PDF Available  
Wealth Weekend

INVX Wealth Weekend – Fed Hawkish cut ทิศทางดอกเบี้ยจากนี้ยังเป็นขาลงอยู่หรือไม่

31 Oct 25 12:50 PM
สรุปสาระสำคัญ
  • สงครามการค้าผ่อนคลาย หลังการพบกันของ 2 ผู้นำ ตลาดไปต่อไหม  
  • สัปดาห์นี้งบ 5 ใน 7 Magnificent 7 ส่วนใหญ่ดีกว่าคาด หุ้นไหนน่าสะสมต่อ

สรุปภาพรวมการลงทุนสัปดาห์นี้

สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นโลกยังปรับขึ้นได้ต่อ จากแรงเก็งกำไรประเด็นสงครามการค้าที่มีสัญญาณที่เป็นบวกมากขึ้น หลังปธน. ทรัมป์ และ ปธน. สี จิ้นผิง เห็นพ้องในกรอบข้อตกลงทางการค้า (Framework Agreement) โดยประเด็นหลักคือ จีนจะชะลอมาตรการควบคุมการส่งออกแร่หายาก (rare earths) อย่างน้อย 1 ปี ขณะที่ สหรัฐฯ ลดภาษีสินค้าจีนบางรายการ รวมถึงภาษี Fentanyl จาก 20% เหลือ 10% ถือเป็นสัญญาณบวกในระยะสั้น ด้านการประชุม FOMC มีการลดดอกเบี้ยนโยบายลง 25bps สู่กรอบ 3.75–4.00% ตามที่ตลาดคาด นอกจากนี้ยังประกาศว่าจะยุติการลดขนาดงบดุล (balance sheet runoff) ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2025 โดย ประธานเฟดระบุหลังการประชุมว่ายังมีความเห็นที่แตกต่างกันอย่างมากต่อทิศทางในเดือน ธ.ค. ทำให้การลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ธ.ค. “ไม่ใช่สิ่งที่แน่นอน” นอกจากนั้นตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากผลประกอบการที่ออกมาดีกว่าคาด และแผนการลงทุนใน AI ต่อเนื่อง ด้าน BOJ และ ECB มีมติคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ตามตลาดคาด โดย BOJ ระบุ หากเศรษฐกิจและราคาเป็นไปตามแนวโน้มที่คาดไว้ ธนาคารจะดำเนินการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องและลดการผ่อนคลายเชิงนโยบายลงตามความเหมาะสม ด้านตลาดหุ้น EM ได้ปัจจัยบวกทำให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศเอเชียเหนือ ที่ได้ผลบวกทั้งทิศทางสงครามการค้าที่บรรเทาลงในระยะสั้น และผลบวกจากแผนการลงทุนใน AI ด้านตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวเล็กน้อย ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค โดยกระทรวงการคลังปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP เป็น 2.4% จาก 2.2% จากแรงหนุนของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ตัวเลขภาคการส่งออกเดือน ก.ย. 2025 ขยายตัวที่ 19.0% YoY จาก 5.8% เดือนก่อน สูงกว่าตลาดคาด ราคาน้ำมันอ่อนตัวลงแม้ตัวเลขสต๊อกน้ำมันสหรัฐจะลดลงกว่าคาด แต่ตลาดกำลังจับการประชุม OPEC+ ที่คาดจะมีการเพิ่มการผลิตต่อในเดือน ธ.ค.  

 

ตลาดหุ้นโลก 

ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา (1) สถานการณ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนดีขึ้นชัดเจนหลังการพบกันของปธน. ทรัมป์และ ปธน. สี จิ้นผิง โดยได้ข้อตกลงในการลดภาษี Fentanyl เหลือ 10% และชะลอการควบคุมแร่หายาก  (2) Fed ลดดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาด แต่ถ้อยแถลงของ Powell มีสัญญาณ Hawkish ขึ้น  (3) BoJ คงดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาด (4) ECB คงดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาด

 

ตลาดหุ้นไทย

ตลาดหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา (1) กระทรวงการคลังปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจไทยเป็น 2.4% จากเดิม 2.2% จากแรงหนุนของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (2) ไทยลงนาม MOU ความร่วมมือด้านแร่สำคัญกับสหรัฐฯ ในด้านการค้า สำรวจและผลิต (3) การส่งออกของไทยในเดือน ก.ย. 2025 ขยายตัวที่ 19.0%YoY จาก 5.8% เดือนก่อน สูงกว่าตลาดคาดที่ 7.2% 

 

ตลาดพันธบัตร

ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับเพิ่มขึ้นที่ 4.10% ขณะที่ระยะสั้น 2 ปีปรับเพิ่มขึ้นที่ 3.60% ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ย 2-10 ปี อยู่ที่ 40 bps
ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี ทรงตัวที่ 1.72% ขณะที่ระยะสั้น อายุ 2 ปี เพิ่มขึ้นสู่ 1.28% ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิที่ 26,812 ล้านบาท

 

ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์

ราคาน้ำมัน Brent ปรับลง 1.50%WoW สู่ 65.00 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ตลาดกังวลอุปทานจะเพิ่มขึ้นจาก OPEC+ จะเพิ่มการผลิตต่อใน ธ.ค. 2568 อีก 137kBD ในการประชุมช่วงสุดสัปดาห์นี้ ราคาทองคำ (Spot) ลดลง 2.57%WoW สู่ 4,020.49 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์

 

ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) แข็งค่าขึ้นที่ 99.53 จุด  ขณะที่ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงที่ 153.99 เยน ด้านค่าเงินยูโรทรงตัวที่ 1.16 ดอลลาร์ต่อยูโร ด้านค่าเงินเอเชีย ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นที่ 32.3 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่เงินหยวนแข็งค่าขึ้นที่ระดับ 7.11 หยวน

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5