PDF Available  
Wealth Weekend

INVX Wealth Weekend – มุมมองตลาดหุ้นหลังยุบสภา ปรับกลยุทธ์อย่างไร

12 Dec 25 12:49 PM
สรุปสาระสำคัญ
  • Fed ลดตามคาด แต่เสียงแตก ทิศทางดอกเบี้ยโลกปี 2026 ที่แตกต่างกันมากขึ้น ลงทุนยังไงให้ปลอดภัย
  • เงินเฟ้อจีนพุ่ง แต่อุปสงค์ยังอ่อนแอ การกระตุ้นยังเน้นการบริโภคภายใน ลงทุนอะไร

สรุปภาพรวมการลงทุนสัปดาห์นี้

สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ ได้แรงสนับสนุนจากการลดดอกเบี้ยของ Fed ซึ่งเป็นไปตามคาดการณ์ของตลาด ด้าน Dot Plot ยังระบุว่าส่วนใหญ่มองว่าจะลดดอกเบี้ยอีก 1 ครั้ง ไม่เปลี่ยนแปลงจากครั้งก่อน อย่างไรก็ตามความเห็นแตกต่างกันมากขึ้น ประมาณการเศรษฐกิจในครั้งนี้สะท้อนความเป็น Goldilocks หลัง Fed ปรับเพิ่มคาดกาณ์ GDP ปี 2026 ขึ้นเป็น 2.3% (+0.5pp) ขณะที่คงอัตราว่างงานไว้ที่ 4.4% และลดคาดการณ์เงินเฟ้อ Core PCE ปี 2026 เป็น 2.5% ทั้งนี้หลังการประชุม Powell เน้นว่าดอกเบี้ยนโยบายอยู่ใกล้ระดับสมดุลแล้ว และจะใช้ข้อมูลประกอบในการประชุมแบบครั้งต่อครั้ง นอกจากนั้น FOMC ยังประกาศว่าจะเริ่ม Reserve Management Purchases ราว 4 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน เพื่อรักษาระดับเงินสำรองธนาคารพาณิชย์ให้อยู่ในระดับเพียงพอ ตลาดแรงงานวัดจากตำแหน่งงานว่าง (JOLTS) เพิ่มขึ้นเป็น 7.67 ล้านตำแหน่งในเดือน ต.ค. สูงกว่าตลาดคาดมาก ตลาดหุ้น EM ปรับตัวลงเล็กน้อย กดดันจากตลาดหุ้นอินเดีย และอาเซียน โดยจีนรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ทั่วไปเดือน พ.ย. ปรับขึ้นเป็น +0.7%YoY จาก 0.2%YoY ในเดือน ต.ค. แต่ Core CPI ยังทรงตัว ด้านการส่งออกจีนเดือน พ.ย. กลับมาขยายตัวและสูงกว่าตลาด การประชุม Politburo ของจีนยังเน้นสนับสนุนการบริโภคในประเทศให้เป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจปี 2026 ตลาดหุ้นไทยอ่อนตัวลงจากความขัดแย้งชายแดนกัมพูชาที่รุนแรงขึ้น ล่าสุดนายกฯ อนุทินประกาศยุบสภา เตรียมเข้าสู่การเลือกตั้ง ทำให้รัฐบาลรักษาการอาจไม่สามารถดำเนินการนโยบายใหม่ๆ ได้อย่างเต็มที่ ประเด็นราคาน้ำมันปรับตัวลง จากกังวลอุปทานล้น หลังอิรักกลับมาดำเนินการผลิตที่แหล่งน้ำมัน West Qurna 2 ซึ่งมีกำลังผลิต 0.5% ของอุปทานโลก และ EIA เผยปีนี้ผลผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ จะทำสถิติสูงสุดที่ 13.61 ล้านบาร์เรลต่อวัน

 

ตลาดหุ้นโลก 

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา (1) Fed ลดดอกเบี้ย 25bps สู่กรอบ 3.50-3.75% พร้อมปรับประมาณการ GDP ปี 2026 ขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเป็น 2.3% (+0.5pp) และลดคาดการณ์เงินเฟ้อ Core PCE ปี 2026 เป็น 2.5% (2) จำนวนตำแหน่งงานว่าง (JOLTS) เพิ่มขึ้นเป็น 7.67 ล้านตำแหน่งในเดือน ต.ค. แต่ Hiring rate ลดลงเป็น 3.2% (-0.2pp) และ Quits rate ลดลง 1.8% (-0.2pp)

 

ตลาดหุ้นไทย

ตลาดหุ้นไทยปรับลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา (1) โครงการ Thailand Individual Savings Account) หรือ TISA ผ่านครม. เศรษฐกิจแล้ว แต่ยังไม่ผ่าน ครม.(2) สถานการณ์ไทย-กัมพูชาที่รุนแรงมากขึ้นทำให้พื้นที่ 7 จังหวัดของไทยได้รับผลกระทบ (3) ราชกิจจานุเบกษา ประกาศพระราชกฤษฎีกายุบสภา มีผล 12 ธ.ค. คาดมีการจัดการเลือกตั้งในวันที่ 8 ก.พ. ทำให้โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ เช่น คนละครึ่งเฟส 2 และชอปดีมีคืน ไม่สามารถทำได้

 

ตลาดพันธบัตร

ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับเพิ่มขึ้นที่ 4.15% ขณะที่ระยะสั้น 2 ปีปรับเพิ่มขึ้นที่ 3.53% ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ย 2-10 ปี อยู่ที่ 62 bps
ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี ลดลงที่ 1.70% ขณะที่ระยะสั้น อายุ 2 ปี ลดลงสู่ 1.21% ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิที่ 2,690 ล้านบาท

 

ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์

ราคาน้ำมัน Brent ปรับลง 3.1%WoW สู่ 61.28 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลหลังแหล่งน้ำมันขนาดใหญ่ในอิรักกลับมาผลิตได้อีกครั้ง ขณะที่การผลิตในสหรัฐฯ กำลังจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดใหม่ ด้านราคาทองคำ (Spot) ปรับขึ้น 1.69%WoW สู่ 4,279.21 ดอลลาร์ต่อทรอย-ออนซ์

 

ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ทรงตัวที่ 98.38 จุด  ขณะที่ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงที่ 155.7 เยน ด้านค่าเงินยูโรทรงตัวที่ 1.17 ดอลลาร์ต่อยูโร ด้านค่าเงินเอเชีย ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นรุนแรงที่ 31.7 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่เงินหยวนแข็งค่าขึ้นที่ระดับ 7.06 หยวน

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5