สินทรัพย์ดิจิทัลในสัปดาห์นี้ยังคงเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideways โดยราคา Bitcoin ยืนเหนือระดับ 85,000 ดอลลาร์และยังไม่ทำจุดต่ำสุดใหม่ แม้ช่วงต้นสัปดาห์ราคาจะปรับขึ้นไปใกล้ 94,000 ดอลลาร์ แต่เผชิญแรงขายทำกำไร ขณะที่กระแสเงินทุนจาก Spot ETF ยังคงไหลออก โดย Spot Bitcoin ETF ไหลออกสุทธิ 358.69 ล้านดอลลาร์ และ Spot Ethereum ETF ไหลออก 224.78 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้มูลค่าตลาดรวมของสินทรัพย์ดิจิทัลลดลงประมาณ 5%
สำหรับเราคาดว่าปัจจุบัน Bitcoin อยู่ในระดับที่มี Risk/Reward น่าสนใจสำหรับการเข้าซื้อเพื่อลุ้นรีบาวด์ระยะสั้น โดยมีโอกาสทดสอบเส้น SMA 200 วัน
บริเวณ 98,000–108,000 ดอลลาร์ หลังเริ่มเกิด higher low และหากเกิด higher high จะเพิ่มโอกาสปรับขึ้นต่อ โดยกำหนด Stop Loss 80,000 ดอลลาร์ และ Take Profit ที่ 98,000–108,000 ดอลลาร์ ก่อนตลาดเลือกทิศทางถัดไป
ขณะเดียวกัน การเติบโตของ Bitcoin Treasuries ของบริษัทและสถาบันสะท้อนการยกระดับ Bitcoin สู่สินทรัพย์เชิงกลยุทธ์ โดยการถือครองเพิ่มขึ้นเป็นราว 5.94 ล้าน BTC หรือประมาณ 30% ของอุปทานหมุนเวียนทั้งหมด ขณะที่เอเชียเป็นภูมิภาคที่มีการใช้งานคริปโทมากที่สุด และประเทศไทยอยู่อันดับที่ 15 ของโลก
1. การเติบโตอย่างต่อเนื่องของ Bitcoin Treasuries ของบริษัทและสถาบัน สะท้อนการยกระดับ Bitcoin สู่สินทรัพย์เชิงกลยุทธ์ในระยะยาว (Strategic Asset Allocation)
แม้ภาพระยะสั้นยังผันผวน แต่โครงสร้างระยะยาวของตลาดยังแข็งแรง สะท้อนจากการเติบโตของ Bitcoin Treasuries ของบริษัทและสถาบัน ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นราว 5.94 ล้าน BTC หรือประมาณ 30% ของอุปทานหมุนเวียนทั้งหมด โดยแนวโน้มการสะสมเริ่มชัดเจนตั้งแต่ปี 2023 บ่งชี้การเปลี่ยนผ่านของ Bitcoin สู่สินทรัพย์เชิงกลยุทธ์ในพอร์ตการลงทุนระดับสถาบัน
2. เอเชียเป็นภูมิภาคที่มีการใช้งานจริงคริปโทเคอร์เรนซีมากที่สุดในโลก ขณะที่ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 15 ของการจัดอันดับโลก
ด้านการใช้งานจริง เอเชียยังเป็นศูนย์กลางการยอมรับคริปโท โดยคริปโทถูกใช้เป็นโครงสร้างพื้นฐานทางการเงิน ทั้งการโอนเงินและการป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน โดย 7 ประเทศในเอเชียติดอันดับ Top 10 ของโลก ได้แก่ อินเดีย ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เวียดนาม เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ส่วนประเทศไทยอยู่อันดับ 15 ของโลก ในส่วนอินเดียได้ครองอันดับ 1 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 จากฐานผู้ใช้งานที่มีความรู้และนักพัฒนาที่แข็งแกร่ง
3. USDT กลายเป็นสินทรัพย์หลักในการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลของไทย โดยคิดเป็น 44% ของมูลค่าการซื้อขายรวมทั้งหมด
Tether (USDT) คือ คริปโทเคอร์เรนซีประเภท Stablecoin ที่มีการตรึงมูลค่ากับดอลลาร์สหรัฐในอัตรา 1:1 โดยออกแบบมาเพื่อลดความผันผวนของราคาในตลาดคริปโทและเพิ่มความเสถียรในการทำธุรกรรมดิจิทัล จากข้อพบจาก กลต พบว่า ว่ามูลค่าการซื้อขาย USDT มีแนวโน้มสูงกว่าการซื้อขาย Bitcoin อย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง มิถุนายน – พฤศจิกายน 2025 สัดส่วน USDT คิดเป็นราว 44% ของมูลค่าการซื้อขายรวมทั้งหมด
4. Bitcoin มีพฤติกรรมเคลื่อนที่สวนทางกับทองคำนับตั้งแต่ปี 2023 โดยล่าสุดอยู่ในช่วงเวลาที่ทองคำปรับตัวขึ้นค่อนข้างมาก ในขณะที่ Bitcoin กำลังปรับฐาน
ตั้งแต่ปี 2023 จนถึงปัจจุบัน ราคา Bitcoin มักมีพฤติกรรมเคลื่อนที่สวนทางกับราคาทองคำในบางช่วง
-ทองคำ ขึ้น Bitcoin ลง
-ทองคำ ลง Bitcoin ขึ้น
โดยในไตรมาส 4 นี้ราคาทองคำอยู่ในช่วงที่มีการปรับตัวขึ้นค่อนข้างแรง ในขณะที่ราคา Bitcoin นั้นปรับตัวลดลงค่อนข้างมาก
มีความเป็นไปได้ว่าเมื่อไรก็ตามที่ทองคำลดความร้อนแรงลง อาจเป็นจังหวะที่ Bitcoin เริ่มปรับตัวขึ้นได้
5. ตอนนี้ราคา Bitcon อยู่ในจุด Risk/Reward เริ่มน่าสนใจเพื่อลุ้นรีบาวด์ในระยะสั้น
ราคา Bitcoin อยู่ในช่วงที่น่าสนใจจากการแสดงสัญญาณฟื้นตัวในระยะสั้นโดยเกิด higher low หากราคาปรับตัวขึ้นต่อและเกิด higher high มีความเป็นไปได้ว่ามีแนวโน้มที่ราคาจะขึ้นต่อในระยะสั้น
ราคาปัจจุบันมีความน่าสนใจเพราะมี Risk/Reward ที่คุ้ม โดยจำกัดความเสี่ยง (Stop Loss) ที่จุดต่ำสุด ณ ราคา $80,000 ขณะที่สามารถหวังทำกำไร (Take Profit) ได้ในช่วง $98,000 - $108,000 ก่อนตลาดจะเลือกทิศทางต่อไปว่าจะขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่หรือกลับตัวเป็นขาลงต่อ
คำเตือน: ผู้ลงทุนควรศึกษา ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้