด้าน Trapped-Ion Quantum Computing ที่มีเทคโนโลยีความแม่นยำสูงและเป็นบริษัทแรกที่นำ quantum systems เข้าสู่ major cloud platforms ทั้งหมด (AWS, Azure, Google Cloud) พร้อมความร่วมมือกับ SoftBank และสัญญาจากหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ
- Rigetti Computing Inc. (RGTI) – บริษัท Full-Stack Quantum Cloud Services ที่ใช้เทคโนโลยี Superconducting Quantum Computing เน้นการให้บริการครบวงจรตั้งแต่ hardware จนถึง cloud platform โดยมีลูกค้าเป็น NASA, US Air Force Research Laboratory และเพิ่งเปิดตัว quantum computer เชิงพาณิชย์เครื่องแรกราคา $900,000
- D-Wave Quantum Inc. (QBTS) – ผู้เชี่ยวชาญด้าน Quantum Annealing ที่มีความโดดเด่นในการแก้ปัญหา Optimization และเป็นหนึ่งในไม่กี่บริษัทที่มี commercial applications ทำงานได้จริงแล้ว โดยมี Mastercard เป็นลูกค้าที่ใช้เทคโนโลยีนี้ในปัจจุบัน
- Quantum Computing Inc. (QUBT) – บริษัทที่เน้น Quantum Software และ Hybrid Systems สำหรับการเชื่อมต่อ classical computing กับ quantum computing โดยพัฒนา Dirac series quantum processors และ solutions สำหรับ logistics, finance, healthcare และ cybersecurity แม้จะยังอยู่ในช่วง pre-revenue แต่มี potential สูงในตลาด quantum software
Nuclear Energy Theme หรือ กลุ่มหุ้นที่เกี่ยวข้องกับพลังงานนิวเคลียร์ครอบคลุมทั้งห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่การผลิตเชื้อเพลิงยูเรเนียมไปจนถึงเทคโนโลยีเครื่องปฏิกรณ์ขั้นสูง กลุ่มบริษัทเหล่านี้อยู่ในแนวหน้าของการปฏิวัติพลังงานสะอาดที่จะเปลี่ยนโลกในอนาคต โดยใช้พลังงานนิวเคลียร์ที่ให้พลังงานสะอาดแบบ baseload ตลอด 24 ชั่วโมงและไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งจำเป็นอย่างมากสำหรับการขับเคลื่อน AI data centers และเป้าหมาย net-zero emissions ของโลก แม้ว่าอุตสาหกรรมนิวเคลียร์จะต้องเผชิญกับความท้าทายด้านกฎระเบียบและการยอมรับของสังคม แต่ก็มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่สูงจากการฟื้นตัวของยุค Nuclear Renaissance ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดี Trump
รายชื่อหุ้นใน Nuclear Value Chain ที่มี market-capitalization สูงกว่า $1B:
- Uranium Mining: CCJ, NXE, UEC
- Nuclear Fuel: LEU
- Nuclear Components: BWXT
- Nuclear Utilities: CEG
- Advanced Nuclear: OKLO, SMR, NNE
- Constellation Energy (CEG) – ผู้ผลิตพลังงานคาร์บอนฟรีรายใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ ด้วย nuclear capacity กว่า 70% เพิ่งประกาศซื้อ Calpine Corp. มูลค่า $26.6 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสร้าง "ผู้ให้บริการพลังงานสะอาดรายใหญ่ที่สุดของประเทศ" และมีสัญญาโดยตรงกับ AI data centers
- Cameco Corporation (CCJ) – ผู้นำโลกด้านการผลิตยูเรเนียมที่เป็นเจ้าของเหมืองยูเรเนียมเกรดสูงที่ใหญ่ที่สุดในโลก พร้อมด้วยการถือหุ้น 49% ใน Westinghouse Electric ทำให้มี exposure ครบทั้งการผลิตเชื้อเพลิงและการสร้างเครื่องปฏิกรณ์
- BWX Technologies (BWXT) – ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตชิ้นส่วนนิวเคลียร์สำหรับรัฐบาลสหรัฐฯ รวมถึงระบบขับเคลื่อนนิวเคลียร์สำหรับเรือดำน้ำและเรือรบ กำลังขยายกำลังการผลิตเพื่อรองรับ Small Modular Reactors และเครื่องปฏิกรณ์ขั้นสูง
- Oklo Inc. (OKLO) – บริษัท advanced nuclear fission ที่ได้รับการสนับสนุนจาก Sam Altman แห่ง OpenAI พัฒนาเครื่องปฏิกรณ์ Aurora ที่สามารถผลิตไฟฟ้า 15MW และขยายได้ถึง 50MW โดยใช้เชื้อเพลิงรีไซเคิลและสามารถทำงานได้ 10 ปีก่อนเติมเชื้อเพลิงใหม่
- NexGen Energy (NXE) – บริษัทยูเรเนียมจากแคนาดาที่เน้นการสำรวจและพัฒนาในพื้นที่ Athabasca Basin โปรเจกต์หลัก Rook I ถือเป็นหนึ่งในแหล่งยูเรเนียมที่ยังไม่ได้พัฒนาที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีศักยภาพในการผลิตยูเรเนียมมหาศาล
- Uranium Energy Corp (UEC) – ผู้ผลิตยูเรเนียมของสหรัฐฯ ที่มีการดำเนินงานใน Wyoming, Texas และ Saskatchewan เพิ่งซื้อโปรเจกต์จาก Rio Tinto มูลค่า $175 ล้านดอลลาร์ มี balance sheet แข็งแกร่งด้วยเงินสด $214 ล้านดอลลาร์และไม่มีหนี้สิน
- NuScale Power (SMR) – บริษัทเดียวในสหรัฐฯ ที่ได้รับการรับรอง Small Modular Reactor design จาก NRC และคาดว่าจะได้รับใบอนุญาติสุดท้ายในปีนี้ เป็นผู้นำเทคโนโลยี SMR ที่จะมีบทบาทสำคัญในอนาคตของพลังงานนิวเคลียร์
- Centrus Energy (LEU) – ผู้เชี่ยวชาญด้านบริการเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ที่เริ่มผลิต High-Assay, Low-Enriched Uranium (HALEU) ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงรุ่นใหม่สำหรับเครื่องปฏิกรณ์ขั้นสูง โรงงาน American Centrifuge Plant เป็นโรงงานแรกในสหรัฐฯ ที่ผลิตได้ตั้งแต่ปี 1954
- NANO Nuclear Energy (NNE) – บริษัทเทคโนโลยีนิวเคลียร์ขั้นสูงที่พัฒนา micro-reactors และเทคโนโลยี ALIP สำหรับการใช้งานขนาดเล็กและกระจายอำนาจ เป็นหนึ่งในผู้นำการพัฒนาเครื่องปฏิกรณ์ขนาดจิ๋วที่สามารถติดตั้งได้ในพื้นที่จำกัด
Magnificent 7 หรือ หุ้น 7 นางฟ้าของสหรัฐ กลุ่มบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำและมีอิทธิพลต่อดัชนีสำคัญอย่าง S&P 500 และ Nasdaq อยู่ในกลุ่มเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น AI, คลาวด์คอมพิวติ้ง และอีคอมเมิร์ซ ที่สามารถสร้างรายได้และผลกำไรอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทในกลุ่มนี้มีความสามารถในการสร้างนวัตกรรมและขยายขอบเขตธุรกิจอย่างรวดเร็ว ทำให้มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของโลก
-
Apple Inc. (AAPL) – ผู้นำด้านเทคโนโลยีและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มี Ecosystem แข็งแกร่ง เช่น iPhone iPad
-
Microsoft Corp. (MSFT) – ยักษ์ใหญ่ในด้านซอฟต์แวร์ คลาวด์คอมพิวติ้ง (Azure) และเทคโนโลยี AI
-
Alphabet Inc. (GOOGL) – บริษัทแม่ของ Google ครอบคลุมธุรกิจโฆษณาดิจิทัล ค้นหาข้อมูล และคลาวด์ โดยมีแพลตฟอร์มที่ครองตลาดอย่าง YouTube และ Google Search
-
Amazon.com Inc. (AMZN) – ผู้นำในตลาดอีคอมเมิร์ซและบริการคลาวด์ (AWS) ที่มีส่วนแบ่งตลาดสูงและขยายไปยังธุรกิจใหม่ เช่น AI และโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล
-
Nvidia Corp. (NVDA) – ผู้นำด้านชิปเซ็ตและการประมวลผลกราฟิก (GPU) โดยมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อน AI, การเล่นเกม และการประมวลผลข้อมูล
-
Meta Platforms Inc. (META) – เจ้าของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียชั้นนำ เช่น Facebook, Instagram และ WhatsApp ที่ขยายไปสู่ Metaverse และโฆษณาดิจิทัล
-
Tesla Inc. (TSLA) – ผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และเทคโนโลยีพลังงานสะอาด โดยมีนวัตกรรมการขับเคลื่อนอัตโนมัติและระบบแบตเตอรี่
Terrific 10 กลุ่มบริษัทชั้นของจีนที่มีบทบาทสำคัญในด้านเทคโนโลยี อีคอมเมิร์ซ ฟินเทค และยานยนต์ไฟฟ้า โดยบริษัทเหล่านี้มีการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องและมีศักยภาพในการเติบโตสูงจากความต้องการของผู้บริโภคในจีนและทั่วโลก ประกอบไปด้วยบริษัทที่มีความโดดเด่นในหลากหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่เทคโนโลยีสมาร์ทโฟนไปจนถึงบริการคลาวด์และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย
- Tencent Holdings Ltd. (0700.HK) ยักษ์ใหญ่ด้านโซเชียลมีเดียและเกมออนไลน์ เจ้าของ WeChat และ Tencent Games ที่ครอบคลุมบริการด้านการชำระเงินดิจิทัล (WeChat Pay) และลงทุนใน AI, Cloud Computing และ Metaverse
- Xiaomi Corp. (1810.HK) ผู้นำในตลาดสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ IoT (Internet of Things) ที่มี Ecosystem เชื่อมต่อผลิตภัณฑ์หลากหลาย พร้อมขยายธุรกิจสู่ AIoT (AI + IoT) เพื่อเพิ่มมูลค่าและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์
- JD.com Inc. (9618.HK) แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่ที่เน้นการจัดการซัพพลายเชนด้วย ระบบโลจิสติกส์อัตโนมัติ และขยายสู่เทคโนโลยี Cloud, FinTech และธุรกิจค้าปลีกอัจฉริยะ
- Baidu Inc. (9888.HK) ผู้นำด้านการค้นหาข้อมูลออนไลน์และพัฒนาเทคโนโลยี AI และ Autonomous Driving โดยลงทุนในแพลตฟอร์ม Baidu Apollo สำหรับการขับขี่อัตโนมัติและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล
- Alibaba Group Holding Ltd. (9988.HK) เจ้าของแพลตฟอร์ม Taobao, Tmall และ Alibaba Cloud ที่มีบทบาทสำคัญในอีคอมเมิร์ซและคลาวด์คอมพิวติ้งของจีน โดยเน้นไปที่การขยายธุรกิจข้ามพรมแดนและการให้บริการดิจิทัลครบวงจร
- Meituan Dianping (3690.HK) แพลตฟอร์ม O2O (Online-to-Offline) อันดับหนึ่งของจีน ครอบคลุมบริการส่งอาหาร การท่องเที่ยว และบริการไลฟ์สไตล์ โดยมีการพัฒนา AI และ Big Data เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ
- BYD Company Ltd. (1211.HK) ผู้นำในอุตสาหกรรม ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และแบตเตอรี่ลิเธียมที่มีส่วนแบ่งตลาดสูงในจีน พร้อมขยายไปยังตลาดต่างประเทศ และพัฒนารถยนต์พลังงานสะอาดอย่างต่อเนื่อง
- SMIC (Semiconductor Manufacturing International Corporation) (981.HK) ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ที่สุดของจีนที่เน้นการผลิตชิปขั้นสูงและมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของจีน
- NetEase Inc. (9999.HK) ผู้พัฒนาเกมออนไลน์รายใหญ่ที่ขยายไปสู่ธุรกิจ เพลงดิจิทัล การศึกษาออนไลน์ และบริการคลาวด์ โดยใช้ AI ในการพัฒนาแพลตฟอร์มและเพิ่มประสบการณ์ผู้ใช้
- Geely Automobile Holdings Ltd. (0175.HK) ผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของจีนที่ขยายสู่ตลาดยานยนต์ไฟฟ้าและเทคโนโลยีอัจฉริยะ โดยมีการลงทุนใน EV และระบบขับขี่อัตโนมัติ เพื่อแข่งขันในอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต