PDF Available

News Update - อาหาร ผลกระทบจากเหตุการณ์ปะทะไทย-กัมพูชายังคงมีจำกัด

By ศิริมา ดิสสรา, CFA|15 Dec 25 4:45 PM

Read Full PDF

สรุปสาระสำคัญ

ผลกระทบจากสถานกาณ์ข้อขัดแย้งระหว่างไทยกัมพูชา สำหรับกลุ่มอาหาร จนถึงปัจจุบันยังมีจำกัด ทั้งในส่วนของรายได้จากประเทศกัมพูชา และคนงานกัมพูชา สำหรับการดำเนินงานในประเทศไทย

ในส่วนของบริษัทที่มีรายได้จากกัมพูชา CPF และ BTG มีรายได้จากกัมพูชา 3-4% ของรายได้ และ 3% ของรายได้ โดยเป็นทั้งธุรกิจ feed farm food ในการผลิตเนื้อสัตว์บก โดยเป็นการผลิตและจัดจำหน่ายในประเทศกัมพูชาทั้งหมด ปัจจุบันโรงงานยังคงดำเนินการตามปกติ และแต่ละบริษัทยังคงมียอดขายสินค้าภายในประเทศกัมพูชาเป็นปกติ
ในส่วนของคนงานกัมพูชาในไทย สถานการณ์การขาดแคลนแรงงานกัมพูชา สำหรับการผลิตในประเทศไทย ผ่านช่วงที่แย่สุดไปแล้วตั้งแต่เดือนส.ค. 2025 (หลังจากที่สถานการณ์ปะทะระหว่างไทยกัมพูชารุนแรงขึ้นครั้งแรก) โดยสถานการณ์ตั้งแต่ปลาย 3Q25 ถึงปัจจุบัน ทุกบริษัทในกลุ่มสามารถหาคนงานจากพม่าและไทย มาทดแทนคนงานกัมพูชาที่กลับประเทศไปแล้ว เกือบทั้งหมด และสถานการณ์คนงานกัมพูชาส่วนที่เหลือในไทย (เหลืออีกไม่มากนัก) ยังเป็นปกติ
สำหรับ SET ESG Ratings 2025 - GFPT ได้รับการติดอันดับเข้า SET ESG Ratings 2025 โดยได้ระดับ AA (จากเดิมปี 2024 ไม่ติดอันดับ) ITC ได้รับการติดอันดับเข้า SET ESG Ratings 2025 โดยได้ระดับ A (จากเดิมปี 2024 ไม่ติดอันดับ) TU ได้ปรับระดับ SET ESG Ratings 2025 โดยได้ระดับ AA (จาก A ในปี 2024) ทั้งนี้ สำหรับ BTG CPF ยังคงได้ระดับ SET ESG Ratings 2025 ที่ AAA (ไม่เปลี่ยนแปลงจากปี 2024)
หุ้นเด่นของเราในกลุ่มได้แก่ GFPT TU

Author

ศิริมา ดิสสรา, CFA

หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์