สรุปสาระสำคัญ
สินทรัพย์ดิจิทัลในสัปดาห์นี้เริ่มฟื้นตัว โดย ETH เป็น top performer ราคายืนเหนือ $3,200 ขณะที่ Bitcoin ยังทรงตัวบริเวณราคา $90,000 โดยไม่ทำจุดต่ำสุดใหม่ พร้อมกระแสเงินทุนไหลเข้า Spot ETF ต่อเนื่อง โดย Spot Bitcoin ETF +$314.78 ล้าน และ Spot Ethereum ETF +$270.72 ล้าน
Fed ลดดอกเบี้ยครั้งที่ 3 ของปีสู่กรอบ 3.50–3.75% และยุติ QT ตั้งแต่ 1 ธ.ค. หนุนบรรยากาศ Easing Cycle แม้สินทรัพย์ดิจิทัลอาจยังไม่ปรับราคาขึ้นในทันที แต่สภาพคล่องที่เพิ่มขึ้นมักไหลสู่ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลซึ่งเป็นสินทรัพย์เสี่ยงสูงในระยะถัดไป
BTC รีบาวด์กว่า 12% จากจุดต่ำสุด โดยยังมีโอกาสขึ้นทดสอบเส้น SMA 200 วันที่ $98,000–$108,000 ตามรูปแบบเดิมที่มักดีดตัวก่อนเลือกทิศทางใหม่ ด้าน On-chain แรงขายจากนักลงทุนระยะยาว (Long-Term Holders, LTH) เริ่มอ่อนแรง หลัง LTH Supply ลดลงสู่ 14.33 ล้าน BTC ต่ำสุดตั้งแต่เดือนมีนาคม สะท้อนว่าตลาดอาจอยู่ในช่วงฟื้นตัว ในส่วนของ ETH ได้แรงหนุนจาก BlackRock ที่ยื่นขอ Staked Ethereum ETF พร้อมกับมีสัญญาณจากคู่เหรียญ ETH/BTC เบรคแนวโน้มและยืนเหนือแนวต้านแรก บ่งบอกว่า ETH อาจเริ่มเข้าสู่ช่วง Outperform BTC หากโมเมนตัมยังคงแข็งแรง
ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลกำลังส่งสัญญาณฟื้นตัว ท่ามกลางพัฒนาการสำคัญทั้งในผลิตภัณฑ์การลงทุน นโยบายการเงิน และสัญญาณโครงสร้างบนเครือข่ายบล็อกเชน
- โดยหนึ่งในปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญคือ Bitwise เปิดตัว Crypto Index ETF รวม 10 เหรียญยอดนิยม หรือ BITW ซึ่งได้รับการอนุมัติจาก SEC และเริ่มซื้อขายบน NYSE Arca ถือเป็นก้าวใหม่ในการนำเสนอการลงทุนแบบกระจายตัวในคริปโทผ่านกองทุนเดียว ครอบคลุมสินทรัพย์หลักอย่าง Bitcoin, Ethereum, XRP, Solana และอีกหลายเหรียญ พร้อม AUM เริ่มต้นกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ และกลไกการปรับสัดส่วนรายเดือนตามมูลค่าตลาดเพื่อสะท้อนโครงสร้างตลาดจริง อีกทั้งยังจำกัดน้ำหนักเหรียญเล็กรวมกันไม่เกิน 10% เพื่อลดความผันผวน เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการ Exposure แบบดัชนีโดยไม่ต้องเลือกเหรียญเอง
- ความเคลื่อนไหวเชิงนโยบายของสหรัฐฯ ยังช่วยสนับสนุนบรรยากาศการลงทุน หลัง Fed ยุติ QT ตั้งแต่ 1 ธ.ค. และลดดอกเบี้ยครั้งที่ 3 ของปี 2025 ซึ่งเป็นสัญญาณชัดเจนของ Easing Cycle คล้ายรอบปี 2019 ที่สินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวขึ้นตามมา แม้สินทรัพย์ดิจิทัลอาจตอบสนองช้ากว่าตลาดหุ้นตามรูปแบบในอดีต แต่เมื่อสภาพคล่องไหลกลับเข้าระบบมากขึ้น ก็มีโอกาสกระจายเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงสูงอย่างคริปโทในลำดับถัดไป
- ในมุมราคา Bitcoin เริ่มเห็นการฟื้นตัว โดยรีบาวด์กว่า 12% จากจุดต่ำสุด และมีแนวโน้มขึ้นทดสอบเส้น SMA 200 วันบริเวณ $98,000–$108,000 จากพฤติกรรมของราคา Bitcoin ในอดีต
หากตลาดมีการเทขายมากเกินไป (Oversold) หรือเริ่มกลับตัวเป็นขาลงแล้ว ราคา Bitcoin มักจะมีการรีบาวด์กลับขึ้นไปทดสอบเส้น SMA 200 วัน ก่อนจะมีการปรับตัวลดลงต่อ
- สัญญาณ On-chain ยิ่งตอกย้ำภาพฟื้นตัว โดย แรงขายของ Long-Term Holders เริ่มอ่อนแรงลง หลังยอดถือครองลดลงแตะ 33 ล้าน BTC ต่ำสุดตั้งแต่เดือนมีนาคม และราคายังไม่ทำจุดต่ำใหม่ สะท้อนว่าการกระจายสินทรัพย์จากผู้ถือระยะยาวอาจใกล้สิ้นสุด ซึ่งในอดีตมักนำไปสู่แรงซื้อกลับและการรีบาวด์ในระยะสั้น
- ความน่าสนใจในฝั่ง Ethereum ยังได้รับแรงหนุนจากฝั่งสถาบัน หลังมีรายงานว่า BlackRock เดินเรื่องยื่นขอจัดตั้ง Staked Ethereum ETF ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนได้รับผลตอบแทนจากการ Staking บนเครือข่าย Ethereum หากได้รับอนุมัติ จะยิ่งเสริมความแข็งแกร่งเชิงโครงสร้างของ ETH ในฐานะสินทรัพย์ที่สร้างผลตอบแทนได้บนเครือข่าย
- ขณะที่สัญญาณเชิงเทคนิคของ ETH เองก็เริ่มเด่นขึ้น โดย Ethereum อาจเริ่ม Outperform Bitcoin เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 เดือน หลังอัตราส่วน ETH/BTC เบรกเทรนด์ไลน์ขาลงและยืนเหนือแนวต้านแรกได้ สะท้อนแรงซื้อที่เริ่มกลับเข้าสู่ Ethereum และอาจต่อยอดเป็นโมเมนตัมเชิงบวก หากระดับแนวรับใหม่สามารถยืนได้อย่างมั่นคง
คำเตือน: ผู้ลงทุนควรศึกษา ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้