Digital Assets Weekly Pulse : ตลาดคริปโทยู่ในระดับตัดสินใจหลังแรงเทขายเริ่มอ่อนลง Fed ส่งสัญญาณยุติ QT อาจหนุนการฟื้นตัวในระยะต่อไป (Period 20-24 October 2025)
ภาพรวมตลาดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ตลาดการเงินทั่วโลกเผชิญแรงกดดันจากสองปัจจัยหลัก ได้แก่
(1) ปัญหาหนี้เสียของกลุ่ม ธนาคารภูมิภาคสหรัฐฯ (Regional Banks)
(2) ความตึงเครียดทางการค้าระหว่าง สหรัฐฯ–จีน ที่กลับมารุนแรงอีกครั้งส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกร่วงแรง รวมถึง ตลาดคริปโตฯ ที่เกิดแรงเทขายจนมูลค่าหายหลายแสนล้านดอลลาร์ โดย Bitcoin ร่วงแตะจุดต่ำสุดราว $102,000 ก่อนดีดกลับสู่ $109,000 ส่วน Ethereum เคลื่อนไหวใกล้ $3,950 พร้อมกระแสเงินทุนไหลออกสุทธิจาก
-
Spot Bitcoin ETF: –$1.23B
-
Spot Ethereum ETF: –$311.8M
อย่างไรก็ดี ความเชื่อมั่นระดับประเทศต่อสินทรัพย์ดิจิทัลเริ่มเพิ่มขึ้น เช่น
-
รัฐ Florida เสนอร่างกฎหมายให้กองทุนบำเหน็จบำนาญลงทุนใน Bitcoin และ Crypto ETFs ได้สูงสุด 10%
-
BlackRock เตรียมเปิด กองทุนตลาดเงิน (Money Market Fund) ภายใต้กฎหมาย GENIUS Act เพื่อรองรับผู้ออก Stablecoin
สะท้อนการเร่งผสานสินทรัพย์ดิจิทัลเข้าสู่ระบบการเงินที่ได้รับการกำกับดูแลมากขึ้น
สัปดาห์นี้
คาดว่าตลาดคริปโตทั่วโลกจะยังคงมีภาวะ “ผันผวนสูง” จากความไม่แน่นอนของความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ–จีนที่ยังไม่คลี่คลาย แม้จะมีแรงหนุนบางส่วนจาก ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่ส่งสัญญาณใกล้ยุติมาตรการ QT (Quantitative Tightening) และมีแนวโน้มปรับลดดอกเบี้ยในระยะถัดไป อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามทั้ง สถานการณ์การค้าระหว่าง สหรัฐฯ–จีน และ ท่าทีภาครัฐต่อสินทรัพย์ดิจิทัล อย่างใกล้ชิด เพราะแม้เริ่มเห็นแรงซื้อกลับเข้ามาในตลาด แต่ สัญญาณการฟื้นตัวยังไม่ชัดเจน
สัญญาณจาก On-chain: แรงซื้อจากฝั่งสหรัฐฯ เริ่มชะลอตัวลง
1. Coinbase Premium Gap ลดลงแรงในเดือนนี้ : บ่งชี้ว่านักลงทุนฝั่งสหรัฐฯ ที่เทรดผ่าน Coinbase เริ่มชะลอการเข้าซื้อ Bitcoin หลังแรงเก็งกำไรช่วงก่อนหน้าเริ่มคลายตัว
2.Premium Gap พลิกติดลบ ขณะ BTC ร่วงจาก $120K → $102K : สะท้อนแรงขายนำตลาดจากนักลงทุนสหรัฐฯ ซึ่งมักเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลต่อทิศทางราคาในระยะสั้น
3.ตลาดอยู่ในช่วงประเมินทิศทางใหม่ ว่าการชะลอตัวครั้งนี้เป็นเพียง “พักฐานก่อนรีบาวด์” หรือเป็นสัญญาณเริ่มต้นของ “รอบปรับฐานลึก” ก่อนเข้าสู่ช่วงฟื้นตัวครั้งต่อไป
Bitcoin อยู่ในจุดตัดสินใจสำคัญ
ทิศทางต่อจากนี้มี 2 กรณีหลัก
Case 1: BTC ทำจุดสูงสุดใหม่ (New All-Time High) - BTC.D เพิ่มขึ้น → Altcoin Season อาจเริ่มตามมา
Case 2: BTC ปรับฐานลงสู่เส้น 50-week SMA - BTC.D เพิ่มขึ้น → Altcoin Season อาจยังไม่เกิดขึ้น
ปัจจัยบวกระยะกลาง: สัญญาณ Fed ใกล้หยุด QT– Altcoin Season อาจกลับมา
ในอดีต เมื่อ Fed หยุดทำ QT (ดูดสภาพคล่อง) มักเป็นจุดเริ่มต้นของ “รอบฟื้นตัวใหม่” โดยเฉพาะในตลาด Altcoins
สังเกตจากอัตราส่วน TOTAL3/BTC ที่เพิ่มขึ้น สะท้อน Altcoins เริ่ม Outperform Bitcoin
ส่วนหนึ่งมาจากการหมุนเงินจาก BTC เข้าสู่เหรียญรองเพื่อเก็งกำไรมากขึ้น
คำเตือน: ผู้ลงทุนควรศึกษา ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
