สรุปสาระสำคัญ
ตามข่าว มี 2 ทางเลือกปรับการจ่ายค่ารักษาสำหรับปีงบประมาณ 2568 โดยสาระสำคัญคือแต่ละทางเลือกกำหนดอัตรา 12,000 บาท/ AdjRW เหมือนกัน แต่ต่างกันที่การจัดสรรงบประมาณของสำนักงานประกันสังคม (สปส.)
Healthcare: อัพเดทการประชุมแนวทางการค่ารักษาพยาบาลโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง (RW>2) => ชัดเจนขึ้นว่าเป็นอัตรา 12,000 บาท/ AdjRW จะสรุปอีกทีในการประชุมวันที่ 6 ธ.ค. (https://www.hfocus.org/content/2024/12/32401)
ทางเลือกที่ 1 กรณีจ่ายอัตรา 12,000 บาท/ AdjRW โดยแบ่งจ่ายในสัดส่วน 90% และ 10% ไม่จำกัดวงเงิน Global budget จะทำให้ค่าบริการทางการแพทย์ผู้ป่วยในเพิ่มเป็น 13,652.6 ล้านบาทในปีงบประมาณ 2568
ทางเลือกที่ 2 กรณีจ่ายอัตรา 12,000 บาท/ AdjRW จ่ายภายใต้วงเงิน 870 บาทต่อคน หากไม่เพียงพอ สปส.พิจารณาทบทวนอีกครั้ง ค่าใช้จ่ายจะเพิ่มเป็น 12,492.3 ล้านบาทในปีงบประมาณ 2568
- แหล่งข่าวจากที่ประชุมเผยว่า “หากจะให้เป็นธรรมมากที่สุด ควรเป็นระบบฟิกค่าบริการทางการแพทย์ผู้ป่วยในที่ 12,000 บาทต่อAdjRW เป็นปลายปิด ประเด็นที่เห็นชัดคือ เงินกองทุนจะติดลบเพิ่มขึ้นแน่นอน แต่จะไม่ปรับเลยก็จะไม่เป็นธรรม สิ่งสำคัญคือ เมื่อปรับค่าบริการ ผู้ประกันตนต้องได้รับการบริการที่ดี และประกันสังคมต้องมีระบบ Audit การตรวจสอบการเบิกจ่ายที่เข้มงวดไม่ให้เกิดช่องโหว่การเบิกจ่ายที่อาจไม่จำเป็น ซึ่งการหารือไม่ได้คัดค้านแต่ต้องมีระบบ Audit ทั้งก่อนและหลังเบิกจ่าย”
มุมมองของเรา
- เรามองว่าพัฒนาการเชิงบวกนี้ สะท้อนว่าความไม่แน่นอนของรายได้ประกันสังคมเรื่องการจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง (RW>2) ของโรงพยาบาลเอกชนจะลดลง โดยคาดว่าจะมีมติอย่างเป็นทางการก่อนถึงกำหนดที่โรงพยาบาลเอกชนจะต้องเซ็นสัญญาสำหรับการให้บริการ SC ในปี 2568
- เรามองประเด็นนี้เป็นบวกต่อ รพ. ที่รับบริการประกันสังคม โดยในกลุ่มนี้เราชอบ BCH มากที่สุด เราแนะนำ OUTPERFORM สำหรับ BCH ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 อิงวิธี DCF ที่ 21.5 บาท/หุ้น