1.ฟิวเจอร์สปรับตัวขึ้น 0.5% หลัง S&P500 เข้าเขต correction เมื่อคืนนี้
2.Alibaba เปิดตัวแอป AI "Quark" เวอร์ชันใหม่ เสริมฟีเจอร์ล้ำ
3.Tesla เตือนผลกระทบจากนโยบายภาษีนำเข้าของทรัมป์
4.จับตาดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค U. of Michigan
5.ราคาน้ำมันฟื้นตัว หลังปูตินแนะต้องปรับข้อเสนอหยุดยิงของสหรัฐ
🌙 เรื่องต้องรู้ก่อนเปิดตลาดสหรัฐคืนนี้ 14 มีนาคม 2568
1. ฟิวเจอร์สตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นในเช้าวันศุกร์ หลังจากที่ดัชนี S&P 500 ดิ่งลงสู่เขตคอร์เรคชั่นในเซสชั่นก่อนหน้า โดยนักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับแผนการขึ้นภาษีนำเข้าของประธานาธิบดีทรัมป์ ฟิวเจอร์สของ S&P 500 ปรับตัวขึ้น 0.5%, Nasdaq 100 เพิ่มขึ้น 0.6% และดาวโจนส์ฟิวเจอร์สปรับตัวขึ้น 0.3% ทั้งนี้ S&P 500 ดิ่งลง 1.4% เมื่อวันพฤหัสบดี ส่งผลให้ดัชนีลดลง 10.1% จากจุดสูงสุดที่ทำไว้เมื่อไม่ถึงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ภาวะตลาดที่ผันผวนนี้มีสาเหตุหลักมาจากการประกาศนโยบายการค้าที่ไม่แน่นอนจากทรัมป์และความกังวลเกี่ยวกับการปลดพนักงานรัฐบาลกลาง อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ในคณะบริหารของทรัมป์ยังคงยืนยันว่านโยบายของพวกเขา โดยเฉพาะการขึ้นภาษีนำเข้ากับทั้งมิตรและศัตรู เป็นขั้นตอนที่จำเป็นเพื่อแก้ไขความไม่สมดุลทางการค้าและกระตุ้นการเติบโตของการจ้างงาน โดยรัฐมนตรีคลัง สก็อตต์ เบสเซนท์ กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่าเขา "ไม่กังวลเกี่ยวกับความผันผวนเล็กน้อยในช่วงสามสัปดาห์"
2. Alibaba เปิดตัวเวอร์ชันใหม่ของแอปผู้ช่วย AI "Quark" ที่ใช้โมเดล AI ภายในบริษัท "Qwen" โดยเพิ่มฟีเจอร์แชทบอท การคิดวิเคราะห์เชิงลึก และการทำงานอัตโนมัติแบบครบวงจร แอป Quark ใหม่นี้มีความสามารถในการสร้างภาพ วางแผนการเดินทาง และเขียนบทความจากภาพได้ ทั้งนี้ InnovestX Research ประเมินว่าการพัฒนา Quark จะส่งผลในหลายมิติ โดยในระยะสั้น การสร้างรายได้ของ BABA ในจีนยังเผชิญความท้าทายเนื่องจากการแข่งขันที่สูง แต่ในระยะยาว พัฒนาการด้าน AI ที่แข็งแกร่งนี้อาจทำให้ Alibaba เป็นหนึ่งในบริษัทที่จะได้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นจากการแข่งขันด้าน AI ในขณะที่ Baidu ซึ่งเป็นเสือเครื่องมือค้นหาหลักอาจได้รับผลกระทบเชิงลบจากการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้น ดังนั้น InnovestX ยังมองว่าสามารถเก็งกำไรในหุ้น Alibaba ได้
3. Tesla ได้เตือนว่าบริษัทอาจได้รับผลกระทบจากการที่ประเทศต่างๆ ออกมาตรการตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าเป็นการตอบสนองต่อนโยบายภาษีของทรัมป์ บริษัทรถยนต์ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ ซึ่งมี อีลอน มัสก์ เป็น CEO และเป็นที่ปรึกษาใกล้ชิดของทรัมป์ ได้ออกจดหมายเตือนไปยังผู้แทนการค้าสหรัฐ โดยระบุว่า "ในฐานะผู้ผลิตและผู้ส่งออกของสหรัฐ Tesla ขอให้ USTR พิจารณาผลกระทบในห่วงโซ่ธุรกิจจากมาตรการที่เสนอเพื่อจัดการกับการค้าที่ไม่เป็นธรรม" บริษัทชี้ให้เห็นว่า การดำเนินการทางการค้าของสหรัฐในอดีตได้นำไปสู่ "ปฏิกิริยาโต้ตอบทันทีจากประเทศเป้าหมาย" รวมถึงการเพิ่มภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าไปยังประเทศเหล่านั้น ซึ่งเพิ่มต้นทุนการผลิตรถยนต์ในสหรัฐและค่าใช้จ่ายสำหรับรถยนต์เหล่านั้นเมื่อส่งออก ส่งผลให้เกิด "ตลาดระหว่างประเทศที่แข่งขันน้อยลงสำหรับผู้ผลิตในสหรัฐ" ทรัมป์ได้เสนอการขึ้นภาษีอย่างรุนแรงกับรถยนต์และชิ้นส่วนที่ผลิตทั่วโลกตั้งแต่วันที่ 2 เมษายนเพื่อส่งเสริมการผลิตรถยนต์ภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม Tesla ระบุว่า แม้จะมีการปรับห่วงโซ่อุปทานให้เป็นท้องถิ่นมากขึ้น แต่ชิ้นส่วนบางอย่างยัง "ยากหรือเป็นไปไม่ได้ที่จะหาแหล่งผลิตภายในสหรัฐ"
4. ตลาดจับตาดูตัวเลขล่าสุดของความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน ขณะที่นักเทรดหวังที่จะได้ข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานะของผู้บริโภคอเมริกันที่ซบเซาเมื่อเร็วๆ นี้ คาดการณ์ว่าตัวเลขเบื้องต้นสำหรับเดือนมีนาคมจะปรับตัวลดลงเล็กน้อย ในเดือนกุมภาพันธ์ ความเชื่อมั่นลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบเจ็ดเดือนเนื่องจากความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบเชิงลบของภาษีนำเข้าของทรัมป์ต่อกำลังซื้อ ที่น่าสังเกตคือ การสำรวจพบว่าการลดลงเกิดขึ้นในทุกกลุ่มอายุและความมั่งคั่ง รวมถึงในทุกฝ่ายการเมือง ความคาดหวังเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อในปีหน้าพุ่งสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2566 ในขณะที่คาดการณ์ว่าการเพิ่มขึ้นของราคาในอีกห้าปีจะสูงขึ้นสู่จุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2551 ตัวเลขเหล่านี้ยิ่งเพิ่มความกังวลในวอลล์สตรีทว่าภาษีนำเข้าของทรัมป์ ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์เตือนว่าอาจผลักดันให้แรงกดดันเงินเฟ้อที่เพิ่งลดลงกลับมาสูงขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจในวงกว้าง ข้อมูลในสัปดาห์นี้บ่งชี้ว่าทั้งการเติบโตของราคาผู้บริโภคและผู้ผลิตชะลอตัวลงในเดือนกุมภาพันธ์ แม้ว่าความกังวลยังคงมีอยู่ว่าผลกระทบของภาษีนำเข้ายังมาไม่ถึง
5. ราคาน้ำมันฟื้นตัวในวันศุกร์หลังจากที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียแนะนำว่าข้อเสนอหยุดยิงของสหรัฐในสงครามยูเครนจำเป็นต้องได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติม ปูตินกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า แม้ว่ารัสเซียสนับสนุนแผนดังกล่าวโดยหลักการ แต่จำเป็นต้องมีการชี้แจงและเงื่อนไขเพิ่มเติมในหลายประเด็นก่อนที่การสู้รบจะยุติลงได้ สำหรับตลาดน้ำมันดิบ นักเทรดกำลังพยายามประเมินว่าข้อตกลงอาจนำไปสู่การยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียและการกลับมาของการส่งพลังงานสู่ตลาดโลกในที่สุดหรือไม่ ซึ่งในทางทฤษฎี เหตุการณ์ดังกล่าวอาจทำให้ราคาน้ำมันลดลง ในที่อื่นๆ ทองคำยังคงแกว่งตัวใกล้ระดับสูงสุดตลอดกาลเนื่องจากความตึงเครียดทางการค้าที่เพิ่มขึ้นส่งเสริมความน่าดึงดูดของทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ในขณะเดียวกัน บิทคอยน์มีแนวโน้มที่จะลดลงเกือบ 5% ในสัปดาห์นี้ โดยความเสี่ยงในตลาดยังคงสูงและนักลงทุนระมัดระวังก่อนการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐในสัปดาห์หน้า
ที่มา: Investing.com และ InnvestX Research
แปลและเรียบเรียง: Content Team, InnovestX
📱 ติดตามโอกาสการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ พร้อมบทวิเคราะห์คุณภาพจากทีมผู้เชี่ยวชาญ InnovestX Research -- ดาวน์โหลดแอปและเปิดบัญชีได้ที่: https://innovestx.onelink.me/23if/u2qmpt6r