ตลาดหุ้นโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ตลาดได้รับแรงหนุนจากความคลี่คลายต่อการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กสิโกและแคนานดาของสหรัฐ ท่าทีของ รมว.คลังสหรัฐที่มีมุมมองต่อการลดลงของ Yield รวมไปถึงตัวเลขในช่วงวันหยุดตรุษจีนที่ออกมาไม่ได้แย่อย่างที่ตลาดกังวล ในขณะที่ผลประกอบการของสหรัฐและยุโรปมีความกังวลให้ตลาดมากนักแม้ว่าจะมีผลกระทบจากกำลังซื้อ รวมไปถึง ISM ภาคบริการสหรัฐและตำแหน่งงานเปิดใหม่ลาการจ้างงานนอกภาคการเกษตรออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์
บทสรุป
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีแรงซื้อกลับในตราสารหนี้จากปัจจัยภายนอกที่ผันผวนและท่าทีของรัฐบาลสหรัฐที่ต้องการให้ Yield ลดลง ด้านกลุ่มการเงินมีแรงซื้อจากมาตรการสนับสนุนของทรัมป์และแนวโน้มดอกเบี้ยที่ลดลงช้าแต่เศรษฐกิจยังแข็งแรง ขณะที่ตลาดหุ้นจีนมีแรงซื้อจากมาตรการสนับสนุนตลาดและท่าทีทรัมป์ไม่กดดันจีนมากอย่างที่ตลาดกังวล รวมถึงตัวเลขในช่วงวันหยุดตรุษจีนไม่ได้แย่อย่างที่ตลาดกังวล
ปัจจัยที่เราแนะติดตามในสัปดาห์นี้ 1) ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่าง CPI PPI ดัชนียอดค้าปลีก และดัชนีผลผลิตภาค อุตสาหกรรม 2) ตัวเลขเศรษฐกิจของยูโรโซน อย่างการผลิตภาคอุตสาหกรรมและตัวเลข GDP 4Q24 3) ดัชนี PPI ของญี่ปุ่น 4) ผลประกอบการ Adyen, Airbnb, AIG, Applied Materials, Barclay, BP, Coca-Cola, Coinbase, CVS Health, Datadog, Gilead Science, Heineken, Hermes, Honda, Kraft Heinz, Marriott, McDonald, Nestle, Shopify, Siemens, SoftBank, Sony, Unilever
ภาพรวม – ภาพเศรษฐกิจมหภาคยังมีภาพที่ดีแต่ก็มีสัญญาณการชะลอตัวอยู่บ้างซึ่งไม่ได้กดดันตลาดมากนัก นอกจากนั้นตลาดได้รับแรงหนุนจากการเลื่อนการบังคับใช้การขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ นอกจากนั้นภาพของเศรษฐกิจจีนมีสัญญาณของการฟื้นตัวที่ดีขึ้นในช่วงวันหยุดตรุษจีนแต่ยังต้องอาศัยมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ทำให้เรามองว่าตลาดไม่ได้มี Downside จากประเด็นเศรษฐกิจมากนัก ในช่วงนี้อยู่ในช่วงการประกาศผลประกอบการซึ่งจะทำให้น้ำหนักของผลตอบแทนและความผันผวนอยู่บนภาพแนวโน้มเศรษฐกิจจุลภาคมากกว่าซึ่งเป็นภาพสะท้อนของภาพเศรษฐกิจที่ดีกว่า
กลยุทธ์ – สัปดาห์นี้ (10-14 ก.พ.) มองว่า 1) แนวโน้มเงินเฟ้อของสหรัฐเริ่มลดลงช้า ในขณืที่ยอดค้าปลีกชะลอตัวลงจากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย 2) GDP อังกฤษมีแนวโน้มหดตัวลงและมีความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอย 3) การเพิ่มขึ้นของการปล่อยกู้จะเร่งตัวขึ้นเป็นผลจากการออกพันธบัตรเพิ่มขึ้น 4) ธนาคารกลางอินเดียและฟิลิปปินส์มีแนวโน้มลดดอกเบี้ย 25bps 5) ท่าทีของประธานธนาคารกลางสหรัฐต่อแนวโน้มดอกเบี้ย 6) ผลประกอบการในสหรัฐที่มีแนวโน้มดี เรามองว่าผลประกอบการมีแนวโน้มดีจะช่วยสนับสนุนได้ต่อหลังตลาดย่อตัวลง
หุ้นแนะนำ – เราแนะนำหุ้นที่คาดว่าผลประกอบการดีใน 4Q24 และมีแนวโน้มดีใน 2025 อย่าง SHOP และ PANW