Key Summary
Magnificent 7 และ Terrific 10: ผู้นำเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนตลาดโลก
Magnificent 7 หรือ หุ้น 7 นางฟ้าของสหรัฐ กลุ่มบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำและมีอิทธิพลต่อดัชนีสำคัญอย่าง S&P 500 และ Nasdaq อยู่ในกลุ่มเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น AI, คลาวด์คอมพิวติ้ง และอีคอมเมิร์ซ ที่สามารถสร้างรายได้และผลกำไรอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทในกลุ่มนี้มีความสามารถในการสร้างนวัตกรรมและขยายขอบเขตธุรกิจอย่างรวดเร็ว ทำให้มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของโลก
-
Apple Inc. (AAPL) – ผู้นำด้านเทคโนโลยีและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มี Ecosystem แข็งแกร่ง เช่น iPhone iPad
-
Microsoft Corp. (MSFT) – ยักษ์ใหญ่ในด้านซอฟต์แวร์ คลาวด์คอมพิวติ้ง (Azure) และเทคโนโลยี AI
-
Alphabet Inc. (GOOGL) – บริษัทแม่ของ Google ครอบคลุมธุรกิจโฆษณาดิจิทัล ค้นหาข้อมูล และคลาวด์ โดยมีแพลตฟอร์มที่ครองตลาดอย่าง YouTube และ Google Search
-
Amazon.com Inc. (AMZN) – ผู้นำในตลาดอีคอมเมิร์ซและบริการคลาวด์ (AWS) ที่มีส่วนแบ่งตลาดสูงและขยายไปยังธุรกิจใหม่ เช่น AI และโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล
-
Nvidia Corp. (NVDA) – ผู้นำด้านชิปเซ็ตและการประมวลผลกราฟิก (GPU) โดยมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อน AI, การเล่นเกม และการประมวลผลข้อมูล
-
Meta Platforms Inc. (META) – เจ้าของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียชั้นนำ เช่น Facebook, Instagram และ WhatsApp ที่ขยายไปสู่ Metaverse และโฆษณาดิจิทัล
-
Tesla Inc. (TSLA) – ผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และเทคโนโลยีพลังงานสะอาด โดยมีนวัตกรรมการขับเคลื่อนอัตโนมัติและระบบแบตเตอรี่
Terrific 10 กลุ่มบริษัทชั้นของจีนที่มีบทบาทสำคัญในด้านเทคโนโลยี อีคอมเมิร์ซ ฟินเทค และยานยนต์ไฟฟ้า โดยบริษัทเหล่านี้มีการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องและมีศักยภาพในการเติบโตสูงจากความต้องการของผู้บริโภคในจีนและทั่วโลก ประกอบไปด้วยบริษัทที่มีความโดดเด่นในหลากหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่เทคโนโลยีสมาร์ทโฟนไปจนถึงบริการคลาวด์และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย
- Tencent Holdings Ltd. (0700.HK) ยักษ์ใหญ่ด้านโซเชียลมีเดียและเกมออนไลน์ เจ้าของ WeChat และ Tencent Games ที่ครอบคลุมบริการด้านการชำระเงินดิจิทัล (WeChat Pay) และลงทุนใน AI, Cloud Computing และ Metaverse
- Xiaomi Corp. (1810.HK) ผู้นำในตลาดสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ IoT (Internet of Things) ที่มี Ecosystem เชื่อมต่อผลิตภัณฑ์หลากหลาย พร้อมขยายธุรกิจสู่ AIoT (AI + IoT) เพื่อเพิ่มมูลค่าและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์
- JD.com Inc. (9618.HK) แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่ที่เน้นการจัดการซัพพลายเชนด้วย ระบบโลจิสติกส์อัตโนมัติ และขยายสู่เทคโนโลยี Cloud, FinTech และธุรกิจค้าปลีกอัจฉริยะ
- Baidu Inc. (9888.HK) ผู้นำด้านการค้นหาข้อมูลออนไลน์และพัฒนาเทคโนโลยี AI และ Autonomous Driving โดยลงทุนในแพลตฟอร์ม Baidu Apollo สำหรับการขับขี่อัตโนมัติและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล
- Alibaba Group Holding Ltd. (9988.HK) เจ้าของแพลตฟอร์ม Taobao, Tmall และ Alibaba Cloud ที่มีบทบาทสำคัญในอีคอมเมิร์ซและคลาวด์คอมพิวติ้งของจีน โดยเน้นไปที่การขยายธุรกิจข้ามพรมแดนและการให้บริการดิจิทัลครบวงจร
- Meituan Dianping (3690.HK) แพลตฟอร์ม O2O (Online-to-Offline) อันดับหนึ่งของจีน ครอบคลุมบริการส่งอาหาร การท่องเที่ยว และบริการไลฟ์สไตล์ โดยมีการพัฒนา AI และ Big Data เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ
- BYD Company Ltd. (1211.HK) ผู้นำในอุตสาหกรรม ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และแบตเตอรี่ลิเธียมที่มีส่วนแบ่งตลาดสูงในจีน พร้อมขยายไปยังตลาดต่างประเทศ และพัฒนารถยนต์พลังงานสะอาดอย่างต่อเนื่อง
- SMIC (Semiconductor Manufacturing International Corporation) (981.HK) ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ที่สุดของจีนที่เน้นการผลิตชิปขั้นสูงและมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของจีน
- NetEase Inc. (9999.HK) ผู้พัฒนาเกมออนไลน์รายใหญ่ที่ขยายไปสู่ธุรกิจ เพลงดิจิทัล การศึกษาออนไลน์ และบริการคลาวด์ โดยใช้ AI ในการพัฒนาแพลตฟอร์มและเพิ่มประสบการณ์ผู้ใช้
- Geely Automobile Holdings Ltd. (0175.HK) ผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของจีนที่ขยายสู่ตลาดยานยนต์ไฟฟ้าและเทคโนโลยีอัจฉริยะ โดยมีการลงทุนใน EV และระบบขับขี่อัตโนมัติ เพื่อแข่งขันในอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต