1.ฟิวเจอร์สสหรัฐเปิดแดนเขียว รับงบเทคฯโต ขณะจับตาประชุม FOMC พุธหน้า
2.Broadcom (AVGO) pre-mkt +15% รับรายได้โต 50% YoY คาดรายได้ AI พุ่ง $90bn ปี 2027
3.ECB ลดดอกเบี้ยรอบที่ 4 ปีนี้ เหลือ 3% พร้อมส่งสัญญาณลดต่อปีหน้า
4.หุ้นจีนร่วง -2.4% ผิดหวังแผนกระตุ้นศก.ไม่ชัดเจน
5.เยนทรุดอ่อนค่า 5 วันติด อ่อนสุดใน 3 สัปดาห์ หลังคาด BOJ ยังไม่ขึ้นดอกเบี้ย
🌙 เรื่องต้องรู้ก่อนเปิดตลาดสหรัฐคืนนี้ 13 ธ.ค. 2567
1. ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ส่งสัญญาณปิดสัปดาห์อย่างแข็งแกร่ง โดยฟิวเจอร์ส S&P 500 ปรับตัวขึ้น 0.3% และ Nasdaq 100 พุ่งขึ้น 0.7% นำโดย Broadcom ที่พุ่งขึ้นถึง 15% ในช่วงก่อนตลาดเปิด หลังประกาศคาดการณ์อุปสงค์ชิป AI ที่จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด Timothy Graf หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์มหภาคภูมิภาค EMEA จาก State Street Global Markets ชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังแข็งแกร่ง และการเข้ามาของรัฐบาลใหม่ที่สนับสนุนภาคธุรกิจ แม้จะถูกสะท้อนในราคาแล้ว แต่ตลาดยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อได้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่า S&P 500 จะทำผลตอบแทนดีกว่าตลาดยุโรปอีกครั้งในปี 2025
2. Broadcom (AVGO) ประกาศผลประกอบการเติบโตแข็งแกร่ง 50% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากแรงหนุนของอุปสงค์ด้าน AI ที่เพิ่มขึ้น บริษัทคาดการณ์โอกาสสร้างรายได้จาก AI สูงถึง 60-90 พันล้านดอลลาร์ในปี 2027 โดยมีลูกค้าไฮเปอร์สเกลรายใหญ่ 3 ราย วางแผนติดตั้งคลัสเตอร์ชิป AI จำนวนมาก นอกจากนี้ยังคาดการณ์รายได้ไตรมาส 1/2025 ที่ 14.6 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ อย่างไรก็ตาม บริษัทเผชิญความท้าทายจากการที่ Apple วางแผนพัฒนาชิป Proxima เองสำหรับการเชื่อมต่อ Bluetooth และ Wi-Fi ซึ่งจะเริ่มใช้ในปี 2025
ความเห็น InnovestX Research: ด้วยภาพนี้ทำให้เราคาดหวังต่อ Ecosystem ของบริษัทในระยะถัดไปที่คาดว่าจะสามารถดึงดูดลูกค้าใหม่และรักษาฐานลูกค้าที่แกร่งได้ ภาพนี้มีส่วนหนุนเติบโตของรายได้ในระยะถัดไปและชดเชยประเด็นการไม่มี Innovative ใหม่ได้
3. ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 3.00% นับเป็นการปรับลดครั้งที่ 4 ของปี พร้อมส่งสัญญาณการปรับลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมในครึ่งแรกของปี 2025 เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัวและเงินเฟ้อใกล้เป้าหมาย 2% ECB คาดการณ์เงินเฟ้อปี 2024 ที่ 2.4% และปี 2025 ที่ 2.1% ขณะที่การเติบโตทางเศรษฐกิจถูกปรับลดลง โดยคาด GDP จะเติบโตเพียง 0.7% ในปี 2024 และ 1.1-1.4% ในปี 2025-2026 ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการเมืองในยุโรปและความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศ
4. ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง โดยดัชนี CSI 300 ร่วงลง 2.4% สร้างการขาดทุนรายสัปดาห์ 1% หลังนักลงทุนผิดหวังที่การประชุมนโยบายสำคัญไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชัดเจน ดัชนีหุ้นจีนในฮ่องกงก็ปรับตัวลงกว่า 2% เช่นกัน ส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั้งแร่เหล็กและทองแดงที่พึ่งพาอุปสงค์จากจีน ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลจีนร่วงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
5. ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 แตะระดับ 153.48 เยนต่อดอลลาร์ ต่ำสุดนับตั้งแต่ 26 พฤศจิกายน เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า Bloomberg รายงานว่าผู้กำหนดนโยบายของ BOJ เห็นว่าการรอปรับขึ้นดอกเบี้ยจนถึงเดือนมกราคมหรือหลังจากนั้นมีความเสี่ยงต่ำ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อไม่น่าจะพุ่งสูงเกินคาด แม้ว่าจะเปิดโอกาสในการปรับขึ้นดอกเบี้ยสัปดาห์หน้าขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจและพัฒนาการของตลาด
ที่มา: Bloomberg
แปลและเรียบเรียง: InnovestX
💎 เปิดบัญชีเทรดหุ้นสหรัฐฯ กับ InnovestX วันนี้! รับโอกาสลงทุนในบริษัทระดับโลก พร้อมบทวิเคราะห์คุณภาพจากทีมผู้เชี่ยวชาญ ดาวน์โหลดแอพและเปิดบัญชีได้ที่ 👉 https://innovestx.onelink.me/23if/u2qmpt6r