ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ทำสถิติสูงสุดใหม่ เนื่องจากนักลงทุนมองว่าข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่ถูกปรับแก้ซึ่งแสดงให้เห็นถึงตลาดแรงงานที่อ่อนแอลง ซึ่งจะช่วยให้การแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) สูงขึ้น
กระแสเงินในวันที่ 8 ก.ย. 2025 พบว่า 1) กระแสเงินในตราสารหนี้ผันผวน 2) มีเงินไหลเข้าหุ้นโลก 3) โลหะมีค่าเกิดแรงขายทำกำไรเป็นระยะ 4) มีแรงซื้อในตลาดหุ้นญี่ปุ่น 5) มีแรงขายในกลุ่มการเงินมากขึ้น 6) มีแรงขายในตลาดหุ้นจีน 7) มีแรงขายในกลุ่มพลังงาน 8) มีแรงขายในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี 9) มีแรงซื้อในหุ้นขนาดเล็กจากแนวโน้มการลดดอกเบี้ย
Apple ราคาหุ้นร่วงหลังเปิดตัว iPhone 17 ที่ตลาดมองว่านวัตกรรมและ AI ยังไม่โดดเด่น ทำให้แนวโน้ม AAPL ยังเผชิญความเสี่ยงจากการแข่งขันและต้นทุนสูง สำหรับในช่วงสั้นเราแนะเลี่ยงลงทุนสำหรับ AAPL แต่อย่างไรก็ดีแนะเก็งกำไรได้ในหุ้นซัพพลายเชนที่ได้อานิสงส์การอัปเกรดสเปค เช่น Hon Hai, TSMC
ORCL 1Q26 รายได้โต +12% YoY แม้พลาดเป้าเล็กน้อย แต่หุ้นพุ่งกว่า 30% จาก RPO ที่โต +359%, แนวโน้ม OCI จะโต +77% ใน FY26 และการเปิดตัว “Oracle AI Database” หนุนการเติบโตระยะยาว เรามอง ORCL ยังน่าลงทุน แต่ควรรอจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาหุ้นย่อตัว
MSFT เตรียมหันไปใช้ AI ของ Anthropic แทน OpenAI ในบางฟีเจอร์ Copilot เหตุจากปัญหาเจรจาและมองว่า Anthropic ทำงานละเอียดกว่าบางด้าน ด้าน NVDA เปิดตัวชิปรุ่นใหม่ Rubin CPX รองรับงาน AI หนัก พร้อมได้ใบอนุญาตขาย H20 ในจีน แม้ยังเผชิญแรงกดดันด้านกฎระเบียบ เรามอง NVDA, MSFT ยังเป็นหุ้นธีม AI เด่นที่น่าลงทุนเมื่อราคาย่อตัว
ยอดดาวน์โหลด App ในเดือน ส.ค. กลุ่ม E-commerce ทั่วไป โดยรวมแข็งแกร่ง ในขณะที่กลุ่มเสื้อผ้า อ่อนแอลง อาจบ่งชี้ว่าบริษัทกำลังสูญเสียความสามารถในการดึงดูดลูกค้าใหม่ นอกจากนี้ยังโดนกดดันจากภาษีนำเข้า และการแข่งขันด้านราคา เราแนะอยู่ในกลุ่มที่มีรายได้จากสินค้าจำเป็นสูง และมีฐานลูกค้าแข็งแกร่ง อย่าง WMT และ COST
Boeing ส่งมอบเครื่องบินเดือน ส.ค. 57 ลำ เพิ่มขึ้นจาก 48 ลำในเดือน ก.ค. ด้าน Airbus ส่งมอบเครื่องบินเดือน ส.ค. 61 ลำ ลดลงจาก 67 ลำในเดือน ก.ค. โดยสรุป Boeing มีแนวโน้มดีขึ้น แต่ยังมีปัญหาเฉพาะเรื่องการผลิต ที่เป็นปัจจัยต้องติดตาม แต่โดยรวมเรายังชอบ Airbus มากกว่า Boeing ที่มีความชัดเจนในการทำกำไรมากกว่า
CATL เตรียมกลับมาเดินเครื่องเหมือง Jianxiawo เร็วกว่าคาด กดดันราคาลิเทียมปรับลงและสร้างความกังวลต่อการปรับสมดุลตลาด ระยะสั้นแนะระวังหุ้นลิเทียม แต่ระยะกลาง–ยาวยังได้แรงหนุนจากดีมานด์ EV และพลังงานสะอาด ประเมินหากหุ้น DR: CATL23 มีการปรับตัวลงมองเป็นจังหวะในการทยอยเข้าสะสม