จากความก้าวหน้าของเทคโนโลยี Quantum Computing ที่เริ่มเข้าสู่จุดเปลี่ยนสำคัญ โดยเฉพาะการเปิดตัวชิป Willow ของ Google ที่สามารถประมวลผลงานที่คอมพิวเตอร์ทั่วไปต้องใช้เวลา 10 septillion ปีให้เสร็จสิ้นใน 5 นาที ประกอบกับการคาดการณ์ของ Boston Consulting Group ที่ระบุตลาด Quantum Computing จะเติบโตจาก $900 ล้านดอลลาร์ในปี 2023 เป็น $90-170 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2040 หรือ CAGR 31-37% ทำให้เทคโนโลยีนี้กลายเป็น "The Next Alpha Bet" ที่มีศักยภาพปฏิวัติอุตสาหกรรมต่างๆ ตั้งแต่การวิจัยยา การเข้ารหัส ไปจนถึง AI และการจำลองทางวิทยาศาสตร์ ขณะที่บริษัทใหญ่อย่าง IBM, Microsoft, Amazon เริ่มเร่งการลงทุนและพัฒนาระบบ Quantum Computing เชิงพาณิชย์
ETF ที่เกี่ยวข้อง:
จากความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจาก AI และ Data Centers ที่คาดว่าจะเติบโต 33% ต่อปี พร้อมกับการที่ Big Tech อย่าง Google, Amazon, Microsoft และ Meta เริ่มลงนามสัญญาซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เพื่อใช้กับ data centers ประกอบกับเป้าหมาย COP28 ที่จะเพิ่มกำลังการผลิตนิวเคลียร์ 3 เท่าภายใน 2050 และการคาดการณ์ของ IEA ที่ระบุการลงทุนด้านนิวเคลียร์จะเพิ่มจาก $65 พันล้านดอลลาร์ต่อปีเป็น $120-150 พันล้านดอลลาร์ภายใน 2030 ท่ามกลางการขาดแคลน uranium ที่คาดว่าจะขาดอุปทาน 60-70 ล้านปอนด์ภายใน 2025 ทำให้พลังงานนิวเคลียร์กลายเป็น "The Clean Power Game Changer" ที่มีศักยภาพเป็นแหล่งพลังงานสะอาดและเสถียรสำหรับอนาคต โดยเฉพาะนวัตกรรม Small Modular Reactors (SMRs) ที่สร้างได้เร็วและปลอดภัยกว่าเดิม
ETF ที่เกี่ยวข้อง:
จากสถานการณ์ความตึงเครียดด้านสงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้น ส่งผลต่อความไม่แน่นอนของการค้าโลกและเศรษฐกิจ ประกอบกับความเสี่ยงทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ส่งสัญญาณชะลอตัว ทำให้ทองคำยังคงทำหน้าที่ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยภายใต้ความผันผวนจากสงครามการค้า นอกจากนี้ด้วยระดับอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ในหลายประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่อยู่ในระดับสูงในรอบหลายปี และด้วยความสามารถในการใช้กระจายความเสี่ยงสำหรับพอร์ตการลงทุน จึงทำให้ตราสารหนี้โลกยังมีความน่าสนใจในช่วงที่เกิดความผันผวนจากสงครามการค้าที่รุนแรงขึ้นและทิศทางเศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง
ETF ที่เกี่ยวข้อง:
แม้เศรษฐกิจและตลาดหุ้นจีนจะเผชิญความซบเซาในช่วงที่ผ่านมา แต่เริ่มเห็นสัญญาณบวกว่าเศรษฐกิจจีนอาจผ่านพ้นจุดต่ำสุดและมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ในระยะข้างหน้า จากการที่รัฐบาลจีนเริ่มออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและตลาดหุ้นที่เริ่มเห็นผลชัดเจนมากขึ้น พร้อมกับท่าทีที่กลับมาสนับสนุนภาคเอกชน ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง (Structural change) ที่สำคัญ แม้ภาวะเงินฝืดยังเป็นปัจจัยกดดัน แต่เริ่มเห็นการลดการแข่งขันด้านราคาของผู้ประกอบการ ขณะที่การเปิดตัว DeepSeek ยังสะท้อนถึงความก้าวหน้าด้าน AI ของจีน ซึ่งเป็นอีกแรงขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจและตลาดหุ้น
ETF ที่เกี่ยวข้อง: