ข่าว: คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติเห็นชอบหลักเกณฑ์การกำหนดโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติใหม่ โดยให้ราคาสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ส่งผลให้ราคาก๊าซธรรมชาติที่เข้าและออกจากโรงแยกก๊าซ รวมถึงก๊าซที่ใช้ผลิตก๊าซหุงต้ม (LPG) ใช้ต้นทุนเท่ากับราคาเฉลี่ยของก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย
- ขณะที่ก๊าซธรรมชาติสำหรับการผลิตไฟฟ้า ภาคขนส่ง (NGV) และภาคอุตสาหกรรมจะใช้ราคา Pool Price ซึ่งเป็นราคาเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของก๊าซจาก 3 แหล่ง ได้แก่ อ่าวไทย เมียนมา และก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) นำเข้า
- ราคาก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทย ที่เข้าโรงแยกก๊าซจะมีราคาสูงกว่าราคาก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยที่นำมาคำนวณใน Pool Price ร้อยละ 10 ซึ่งโรงแยกก๊าซธรรมชาติเป็นผู้รับภาระส่วนต่างราคา โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 เป็นต้นไป
ความเห็น INVX: มองธุรกิจโรงแยกก๊าซได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซลดลง โดยจากข้อมูลล่าสุดในเดือน ต.ค. ต้นทุนจะลดลง 37% หากใช้ราคาตามสูตรใหม่ ผลที่จะได้ในอนาคตจะขึ้นกับราคาก๊าซที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งมีแนวโน้มลดลงตามราคาน้ำมันดิบดูไบและน้ำมันเตา แล้วแต่สูตรการคำนวณ เราประเมินว่าจะทำให้ EBITDA ของธุรกิจโรงแยกก๊าซจะกลับขึ้นไปในระดับใกล้เคียงกับช่วงก่อนที่จะมีการเปลี่ยนไปใช้ Pool Price ซึ่งจะทำให้กำไรปี 2569 เพิ่มขึ้นประมาณ 17-18%. ขณะที่ PTTGC ก็น่าจะได้ประโยชน์จากต้นทุน Ethane ที่ลดลงเช่นกัน ตามหลักของ profit sharing จากที่บริษัทเคยให้ข้อมูลในช่วงการเปลี่ยนสูตรราคาเป็น pool price ว่ามีผลลบ 3% ในรอบนี้ก็น่าจะทำให้ต้นทุนลดลง 3%
คงคำแนะนำ Outperform ทั้ง PTT (TP: Bt39) และ PTTGC (TP: Bt33)