PDF Available  
News update Thai Stocks

News Update - TOP กำไรสุทธิ 3Q68 ที่ 2.1 พันลบ. เป็นไปตามคาด; สะท้อนการหยุดซ่อมบำรุง CDU-3

By ชัยพัชร ธนวัฒโน|7 Nov 25 2:32 PM
สรุปสาระสำคัญ
  • TOP รายงานกำไรสุทธิ 3Q68 ที่ 2.1 พันลย. (-67% QoQ, >100% YoY) เป็นไปตามคาด โดยได้รับแรงหนุนจากกำไรจากสต๊อกน้ำมัน 1.5 พันลบ. และกำไรจากการซื้อคืนหุ้นกู้ 1.4 พันลบ. กำไรจากการดำเนินงานปกติลดลง 29% QoQ มาอยู่ที่ 1.3 พันลบ. เพราะได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันดิบนำเข้ากลั่นที่ลดลง 27% จากการซ่อมหยุดบำรุง CDU-3 และส่วนต่างราคาน้ำมันเบนซินที่อ่อนตัวลง กำไรสุทธิ 9M68 ที่ 1.21 หมื่นลบ. (+69% YoY) ได้รับแรงหนุนจากกำไรพิเศษและสูงกว่าประมาณการกำไรทั้งปีของเรา เรายังคงคำแนะนำ NEUTRAL ด้วยราคาเป้าหมายกลางปี 2569 ที่ 42 บาท อิงกับ PBV ที่ 0.5 เท่า
  • กำไรจากสต๊อกน้ำมันช่วยหนุนกำไรของธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน แม้ปริมาณการผลิตจะลดลง ธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน (กลุ่มธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดของ TOP) รายงานกำไรสุทธิ 716 ลบ. ใน 3Q68 ฟื้นตัวจากขาดทุน 3.2 พันลบ. ใน 2Q68 โดยได้รับแรงหนุนจากกำไรจากสต๊อกน้ำมัน 1.5 พันลบ. (US$2.2/bbl) และส่วนต่างราคาน้ำมันดีเซลและน้ำมันอากาศยาน/น้ำมันก๊าดที่ปรับตัวดีขึ้น ค่าการกลั่นไม่รวมผลกระทบจากสต๊อกน้ำมันลดลงมาอยู่ที่ US$3.5/bbl (เทียบกับ US$5.2 ใน 2Q68) เพราะได้รับผลกระทบจากส่วนต่างราคาน้ำมันเบนซินและน้ำมันเตาที่อ่อนตัวลง อัตราการใช้กำลังการกลั่นลดลงมาอยู่ที่ 82% (227kbd) จาก 113% ใน 2Q68 เนื่องจากมีการหยุดซ่อมบำรุง CDU-3 เป็นเวลา 28 วัน เมื่อรวมกำไรจากสต๊อกน้ำมัน ค่าการกลั่นเพิ่มขึ้นเป็น US$5.8/bbl (เทียบกับ US$0.8 ใน 2Q68) ส่งผลทำให้ EBITDA ของธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.5 พันลบ. (เทียบกับ -1.1 พันลบ. ใน 2Q68)
  • ธุรกิจผลิตสารอะโรเมติกส์และสาร LAB: การหยุดซ่อมบำรุงและส่วนต่างราคาที่อ่อนแอเป็นตัวฉุดรั้งกำไร ธุรกิจผลิตสารอะโรเมติกส์และสาร LAB รายงานขาดทุนสุทธิ 284 ลบ. ใน 3Q68 (เทียบกับกำไร 113 ลบ. ใน 2Q68) เนื่องจากส่วนต่างราคาสารเบนซีนและสารโทลูอีนกับน้ำมันเบนซิน 95 ลดลง และอัตราการผลิตลดลงมาอยู่ที่ 39% จากการซ่อมบำรุงตามกำหนด ราคาสาร LAB เพิ่มขึ้น QoQ จากอุปทานที่ตึงตัวขึ้น แต่การผลิตที่ลดลงทำให้ EBITDA ลดลง 29% มาอยู่ที่ 71 ลบ.
  • ธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน: ส่วนต่างราคาที่แข็งแกร่งช่วยชดเชยผลผลิตที่ลดลง EBITDA ของธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานลดลง 20% QoQ มาอยู่ที่ 643 ลบ. จากการผลิตที่ลดลง (อัตราการใช้กำลังการผลิต 54%) แต่ส่วนต่างราคากับน้ำมันเตาปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ US$647/ตัน (+6% QoQ) ซึ่งช่วยสนับสนุนมาร์จิร กำไรสุทธิลดลง 22% QoQ มาอยู่ที่ 461 ลบ. แต่เพิ่มขึ้น 46% YoY
  • ธุรกิจผลิตไฟฟ้า: ปริมาณการจำหน่ายลดลง แต่รายได้จากเงินปันผลช่วยหนุนกำไรสุทธิ กำไรสุทธิของธุรกิจผลิตไฟฟ้าลดลง 42% QoQ มาอยู่ที่ 366 ลบ. จากการหยุดซ่อมบำรุงตามแผนและปริมาณการจำหน่ายไฟฟ้าและไอน้ำที่ลดลง อย่างไรก็ตาม รายได้เงินปันผลจาก GPSC เพิ่มขึ้นเป็น 141 ลบ. ใน 3Q68 ซึ่งช่วยชดเชยการลดลงบางส่วน
  • ธุรกิจผลิตสารโอเลฟินส์: ไม่มีกำไรพิเศษเหมือนใน 2Q68 ธุรกิจผลิตสารโอเลฟินส์กลับมามีผลขาดทุน 86 ลบ. ใน 3Q68 (เทียบกับกำไร 6.5 พันลบ. ใน 2Q68) เนื่องจากในไตรมาสก่อนหน้า CAP มีการรับรู้กำไรพิเศษ 7 พันลบ.จากการเข้าซื้อธุรกิจในประเทศสิงคโปร์ การดำเนินงานปกติยังคงอ่อนแอจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่อ่อนตัวลงและอุปทานส่วนเกินในเอเชีย
  • แนวโน้ม: คาดว่าจะฟื้นตัวใน 4Q68 จากอัตราการใช้กำลังการผลิตที่สูงขึ้น CDU-3 ของ TOP กลับมาดำเนินการผลิตอีกครั้ง และคาดว่าปริมาณน้ำมันดิบที่นำเข้ากลั่นจะกลับสู่ระดับปกติใน 4Q68 ส่วนต่างราคาน้ำมันดีเซลยังคงแข็งแกร่ง (>US$18/bbl) ซึ่งน่าจะช่วยสนับสนุนค่าการกลั่น อย่างไรก็ตาม มาร์จิ้นของน้ำมันเบนซินอาจยังคงภายใต้แรงกดดัน เนื่องจากกำไร 9M68 สูงกว่าประมาณการกำไรทั้งปีของเราแล้ว เราจะทบทวนประมาณการกำไรของเราอีกครั้ง
  • คงคำแนะนำ OUTPERFORM โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 42 บาท อิงกับ PBV 0.5 เท่า
Stocks Mentioned
TOP.BK
Author
Slide12
ชัยพัชร ธนวัฒโน

นักวิเคราะห์อาวุโสกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5